เกิดเรื่องราวชวนขนลุกเมื่อสองพิธีกรหนุ่ม “เอ๋-นัด” จากเพจ “ล่าผีเฮี้ยน” ไลฟ์สดบุกบ้านร้างแห่งหนึ่งมีประวัติคนรมควันฆ่าตัวตาย เริ่มต้นจากทั้งสองเดินสำรวจบ้านพร้อมไฟฉายคู่ใจ บรรยากาศเงียบกริบเหมือนไม่มีอะไร จนมาเจอเต็นท์ลายพรางที่พบศพผู้ตายถูกทิ้งไว้หน้าบ้าน ใกล้กันมีเปลผ้าขึงไว้บริเวณหน้าบ้านหลังข้างๆ ทั้งสองถูกทักทายเบาๆ เมื่อจู่ๆ เปลแกว่งไปมาเหมือนมีคนนอนเล่น จึงเดินเข้าไปดูปรากฏว่าไม่พบใครนอนอยู่ ทั้งสองทักทายกลับโดย “นัด” ไปนั่งเล่นในเปล พร้อมตะโกนเรียกผู้ตายให้ปรากฏกาย ผลที่ได้คือเปลยวบลงเองเหมือนมีคนมานั่งด้วย “นัด” ตกใจรีบวิ่งร้องเสียงหลงออกมา ด้าน “เอ๋” ขอลองมั่งเข้าไปนอนประนมมือ เปลกลับแกว่งแรงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนมีคนมาไกว ร้องขอให้ “นัด” ช่วยหยุดเปลแล้วรีบลุกขึ้น
ต่อมาทั้งสองเกิดหลอนอีก เมื่อได้ยินเสียงคนเดินบนหลังคา พอส่องไฟฉายไปไม่พบมีใครอยู่ข้างบน ก่อนเดินกลับมาบ้านที่มีเต็นท์กางอยู่ ลองดีด้วยการเขย่าเต็นท์แล้วถามว่า “มีใครอยู่ไหม” คำตอบที่ได้คือกลิ่นเหม็นอบอวล ช็อตเด็ดอยู่ตอนระหว่าง “นัด” ยืนอยู่หน้ากล้องแล้ว “เอ๋” พูดว่า “วิญญาณไม่สามารถมีพลังปรากฏร่างได้” ทันใดนั้นเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เมื่อมีมือปริศนายื่นลอดบานเกล็ดเข้ามากำลังจะจับ “นัด” เหตุการณ์นี้ ทั้ง “เอ๋” และคนดูเห็นกันหมด ทำเอาทั้งสองตกใจแล้วรีบวิ่งออกมาดูแต่ไม่พบใคร จากนั้นเดินกลับมาที่เต็นท์ “เอ๋” ลองดีเข้าไปโดยจุดไฟแช็ก จำลองเหตุการณ์รมควันฆ่าตัวตายในเต็นท์ แต่พอเข้าไปกลับรู้สึกเบียดเหมือนมีคนนั่งอยู่ จึงเดินออกมาแล้วกลับเข้าไปนั่งอีกรอบ ทางฝั่งคนดูได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้
“เอ๋” คิดว่าเสียงมาจากในห้องหลังเต็นท์จึงเคาะประตู ความหลอนเกินขึ้นเมื่อมีเสียงเคาะกลับมา ทั้งสองเปลี่ยนมาเล่นนอกบ้าน แต่ยังไม่วาย เมื่อขณะเดินตามหาเสียงน้ำไหล วัตถุทรงยาวที่ห้อยอยู่ จู่ๆ แกว่งเองอย่างแรง ทั้งสองตกใจสุดๆ ทันใดนั้น “เอ๋” ดันเห็นเงาดำวิ่งผ่านกล้อง พอตั้งสติได้ก็ไม่ลืมเรื่องมือที่ลอดผ่านบานเกล็ด พอแอบส่องดูวัตถุทรงยาวแล้วมันก็แกว่งเองอีกแล้ว ระหว่างนั้นประตูมุ้งลวดดันล้มลงราวกับมีคนผลัก ทั้งสองรีบวิ่งออกมาอย่างเร็วนัดร้องเสียงหลงเรียก “พี่เอ๋” ต่อมาเห็นว่าสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต “เอ๋” จึงตัดสินใจเข้าไปในเต็นท์แล้วนั่งจุดไฟแช็กอีกรอบ ความเฮี้ยนยังตามเล่นงานต่อเนื่อง “เอ๋” เห็นเงาวิ่งผ่านด้านหลังเต็นท์ และได้ยินเสียงคล้ายบทสวดภาษาเขมร ก่อนจะเห็นขาคนโผล่ในเต็นท์แล้วรีบวิ่งออกมา
ทั้งสองเดินสำรวจนอกบ้าน “เอ๋” ยังคงได้ยินเสียงคนสวด เสียงร้องไห้ เสียงคนเดินบนบ้านที่ดังเป็นระยะๆ และวัตถุทรงยาวยังแกว่งเองเมื่อทั้งสองเดินเข้าไปใกล้ ทั้งสองรู้สึกไม่ดี “เอ๋” ตัดสินใจท่องบทปิดแล้วพา “นัด” เดินออกจากบ้าน เพื่อกลับไปขึ้นรถที่จอดห่างไกลออกไป แต่ยังสงสัยจึงแพนกล้องไปบ้านหลังที่มีเต็นท์ พบเงาดำขนาดใหญ่ยืนอยู่หน้าบ้าน ลักษณะกำลังยื่นมือออกมาเหมือนไม่อยากให้กลับ ทั้งสองเริ่มถอยห่างจากบ้านหลังดังกล่าวเรื่อยๆ “เอ๋” ได้ยินเสียงสวดภาษาเขมรตามมา เดินกลับด้วยความหวาดระแวงจิตตก สุดท้ายขอปิดกล้องแล้วเดินทางกลับบ้านไป