เปิดเส้นทางเกษตรกรตัวอย่างที่ผันตัวจากการทำสวนกล้วยไม้ส่งออกธรรมดาๆ ให้ก้าวเข้าสู่สวนกล้วยไม้เชิงท่องเที่ยว ย่านตลาดน้ำคลองลัดมะยม
ในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมาสวนกล้วยไม้ของไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในกลุ่มชาวเกษตรกร เนื่องจากในช่วงนั้นการส่งออกกล้วยไม้กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด จึงส่งผลให้เกษตรกรหลายคนเริ่มผันตัวมาทำสวนกล้วยไม้ในการส่งออก
เมื่อช่วงเวลาผ่านไปหลายสิ่งอย่างเริ่มเปลี่ยน การส่งออกกล้วยไม้ของไทยเริ่มซบเซาเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและมาตรการกีดกันในเรื่องของโรคแมลง โดยเฉพาะแมลงบั่วและเพลี้ยไฟ ทำให้ในปัจจุบัน ลุงวิฑูรย์ ทองมาก เจ้าของสวนกล้วยไม้ลุงนิยม ซึ่งได้รับช่วงต่อให้ดูแลกิจการสวนกล้วยไม้ต่อจากคุณพ่อนิยม จึงได้ผันตัวจากเกษตรกรทำสวนกล้วยไม้เพื่อการส่งออกมาเป็นเกษตรกรทำสวนกล้วยไม้เพื่อการท่องเที่ยวในย่านตลาดน้ำคลองลัดมะยม...
ก่อนจะมาทำสวนกล้วยไม้ คุณลุงทำอาชีพอะไรมาก่อน
สมัยก่อนลุงเริ่มต้นจากการทำสวนผัก ผักสวนครัว ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด โหระพา กะเพราอะไรจำพวกนี้ เพราะส่วนใหญ่พื้นที่แถวนี้เป็นพื้นที่ต่ำ เพราะฉะนั้นเวลาหว่านเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัวแล้ว จะทำให้ผักจะขึ้นง่ายขึ้นเร็วและอายุสั้น ส่งผลให้ทำผลผลิตได้ดีในช่วงสมัยก่อน
เริ่มทำสวนกล้วยไม้แห่งนี้มาได้กี่ปีแล้ว
เริ่มทำสวนกล้วยไม้แห่งนี้มาได้ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2520 โดยมีคุณลุงนิยมเป็นคนเริ่มทำในช่วงนั้น แต่ก่อนในปีพ.ศ. 2520 จะทำสวนกล้วยไม้กับสวนผักผสมผสานกันไป ทำควบคู่กันไปกันทั้งสองอย่าง
การดูแลสวนผักกับสวนกล้วยไม้มีวิธีการดูแลแตกต่างหรือเหมือนกันไหม
ในการดูแลค่อยข้างจะต่างกัน คือหนึ่งแดดร้อนผักจำพวกนี้เป็นพืชล้มลุก เราต้องเข้าใจว่าผักพวกนี้ 3 เดือนก็เก็บผลผลผลิตได้แล้ว หลังจากเก็บผลผลิตเสร็จผักมันก็จะโทรม อย่างผักบุ้งใช้เวลาแค่เดือนเดียวก็เก็บผลผลิตได้เลย มันได้เงินไวและทำต้องเหนื่อย เพราะหนึ่งต้องพรวนดิน ค้นดิน กลับดิน ต้องใช้แรงงานและเหนื่อยกว่าการทำกล้วยไม้ อย่างการกล้วยไม้พอลงแรงลงเรือนปลูกกล้วยไม้เสร็จ งานก็น้อยลงแล้วมันจะสบายกว่า
ช่วงนั้นในปีพ.ศ. 2520-2526 กล้วยไม้จะบูมมาก เรียกว่าตลาดนอกจะต้องการเป็นอย่างมาก สวนลุงเป็นสวนชุดแรก ๆ ที่ทำส่งออกนอก โดยฝั่งบางมดจะทำส่งออกก่อน แล้วสวนลุงไปซื้อพันธุ์จากฝั่งบางมดมาเพาะพันธุ์ส่งออก
ในการส่งกล้วยไม้ออกนอกคุณลุงส่งแบบตัดช่อหรือส่งไปทั้งต้น
ในการส่งออกนอกนั้นจะมีบริษัทมารับซื้อ โดยสวนของลุงจะส่งออกแบบตัดช่อกล่าวคือตัดส่งแค่ดอกไปขาย แต่ก่อนในช่วงที่ลุงทำใหม่ๆได้ราคาช่อละประมาณ 5-8 บาท ตอนนี้เหลือไม่กี่บาทแล้ว ตัวลุงเองก็ไม่แน่ใจว่าเหลือช่อละกี่บาท เพราะลุงก็ไม่ได้ตัดดอกส่งไปขายมานานมากแล้ว
ตอนที่คุณลุงตัดดอกส่งขาย สายพันธุ์ไหนเป็นที่ต้องการของตลาดมากที่สุด
ในช่วงนั้นจะเป็นสายพันธุ์มาดามปอมปาดัวร์ และพวกสกุลหวาย สีม่วง สีแดง ปัจจุบันก็จะเป็นกล้วยไม้บอม เอียสกุล เป็นส่วนใหญ่
ในการทำสวนกล้วยไม้ต้องใช้ปุ๋ยอะไรหรือวัตถุอะไรเป็นพิเศษไหม
สำหรับกล้วยไม้ตอนนี้เรายังต้องพึ่งสารเคมีอยู่ เพราะพวกสารชีวภาพต่าง ๆ ในตอนนี้ สูตรยังไม่นิ่งพอที่จะมาใช้กับกล้วยไม้ได้ และการใช้สารชีวภาพพวกนี้ก็สามารถใช้ได้แต่ประสิทธิภาพยังไม่ดีเท่าที่ควรและโรงเรือนต้องสะอาด แต่ตอนนี้โรงเรือนของลุงก็อายุ 40 ปีมาแล้ว สะสมด้วยโรคแมลงเลยต้องใช้เคมีเข้าช่วย เคมีที่ใช้คือสารฆ่าแมลงและป้องกันโรคระบาดในกล้วยไม้ สารที่ใช้ก็ใช้สำหรับฆ่าและป้องกันโรคอย่างเดียว ถ้ากล้วยไม้เสียหรือติดโรคแล้วต้องทิ้งอย่างเดียวเพราะยังไม่มียารักษา
แล้วใช้ในปริมาณที่มากน้อยแค่ไหน
ปริมาณในการใช้นั้นแล้วแต่ตามอัตราส่วนที่ใส่ แล้วแต่ราคาด้วย ถ้าของแพงจะใช้ปริมาณน้อย ถ้าของถูกก็อาจจะใช้ปริมาณมาก ซึ่งบนผลิตภัณฑ์นั้นๆจะเขียนตามฉลากไว้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสารเคมี
ต่อสัปดาห์มีนักท่องเที่ยวมาเยอะไหมครับ
ต่อสัปดาห์ก็จะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 300-500 คน โดยเฉลี่ย เพราะลุงไม่เคยนับตัวเลขที่แน่ชัด ส่วนเรือก็ประมาณ 20 กว่าลำ ที่มาในสังกัดลุง
แล้วตอนนี้ที่สวนลุงมีทั้งหมดประมาณกี่สายพันธุ์
ตอนนี้ในสวนลุงมีทั้งหมดประมาณ 10 สายพันธุ์ เป็นพวกไม้ประดับตามบ้าน หลักๆเป็นตระกูลม็อคคาล่า แอสโคเซ็นด้า สกุลหวาย และตระกูลออนซิเดียม แต่ตระกูลพวกนี้มันจะแยกย่อยออกไป สายพันธุ์นี้ในสวนลุงจะมีน้อย ไว้ให้นักท่องเที่ยวดูและชมมากกว่า แต่จะซื้อกลับบ้านก็ได้ แต่สวนใหญ่มีไว้ให้ชม เพราะเราจัดเป็นสวนท่องเที่ยวต้องมีความหลากหลายเข้าไว้
จริง ๆ แล้วคุณลุงชอบงานด้านนี้เลยไหมครับ
ตัวลุงเองใจมันรักมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ชอบทำสวนกล้วยไม้ ชอบทำสวนผัก เคยมีโอกาสก้าวไปเป็นข้าราชการแต่ลุงไม่ไป เพราะอยู่ทำสวนช่วยพ่อตั้งแต่เด็กๆแล้ว ลุงเลยมีพื้นฐานทางด้านนี้ และตอนนี้ลูกลุง ลุงก็ชี้แนวให้ออกไปทำอย่างอื่น ไม่อยากให้ทำตรงนี้เพราะมันเหนื่อย และลำบาก แต่รุ่นลุงนั้นพ่อแม่เขาปลูกฝังมาแบบนี้ตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ของลูกลุง ลุงไม่ได้ปลูกฝังเขามาตั้งแต่ต้น ตอนนี้เลยให้ไปทำงานข้างนอกกันหมดแล้ว แต่ลุงเองอยู่ตรงนี้ก็สบายดี สมัยก่อนเดินทางด้วยเรือ ต้องบุกน้ำลุยโคลนลำบากกันมากกว่านี้ แถวตลิ่งชันสมัยก่อนลำบากกว่านี้มาก พึ่งจะมาสบายช่วงหลัง ๆ นี้เองเพราะถนนตัดผ่านเยอะขึ้น
คุณลุงมีแนวโน้มที่จะขยายแปลงกล้วยไม้เพิ่มอีกไหม
ลุงไม่มีแนวโน้มที่จะขยายต่อแล้ว ส่วนมากสวนในกรุงเทพฯมีแต่จะลดลงเรื่อยๆ ส่วนใหญ่ไม่ขยายแล้ว ไม่เหมือนสมัย 40 ปีที่แล้ว อย่างเมื่อ 40 ปีที่แล้วเรามีที่ดินประมาณ 8 ไร่ เราทำผักสัก 6-7 ไร่ อีกประมาณ 2 ไร่ เราก็ทำสวนกล้วยไม้ขยายไปจนเต็ม แต่ตอนนี้ที่ตันหมดแล้ว ถ้าจะขยายลุงต้องย้ายไปที่นครปฐม หรือต่างจังหวัดจะเหมาะสม
เคยเจออุปสรรคหนัก ๆ จนทำให้เราท้อไหม แล้วรับมือกับปัญหายังไง
ไม่มีอุปสรรค เพราะกล้วยไม้แห่งนี้ เราทำจนรู้ครบหมดแล้ว เรื่องโรคแมลงเราท้อกับมันไม่ได้ เราต้องสู้ ตรงนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการท้อหรือไม่ท้อ ส่วนใหญ่คนที่ท้อคือคนที่ไม่สู้ แต่ลุงสู้มาตลอด กล้วยไม้ต้องดูแลเป็นเวลา ต้องใส่ปุ๋ยรดน้ำ เหมือนที่พวกเราทำงานราชการนี่แหละ มันจะมีเวลาของมันอยู่ ถ้าเราทำตามระบบมันก็จะไม่เกิดปัญหา ไม่ต้องมีดินพอกหางหมู ขี้เกียจวันนี้ไปรดน้ำวันโน้น กล้วยไม้ก็มีแต่จะโทรมลง ๆ
การดูแลกล้วยไม้ก็ต้องทำแบบประจำ ทำให้ชิน พอทำจนชินมันก็ไม่มีปัญหาอะไร มันก็จะไปต่อได้ คนที่ท้อส่วนใหญ่คือคนที่ทำบ้างไม่ทำบ้าง หลังจากนั้นมันก็จะเกิดเป็นดินพอกหางหมู พอนานๆเข้าต้นกล้วยไม้ก็โทรม พอกล้วยไม้โทรมคนทำก็จะท้อทันที เพราะกล้วยไม้ถ้าไม่ทำอย่างต่อเนื่องกล้วยไม้ก็จะโทรม และบำรุงไม่ขึ้น และอย่างที่บอกไว้ก่อนหน้าว่าไม่มียารักษา มีแต่ยาป้องกันและยาฆ่า ถ้าเกิดปัญหากล้วยไม้โทรมขึ้นมาก็คือต้องทิ้งอย่างเดียว
สวนกล้วยไม้แห่งนี้ลุงดูแลทั้งหมดคนเดียวเลยไหมครับ
ไม่ได้ดูแลคนเดียว ก็ดูแลช่วยๆกัน พี่ๆน้องๆเขากลับมาจากราชการ ก็ช่วยดูแลรดน้ำช่วยๆกัน การดูแลก็แบ่งๆหน้าที่กัน ส่วนหน้าที่ของลุงเองก็มีหน้าที่ฉีดยาและใส่ปุ๋ย แล้วก็สร้างเรือนโรง
ส่วนแม่ของลุงและแฟนของลุง มีหน้าที่เก็บและแพ็คส่งตลาด เพราะสวนของลุงไม่ได้ส่งนอกแล้ว ตอนนี้ส่งแค่ตลาด งานเลยไม่ค่อยยุ่ง ไม่เหมือนกับตอนส่งออกนอก เพราะถ้าออเดอร์เข้ามาต้องรีบทำ เพราะสินค้าจะถูกส่งไปตามเครื่องบินจะตกเครื่องบินไม่ได้ สาย หนึ่งนาทีก็ไม่ได้ ต้องส่งให้ทันเวลาตามกำหนด ลุงเองก็ทำส่งนอกมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2526 ถึงปีพ.ศ. 2540
ส่วนในปีพ.ศ. 2545 ลุงเริ่มมาทำท่องเที่ยว แต่ก่อนทัวร์ตลาดตลิ่งชันบูมมาก ตอนนั้นจะมีไกด์และเรือนำเที่ยวเข้ามา เป็นเรือหางยาวขนาด 30 ที่นั่ง และ 20 ที่นั่ง เป็นเรือที่วิ่งออกแม่น้ำได้เลย ไม่ใช่เรือขนาดเล็กแบบสมัยนี้ ปัจจุบันนี้ก็ยังมีเรือเล็กๆเข้ามาเรื่อยๆ เป็นของตลาดน้ำลัดมะยม ส่วนของตลาดน้ำตลิ่งชัน เรือใหญ่เรียกราคาสูง เขาสู้ไม่ไหว และขายตั๋วไม่ได้ เลยไม่ค่อยมีเรือใหญ่วิ่งเข้ามา
ปัจจุบันเลยเหลือเรือเล็กและรถทัวร์วิ่งเข้ามา ส่วนลุงมีข้อได้เปรียบตรงที่สวนแห่งนี้ติดทั้งทางน้ำและทางบก ด้านหน้าติดคลอง ด้านหลังติดถนน เป็นถนนซอยเล็กแต่รถเข้าได้ไม่มีปัญหา
มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาบ้างไหม
มีหมดเลย อย่างนักท่องเที่ยวต่างชาติบางกลุ่มก็เหมาแท็กซี่เข้ามา มีหมดทุกระบบเลย เพราะสวนของลุงเองก็ลงเฟซบุ๊กไว้ เพราะเดี๋ยวนี้ชาวต่างชาติเสิร์ซเฟซบุ๊กสวนกล้วยไม้ของลุงนิยมก็เจอเลย
ตอนที่เราซื้อกล้วยไม้ที่มีดอกเอามาไว้ที่บ้านพอเวลาต่อมามันไม่มีดอก เราจะมีวิธีแก้ปัญหานี้อย่างไร
ขั้นตอนแรกเราต้องสร้างเรือนโรงก่อน ที่กล้วยไม้ไม่ออกดอกเพราะบางทีอาจจะอยู่ในที่ร่มเกินไป เนื่องจากกล้วยไม้พวกนี้เป็นไม้ประดับ ต้องได้รับแสงที่เพียงพอ ไม่เหมือนกล้วยไม้ป่าที่อยู่ในร่มก็สามารถออกดอกได้ ลุงแนะนำให้ทำสแลนขึ้นโครงเป็นโรงเรือนจะดีกว่า เพราะกล้วยไม้ประดับพวกนี้ต้องการแสงอย่างน้อย 5 ชม./วัน ตามหลักวิธีการ 5 ชั่วโมงคือช่วงเวลา 9 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น แต่บางทีกล้วยไม้อยู่ตามร่มไม้ ทำให้กล้วยไม้รับแสงไม่เพียงพอ จึงส่งผลให้กล้วยไม้ไม่ยอมออกดอก เพราะสภาพแสงที่น้อยนั้นเหมาะสำหรับกล้วยไม้ป่ามากกว่า
การใส่ปุ๋ยเร่งดอกก็ต้องใส่ทุกๆ 7 วัน และพอดอกออกแล้วก็ต้องใส่สลับกับปุ๋ยสูตรอื่นๆด้วย และถ้าจะให้ดีก็ต้องมีอาหารเสริมช่วย เช่น สาหร่าย ต้องมีเทคนิคในการทำอีกเยอะ
เช่นในช่วงหน้าหนาวต้องเอาสาหร่ายเข้ามาช่วย หรือ ปุ๋ยปลา เพราะในช่วงฤดูหนาวอากาศค่อนข้างแห้ง ส่วนฤดูร้อนไม่ค่อยมีปัญหา จะมีปัญหาแค่เรื่องน้ำอย่างเดียว ในช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงที่เลี้ยงง่ายที่สุดเพราะเชื้อราไม่มี แต่ต้องรดน้ำทั้งเช้าและเย็น เพื่อให้ความชื้นสูง แต่ปัญหาของหน้าร้อนคือน้ำไม่สะอาด เลยทำให้ต้นกล้วยไม้ติดโรคได้ง่าย ส่วนหน้าฝนกล้วยไม้จะเลี้ยงยาก เพราะมีปัญหาเรื่องโรคเชื้อราเข้ามาเกี่ยวข้อง
คุณลุงมองอนาคตของสวนกล้วยไม้แห่งนี้ไปในทิศทางไหนบ้างครับ
ตอนนี้ลุงก็มองไปในทิศทางการท่องเที่ยว เพราะแถวนี้ไม่มีใครทำเกี่ยวกับการส่งออกแล้ว เพราะในอนาคตเมืองจะเกิดตรงส่วนนี้ และชาวสวนถูกบีบให้ออกจากพื้นที่ แต่ตรงนี้เป็นที่ของลุงเองลุงเลยไม่หนีไปไหน ลุงก็เลยพลิกสถานการณ์สวนตัดดอกส่งขายเป็นสวนท่องเที่ยว
สวนท่องเที่ยวมันดีอย่างหนึ่ง แต่ต้องมีความหลากหลาย ต้องมีให้เขามาเที่ยวชมและขายสินค้าให้เขาได้ พูดง่ายๆคือถ้านักท่องเที่ยวสนใจก็ตัดดอกขายให้เขาเลย ส่วนที่เหลือก็ส่งขายปากคลองตลาด ก็เลยเป็นการพลิกโอกาสขึ้นมาอีกที
ในอนาคตก็จะทำเป็นท่องเที่ยวไปตลอด สวนกล้วยไม้ของเราก็จัดเป็นสวนท่องเที่ยว หากคุณมีเวลาว่าง ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็สามารถแวะมาเที่ยวชมกันได้ จะมาด้วยรถส่วนตัว หรือ เรือโดยสารที่ตลาดน้ำลัดมะยม
ทางสวนของลุงไม่มีเวลาเปิด-ปิด หากใครต้องการที่จะซื้อดอกไม้หรือพันธุ์ไม้ ทางสวนของเราก็มีจำหน่ายขายในราคาปลีก สามารถติดต่อเบอร์โทรได้ที่ 094-4785260 หรือที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ “ สวนกล้วยไม้ลุงนิยม ”
เรียบเรียงโดย : ณัฐชนน หล้าแหล่ง
ในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมาสวนกล้วยไม้ของไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในกลุ่มชาวเกษตรกร เนื่องจากในช่วงนั้นการส่งออกกล้วยไม้กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด จึงส่งผลให้เกษตรกรหลายคนเริ่มผันตัวมาทำสวนกล้วยไม้ในการส่งออก
เมื่อช่วงเวลาผ่านไปหลายสิ่งอย่างเริ่มเปลี่ยน การส่งออกกล้วยไม้ของไทยเริ่มซบเซาเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและมาตรการกีดกันในเรื่องของโรคแมลง โดยเฉพาะแมลงบั่วและเพลี้ยไฟ ทำให้ในปัจจุบัน ลุงวิฑูรย์ ทองมาก เจ้าของสวนกล้วยไม้ลุงนิยม ซึ่งได้รับช่วงต่อให้ดูแลกิจการสวนกล้วยไม้ต่อจากคุณพ่อนิยม จึงได้ผันตัวจากเกษตรกรทำสวนกล้วยไม้เพื่อการส่งออกมาเป็นเกษตรกรทำสวนกล้วยไม้เพื่อการท่องเที่ยวในย่านตลาดน้ำคลองลัดมะยม...
ก่อนจะมาทำสวนกล้วยไม้ คุณลุงทำอาชีพอะไรมาก่อน
สมัยก่อนลุงเริ่มต้นจากการทำสวนผัก ผักสวนครัว ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด โหระพา กะเพราอะไรจำพวกนี้ เพราะส่วนใหญ่พื้นที่แถวนี้เป็นพื้นที่ต่ำ เพราะฉะนั้นเวลาหว่านเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัวแล้ว จะทำให้ผักจะขึ้นง่ายขึ้นเร็วและอายุสั้น ส่งผลให้ทำผลผลิตได้ดีในช่วงสมัยก่อน
เริ่มทำสวนกล้วยไม้แห่งนี้มาได้กี่ปีแล้ว
เริ่มทำสวนกล้วยไม้แห่งนี้มาได้ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2520 โดยมีคุณลุงนิยมเป็นคนเริ่มทำในช่วงนั้น แต่ก่อนในปีพ.ศ. 2520 จะทำสวนกล้วยไม้กับสวนผักผสมผสานกันไป ทำควบคู่กันไปกันทั้งสองอย่าง
การดูแลสวนผักกับสวนกล้วยไม้มีวิธีการดูแลแตกต่างหรือเหมือนกันไหม
ในการดูแลค่อยข้างจะต่างกัน คือหนึ่งแดดร้อนผักจำพวกนี้เป็นพืชล้มลุก เราต้องเข้าใจว่าผักพวกนี้ 3 เดือนก็เก็บผลผลผลิตได้แล้ว หลังจากเก็บผลผลิตเสร็จผักมันก็จะโทรม อย่างผักบุ้งใช้เวลาแค่เดือนเดียวก็เก็บผลผลิตได้เลย มันได้เงินไวและทำต้องเหนื่อย เพราะหนึ่งต้องพรวนดิน ค้นดิน กลับดิน ต้องใช้แรงงานและเหนื่อยกว่าการทำกล้วยไม้ อย่างการกล้วยไม้พอลงแรงลงเรือนปลูกกล้วยไม้เสร็จ งานก็น้อยลงแล้วมันจะสบายกว่า
ช่วงนั้นในปีพ.ศ. 2520-2526 กล้วยไม้จะบูมมาก เรียกว่าตลาดนอกจะต้องการเป็นอย่างมาก สวนลุงเป็นสวนชุดแรก ๆ ที่ทำส่งออกนอก โดยฝั่งบางมดจะทำส่งออกก่อน แล้วสวนลุงไปซื้อพันธุ์จากฝั่งบางมดมาเพาะพันธุ์ส่งออก
ในการส่งกล้วยไม้ออกนอกคุณลุงส่งแบบตัดช่อหรือส่งไปทั้งต้น
ในการส่งออกนอกนั้นจะมีบริษัทมารับซื้อ โดยสวนของลุงจะส่งออกแบบตัดช่อกล่าวคือตัดส่งแค่ดอกไปขาย แต่ก่อนในช่วงที่ลุงทำใหม่ๆได้ราคาช่อละประมาณ 5-8 บาท ตอนนี้เหลือไม่กี่บาทแล้ว ตัวลุงเองก็ไม่แน่ใจว่าเหลือช่อละกี่บาท เพราะลุงก็ไม่ได้ตัดดอกส่งไปขายมานานมากแล้ว
ตอนที่คุณลุงตัดดอกส่งขาย สายพันธุ์ไหนเป็นที่ต้องการของตลาดมากที่สุด
ในช่วงนั้นจะเป็นสายพันธุ์มาดามปอมปาดัวร์ และพวกสกุลหวาย สีม่วง สีแดง ปัจจุบันก็จะเป็นกล้วยไม้บอม เอียสกุล เป็นส่วนใหญ่
ในการทำสวนกล้วยไม้ต้องใช้ปุ๋ยอะไรหรือวัตถุอะไรเป็นพิเศษไหม
สำหรับกล้วยไม้ตอนนี้เรายังต้องพึ่งสารเคมีอยู่ เพราะพวกสารชีวภาพต่าง ๆ ในตอนนี้ สูตรยังไม่นิ่งพอที่จะมาใช้กับกล้วยไม้ได้ และการใช้สารชีวภาพพวกนี้ก็สามารถใช้ได้แต่ประสิทธิภาพยังไม่ดีเท่าที่ควรและโรงเรือนต้องสะอาด แต่ตอนนี้โรงเรือนของลุงก็อายุ 40 ปีมาแล้ว สะสมด้วยโรคแมลงเลยต้องใช้เคมีเข้าช่วย เคมีที่ใช้คือสารฆ่าแมลงและป้องกันโรคระบาดในกล้วยไม้ สารที่ใช้ก็ใช้สำหรับฆ่าและป้องกันโรคอย่างเดียว ถ้ากล้วยไม้เสียหรือติดโรคแล้วต้องทิ้งอย่างเดียวเพราะยังไม่มียารักษา
แล้วใช้ในปริมาณที่มากน้อยแค่ไหน
ปริมาณในการใช้นั้นแล้วแต่ตามอัตราส่วนที่ใส่ แล้วแต่ราคาด้วย ถ้าของแพงจะใช้ปริมาณน้อย ถ้าของถูกก็อาจจะใช้ปริมาณมาก ซึ่งบนผลิตภัณฑ์นั้นๆจะเขียนตามฉลากไว้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสารเคมี
ต่อสัปดาห์มีนักท่องเที่ยวมาเยอะไหมครับ
ต่อสัปดาห์ก็จะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 300-500 คน โดยเฉลี่ย เพราะลุงไม่เคยนับตัวเลขที่แน่ชัด ส่วนเรือก็ประมาณ 20 กว่าลำ ที่มาในสังกัดลุง
แล้วตอนนี้ที่สวนลุงมีทั้งหมดประมาณกี่สายพันธุ์
ตอนนี้ในสวนลุงมีทั้งหมดประมาณ 10 สายพันธุ์ เป็นพวกไม้ประดับตามบ้าน หลักๆเป็นตระกูลม็อคคาล่า แอสโคเซ็นด้า สกุลหวาย และตระกูลออนซิเดียม แต่ตระกูลพวกนี้มันจะแยกย่อยออกไป สายพันธุ์นี้ในสวนลุงจะมีน้อย ไว้ให้นักท่องเที่ยวดูและชมมากกว่า แต่จะซื้อกลับบ้านก็ได้ แต่สวนใหญ่มีไว้ให้ชม เพราะเราจัดเป็นสวนท่องเที่ยวต้องมีความหลากหลายเข้าไว้
จริง ๆ แล้วคุณลุงชอบงานด้านนี้เลยไหมครับ
ตัวลุงเองใจมันรักมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ชอบทำสวนกล้วยไม้ ชอบทำสวนผัก เคยมีโอกาสก้าวไปเป็นข้าราชการแต่ลุงไม่ไป เพราะอยู่ทำสวนช่วยพ่อตั้งแต่เด็กๆแล้ว ลุงเลยมีพื้นฐานทางด้านนี้ และตอนนี้ลูกลุง ลุงก็ชี้แนวให้ออกไปทำอย่างอื่น ไม่อยากให้ทำตรงนี้เพราะมันเหนื่อย และลำบาก แต่รุ่นลุงนั้นพ่อแม่เขาปลูกฝังมาแบบนี้ตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ของลูกลุง ลุงไม่ได้ปลูกฝังเขามาตั้งแต่ต้น ตอนนี้เลยให้ไปทำงานข้างนอกกันหมดแล้ว แต่ลุงเองอยู่ตรงนี้ก็สบายดี สมัยก่อนเดินทางด้วยเรือ ต้องบุกน้ำลุยโคลนลำบากกันมากกว่านี้ แถวตลิ่งชันสมัยก่อนลำบากกว่านี้มาก พึ่งจะมาสบายช่วงหลัง ๆ นี้เองเพราะถนนตัดผ่านเยอะขึ้น
คุณลุงมีแนวโน้มที่จะขยายแปลงกล้วยไม้เพิ่มอีกไหม
ลุงไม่มีแนวโน้มที่จะขยายต่อแล้ว ส่วนมากสวนในกรุงเทพฯมีแต่จะลดลงเรื่อยๆ ส่วนใหญ่ไม่ขยายแล้ว ไม่เหมือนสมัย 40 ปีที่แล้ว อย่างเมื่อ 40 ปีที่แล้วเรามีที่ดินประมาณ 8 ไร่ เราทำผักสัก 6-7 ไร่ อีกประมาณ 2 ไร่ เราก็ทำสวนกล้วยไม้ขยายไปจนเต็ม แต่ตอนนี้ที่ตันหมดแล้ว ถ้าจะขยายลุงต้องย้ายไปที่นครปฐม หรือต่างจังหวัดจะเหมาะสม
เคยเจออุปสรรคหนัก ๆ จนทำให้เราท้อไหม แล้วรับมือกับปัญหายังไง
ไม่มีอุปสรรค เพราะกล้วยไม้แห่งนี้ เราทำจนรู้ครบหมดแล้ว เรื่องโรคแมลงเราท้อกับมันไม่ได้ เราต้องสู้ ตรงนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการท้อหรือไม่ท้อ ส่วนใหญ่คนที่ท้อคือคนที่ไม่สู้ แต่ลุงสู้มาตลอด กล้วยไม้ต้องดูแลเป็นเวลา ต้องใส่ปุ๋ยรดน้ำ เหมือนที่พวกเราทำงานราชการนี่แหละ มันจะมีเวลาของมันอยู่ ถ้าเราทำตามระบบมันก็จะไม่เกิดปัญหา ไม่ต้องมีดินพอกหางหมู ขี้เกียจวันนี้ไปรดน้ำวันโน้น กล้วยไม้ก็มีแต่จะโทรมลง ๆ
การดูแลกล้วยไม้ก็ต้องทำแบบประจำ ทำให้ชิน พอทำจนชินมันก็ไม่มีปัญหาอะไร มันก็จะไปต่อได้ คนที่ท้อส่วนใหญ่คือคนที่ทำบ้างไม่ทำบ้าง หลังจากนั้นมันก็จะเกิดเป็นดินพอกหางหมู พอนานๆเข้าต้นกล้วยไม้ก็โทรม พอกล้วยไม้โทรมคนทำก็จะท้อทันที เพราะกล้วยไม้ถ้าไม่ทำอย่างต่อเนื่องกล้วยไม้ก็จะโทรม และบำรุงไม่ขึ้น และอย่างที่บอกไว้ก่อนหน้าว่าไม่มียารักษา มีแต่ยาป้องกันและยาฆ่า ถ้าเกิดปัญหากล้วยไม้โทรมขึ้นมาก็คือต้องทิ้งอย่างเดียว
สวนกล้วยไม้แห่งนี้ลุงดูแลทั้งหมดคนเดียวเลยไหมครับ
ไม่ได้ดูแลคนเดียว ก็ดูแลช่วยๆกัน พี่ๆน้องๆเขากลับมาจากราชการ ก็ช่วยดูแลรดน้ำช่วยๆกัน การดูแลก็แบ่งๆหน้าที่กัน ส่วนหน้าที่ของลุงเองก็มีหน้าที่ฉีดยาและใส่ปุ๋ย แล้วก็สร้างเรือนโรง
ส่วนแม่ของลุงและแฟนของลุง มีหน้าที่เก็บและแพ็คส่งตลาด เพราะสวนของลุงไม่ได้ส่งนอกแล้ว ตอนนี้ส่งแค่ตลาด งานเลยไม่ค่อยยุ่ง ไม่เหมือนกับตอนส่งออกนอก เพราะถ้าออเดอร์เข้ามาต้องรีบทำ เพราะสินค้าจะถูกส่งไปตามเครื่องบินจะตกเครื่องบินไม่ได้ สาย หนึ่งนาทีก็ไม่ได้ ต้องส่งให้ทันเวลาตามกำหนด ลุงเองก็ทำส่งนอกมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2526 ถึงปีพ.ศ. 2540
ส่วนในปีพ.ศ. 2545 ลุงเริ่มมาทำท่องเที่ยว แต่ก่อนทัวร์ตลาดตลิ่งชันบูมมาก ตอนนั้นจะมีไกด์และเรือนำเที่ยวเข้ามา เป็นเรือหางยาวขนาด 30 ที่นั่ง และ 20 ที่นั่ง เป็นเรือที่วิ่งออกแม่น้ำได้เลย ไม่ใช่เรือขนาดเล็กแบบสมัยนี้ ปัจจุบันนี้ก็ยังมีเรือเล็กๆเข้ามาเรื่อยๆ เป็นของตลาดน้ำลัดมะยม ส่วนของตลาดน้ำตลิ่งชัน เรือใหญ่เรียกราคาสูง เขาสู้ไม่ไหว และขายตั๋วไม่ได้ เลยไม่ค่อยมีเรือใหญ่วิ่งเข้ามา
ปัจจุบันเลยเหลือเรือเล็กและรถทัวร์วิ่งเข้ามา ส่วนลุงมีข้อได้เปรียบตรงที่สวนแห่งนี้ติดทั้งทางน้ำและทางบก ด้านหน้าติดคลอง ด้านหลังติดถนน เป็นถนนซอยเล็กแต่รถเข้าได้ไม่มีปัญหา
มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาบ้างไหม
มีหมดเลย อย่างนักท่องเที่ยวต่างชาติบางกลุ่มก็เหมาแท็กซี่เข้ามา มีหมดทุกระบบเลย เพราะสวนของลุงเองก็ลงเฟซบุ๊กไว้ เพราะเดี๋ยวนี้ชาวต่างชาติเสิร์ซเฟซบุ๊กสวนกล้วยไม้ของลุงนิยมก็เจอเลย
ตอนที่เราซื้อกล้วยไม้ที่มีดอกเอามาไว้ที่บ้านพอเวลาต่อมามันไม่มีดอก เราจะมีวิธีแก้ปัญหานี้อย่างไร
ขั้นตอนแรกเราต้องสร้างเรือนโรงก่อน ที่กล้วยไม้ไม่ออกดอกเพราะบางทีอาจจะอยู่ในที่ร่มเกินไป เนื่องจากกล้วยไม้พวกนี้เป็นไม้ประดับ ต้องได้รับแสงที่เพียงพอ ไม่เหมือนกล้วยไม้ป่าที่อยู่ในร่มก็สามารถออกดอกได้ ลุงแนะนำให้ทำสแลนขึ้นโครงเป็นโรงเรือนจะดีกว่า เพราะกล้วยไม้ประดับพวกนี้ต้องการแสงอย่างน้อย 5 ชม./วัน ตามหลักวิธีการ 5 ชั่วโมงคือช่วงเวลา 9 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น แต่บางทีกล้วยไม้อยู่ตามร่มไม้ ทำให้กล้วยไม้รับแสงไม่เพียงพอ จึงส่งผลให้กล้วยไม้ไม่ยอมออกดอก เพราะสภาพแสงที่น้อยนั้นเหมาะสำหรับกล้วยไม้ป่ามากกว่า
การใส่ปุ๋ยเร่งดอกก็ต้องใส่ทุกๆ 7 วัน และพอดอกออกแล้วก็ต้องใส่สลับกับปุ๋ยสูตรอื่นๆด้วย และถ้าจะให้ดีก็ต้องมีอาหารเสริมช่วย เช่น สาหร่าย ต้องมีเทคนิคในการทำอีกเยอะ
เช่นในช่วงหน้าหนาวต้องเอาสาหร่ายเข้ามาช่วย หรือ ปุ๋ยปลา เพราะในช่วงฤดูหนาวอากาศค่อนข้างแห้ง ส่วนฤดูร้อนไม่ค่อยมีปัญหา จะมีปัญหาแค่เรื่องน้ำอย่างเดียว ในช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงที่เลี้ยงง่ายที่สุดเพราะเชื้อราไม่มี แต่ต้องรดน้ำทั้งเช้าและเย็น เพื่อให้ความชื้นสูง แต่ปัญหาของหน้าร้อนคือน้ำไม่สะอาด เลยทำให้ต้นกล้วยไม้ติดโรคได้ง่าย ส่วนหน้าฝนกล้วยไม้จะเลี้ยงยาก เพราะมีปัญหาเรื่องโรคเชื้อราเข้ามาเกี่ยวข้อง
คุณลุงมองอนาคตของสวนกล้วยไม้แห่งนี้ไปในทิศทางไหนบ้างครับ
ตอนนี้ลุงก็มองไปในทิศทางการท่องเที่ยว เพราะแถวนี้ไม่มีใครทำเกี่ยวกับการส่งออกแล้ว เพราะในอนาคตเมืองจะเกิดตรงส่วนนี้ และชาวสวนถูกบีบให้ออกจากพื้นที่ แต่ตรงนี้เป็นที่ของลุงเองลุงเลยไม่หนีไปไหน ลุงก็เลยพลิกสถานการณ์สวนตัดดอกส่งขายเป็นสวนท่องเที่ยว
สวนท่องเที่ยวมันดีอย่างหนึ่ง แต่ต้องมีความหลากหลาย ต้องมีให้เขามาเที่ยวชมและขายสินค้าให้เขาได้ พูดง่ายๆคือถ้านักท่องเที่ยวสนใจก็ตัดดอกขายให้เขาเลย ส่วนที่เหลือก็ส่งขายปากคลองตลาด ก็เลยเป็นการพลิกโอกาสขึ้นมาอีกที
ในอนาคตก็จะทำเป็นท่องเที่ยวไปตลอด สวนกล้วยไม้ของเราก็จัดเป็นสวนท่องเที่ยว หากคุณมีเวลาว่าง ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็สามารถแวะมาเที่ยวชมกันได้ จะมาด้วยรถส่วนตัว หรือ เรือโดยสารที่ตลาดน้ำลัดมะยม
ทางสวนของลุงไม่มีเวลาเปิด-ปิด หากใครต้องการที่จะซื้อดอกไม้หรือพันธุ์ไม้ ทางสวนของเราก็มีจำหน่ายขายในราคาปลีก สามารถติดต่อเบอร์โทรได้ที่ 094-4785260 หรือที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ “ สวนกล้วยไม้ลุงนิยม ”
เรียบเรียงโดย : ณัฐชนน หล้าแหล่ง