กรมป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบตามป่าสงวนแห่งชาติต่างๆ พบว่ามี ผู้เข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่า โดยการนำพื้นที่ดังกล่าวมาใช้หาประโยชน์ปลูกสร้างเป็นสถานประกอบการร้านอาหารขวางลำน้ำ ล่าสุดพบอีก 2 จุดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ บ้านแม่แมะ ต.แม่แรม อ.แม่ริม ซึ่งเป็นจุดแวะพักระหว่างทางที่นักท่องเที่ยวจะผ่านขึ้นไปท่องเที่ยว
วันนี้ (4 พ.ย.) นางนันทนา บุณยานันต์ โฆษกกรมป่าไม้ กล่าวว่า ในขณะนี้กรมป่าไม้ได้ให้เจ้าหน้าลงพื้นที่ตรวจสอบตามป่าสงวนแห่งชาติต่างๆ จากกรณีพบว่ามี ผู้เข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่า โดยการนำพื้นที่ดังกล่าวมาใช้หาประโยชน์ปลูกสร้างเป็นสถานประกอบการร้านอาหารขวางลำน้ำ ตัวอย่างกรณีหมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากเป็นพื้นที่เขตป่าไม้ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 โดยกรมป่าไม้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมทั้งดำเนินการตามข้อกฎหมาย ซึ่งในขณะนี้ที่พบอีก 2 จุดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ บ้านแม่แมะ ต.แม่แรม อ.แม่ริม ซึ่งเป็นจุดแวะพักระหว่างทางที่นักท่องเที่ยวจะผ่านขึ้นไปท่องเที่ยว
นางนันทนา กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย. นายสายพิน เปียสวน ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษแม่ริม หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.1(ห้วยทราย) ชุดปฏิบัติการพิเศษ ป่าไม้เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอแม่ริม หมวดการทางแม่ริม อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ร่วมกันเข้าตรวจสอบ พบสถานประกอบการร้านอาหารบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม 2 แห่ง บริเวณถนนสายแม่ริม-สะเมิง ระหว่างหลัก กม.ที่ 9-10 ได้แก่ ร้านนั่งกินริมธาร และ ร้านฮิมน้ำลำธาร ที่เปิดร้านอาหารไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยจุดที่พบทางร้านได้นำแคร่ไม้ไผ่ตั้งไว้ในบริเวณริมน้ำและกลางน้ำ ลำน้ำแม่สา จำนวนมากกว่า 7 ซุ้ม เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่แวะเวียนเข้ามารับประทานอาหาร ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยจุดแรกร้านนั่งกินริมธาร เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดพื้นที่บุกรุก เนื้อที่ 0-0-6 ไร่ และผู้ต้องหา 1 ราย ทั้งนี้ได้ลงบันทึกประจำวัน ข้อ 3 คดีอาญาที่ 556/62 ลงวันที่ 3 พ.ย. 62 สำหรับในจุดที่ 2 ร้านฮิมน้ำลำธาร เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดพื้นที่บุกรุก เนื้อที่ 0-3-68 ไร่ และผู้ต้องหา 1 ราย และได้ลงบันทึกประจำวัน ข้อ 4 คดีอาญาที่ 557/62 ลงวันที่ 3 พ.ย. 62
"ทั้งนี้ อธิบดีกรมป่าไม้ ให้ดำเนินตามระเบียบและกฎหมายตามอำนาจหน้าที่ในส่วนที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ที่อยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ต่าง ๆ ได้ตรวจสอบเพื่อไม่ให้มีการบุกรุกป่าในการนำไปใช้ประโยชน์ทุกด้าน"