ย้อนรอยคดีคนร้ายจ่อยิงหัวชาวบ้านดับ 5 ศพพร้อมกัน ที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อ 11 มิ.ย. 61 ชนวนเหตุ “คณากร เพียรชนะ” ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นจังหวัดยะลา ยิงตัวเองกลางห้องพิจารณาคดี อ้างเหตุถูกแทรกแซงให้ลงโทษจำเลย ทั้งที่พยานหลักฐานไม่มีน้ำหนักพอ
วงการยุติธรรมสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อนายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลชั้นในศาลจังหวัดยะลา ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองในห้องพิจารณาคดี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านั้นได้เผยแพร่แถลงการณ์ของตัวเองผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมไลฟ์สดจากห้องพิจารณา มีเนื้อหาในทำนองที่ว่า ถูกแทรกแซงคำพิพากษาในคดี จนเกิดความกดดันและก่อเหตุดังกล่าว
คดีที่เชื่อกันว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้นายคณากร ต้องก่อเหตุชวนตกตะลึงกลางห้องพิจารณาคดีนั้น เป็นคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นกลางดึกคืนวันที่ 10 ต่อเนื่องวันที่ 11 มิ.ย.2561
เหตุเกิดบริเวณหลังบ้านเลขที่ 228 หมู่ 4 บ้านตือโละดือลง ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อมีคนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อยิงชาวบ้านเสียชีวิตพร้อมกัน 5 ราย
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า นายอิบรอเฮง มูเซะ หนึ่งในผู้เสียชีวิต ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวมีอาชีพรับเลี้ยงไก่ชน และเพาะพันธุ์ไก่ชนขาย
ขณะเกิดเหตุได้นั่งพูดคุยกับผู้เสียชีวิตอีก 4 ราย ซึ่งในระหว่างนั่งล้อมวงเพื่อรับประทานทุเรียน และสนทนากันอยู่นั้น คนร้าย 4 คน สวมผ้าคลุมไอ้โม่งปิดบังใบหน้า ได้มาจอดรถจักรยานยนต์ด้านหลังบ้าน แล้วเดินเข้ามายังกลุ่มของนายอิบรอเฮง แล้วใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และปืนลูกซองยิงใส่ชาวบ้านทั้ง 5 คนดังกล่าว จนเสียชีวิต จากนั้นได้หลบหนีไป
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวของกลุ่มผู้เสียชีวิตกับคนร้าย แต่ก็ไม่ได้ตัดประเด็นการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้
ในวันที่ 11 มิ.ย.61 นั้น พ.อ.ธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงว่า เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อเวลา 00.55 น. ของวันที่ 11 มิถุนายน 2561 คนร้ายไม่ทราบจำนวน ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ใช้อาวุธสงคราม และอาวุธปืนลูกซองยิงใส่บ้านเลขที่ 228 หมู่ที่ 4 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เป็นเหตุให้ราษฎรเสียชีวิต จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย
1) นายอิบรอเฮง มูเซะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 228 หมู่ที่ 4 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา กระสุนถูกบริเวณศีรษะ และลำตัว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
2) นายอามะ มูเซะ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/1 หมู่ที่ 4 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา กระสุนถูกบริเวณศีรษะ และลำตัว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
3) นายอุสมาน ยูโซ๊ะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136/3 หมู่ที่ 4 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา กระสุนถูกบริเวณศีรษะ และลำตัว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
4) นายฟูรกอน ราโซ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 258/1 หมู่ที่ 4 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา กระสุนถูกบริเวณศีรษะ และลำตัว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และ
5) นายอรัญชัย ดอแฮะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182 หมู่ที่ 9 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา กระสุนถูกบริเวณศีรษะ และลำตัว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามผู้เกี่ยวข้องในขั้นต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย นั่งอยู่บริเวณหลังบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายอิบรอเฮง มูเซะ จนเวลา 00.55 น. ได้มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์เข้ามายิงทั้ง 5 รายเสียชีวิต ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 1 ปลอก และปลอกปืนลูกซอง จำนวน 1 ปลอก
จากการตรวจสอบในขั้นต้นสาเหตุน่าจะเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นด้านความมั่นคง
ขณะที่แหล่งข่าวในพื้นที่ได้วิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ น่าจะรู้จักกับผู้เสียชีวิต 1 ใน 5 รายเป็นอย่างดี และอาจจะมีความขัดแย้งกันในบางเรื่อง จนไม่สามารถจะเคลียร์ปัญหากันได้ลงตัว จนนำไปสู่การลงมือสังหารหมู่ทั้ง 5 รายในครั้งนี้
โดยพฤติการณ์และลักษณะ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยของวิถีกระสุนปืนที่กราดยิงไปถูกส่วนอื่น หรือตัวบ้านในบริเวณโดยรอบ แต่พบว่ากระสุนปืนถูกคนร้ายจ่อที่ศีรษะผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย เนื่องจากการพบบาดแผลที่ศพ และร่องรอยจากกองเลือด และลักษณะของผู้เสียชีวิตที่นั่งล้อมวงร่วมกัน เสมือนว่าถูกกลุ่มคนร้ายได้ล็อกตัว หรือยืนคุมเชิงอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย เมื่อการเจรจาไม่เป็นผลจนเกิดความขัดแย้ง คนร้ายที่ถืออาวุธปืนคุมเชิงอยู่จึงได้ลงมือลั่นไกสังหารผู้ตายพร้อมกันทั้ง 5 คน ในเวลาใกล้เคียงกัน ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะพากันหลบหนีไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 5 คน ประกอบด้วย
1. นายซูกรี มูเซะ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 4 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเอบันนังสตา จังหวัดยะลา
2. นายสาแปอิง สะเตาะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155/2 หมู่ 4 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
3. นายแวอาแซ แวยูโซะ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164/2 หมู่ 4 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
4. นายมัสสัน เจะดือเระ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 8 ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา และ
5. นายอับดุลเล๊าะ มะสาเม๊าะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158 หมู่ 4 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
หลังการจับกุม ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้งหมดไปสอบปากคำและเข้าสู่กระบวนการซักถามที่ศูนย์พิทักษ์สันติ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า โรงเรียนตำรวจภูธร 9 อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
หลังจากนั้นได้ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ ทั้งหมด 10 ราย ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้โดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไปในเมือง หมู่บ้านโดยผิดกฎหมาย
โดย 5 รายแรกคือผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวไว้แล้ว และออกหมายจับเพิ่มอีก 5 รายที่ยังหลบหนี ได้แก่
1. นายนอร์ดิน หะยีอาซา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 228/2 หมู่ 4 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
2. นายฮำดี มูเซะ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 9 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
3. นายตุรมีซี มะลาเฮง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่152/1 หมู่ 9 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
4. นายอาหะมะ บือแน อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 401 หมู่ 8 ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา และ
5. นายอุสมาน หะมิดง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 9 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
จำเลย 5 คนแรก ถูกส่งฟ้องดำเนินคดีไปก่อน เมื่อการพิจารณาคดีเสร็จสิ้น มีการนัดอ่านคำพิพากษาครั้งแรก ในวันที่ 19 ส.ค. 2562 แต่ได้เลื่อนออกมาเป็นวันที่ 4 ต.ค. 2562 ซึ่งตามแถลงการณ์ของนายคณากรนั้น ระบุว่า เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ จึงต้องรายงานให้อธิบดีศาลทราบก่อน
ในแถลงการณ์ 25 หน้า ของนายคณากร ที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเอกสารที่พิมพ์ตามแบบฟอร์มศาล มีตราครุฑทุกหน้า มีข้อความ“สำหรับศาลใช้”ที่มุมบน ลักษณะคล้ายเป็นเอกสารในคดี เแต่เนื้อหาเป็นการระบายความในใจและตัดพ้อเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ที่ทำให้เกิดภาพลบต่อวงการตุลาการ รวมไปถึงกรณี“บ้านป่าแหว่ง”ที่ดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ด้วย
ตามแถลงการณ์นั้น นายคณากรมองว่า คดีที่ทั้ง 5 คนตกเป็นจำเลย เป็นคดีฆาตกรรมเหมือนคดีที่เกิดขึ้นในภาคอื่น ไม่ใช่คดีความมั่นคง ไม่ใช่คดีก่อการร้าย แต่กระบวนการสอบสวนและควบคุมผู้ต้องหาทำเหมือนเป็นคดีความมั่นคง ขณะที่พยานหลักฐานต่างๆ ของโจทก์ก็ยังไม่มีน้ำหนักพอที่จะฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดจริง ดังนั้น แม้ว่าจะถูกกดันอย่างหนักให้พิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง ตนยืนยันที่จะยกฟ้อง เพราะหากพิพากษาลงโทษจำเลย จะมีจำเลยบางคนรับโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต เป็นตราบาปติดตัวไปตลอด
“ในสายตาของผม มันจะต้องได้พยานหลักฐานที่มีน้ำหนักพอลงโทษ การลงโทษคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่แค่ว่าคนนั้นถูกลงโทษ ครอบครัวของเขาเหมือนกับว่าจะถูกลงโทษไปด้วย เพราะฉะนั้นเราไม่มั่นใจจริงๆ เราก็อย่าไปลงโทษเขา แต่ผมไม่กล้ายืนยันว่าเขาไม่ได้กระทำความผิด เขาอาจจะกระทำความผิดก็ได้ แต่กระบวนการยุติธรรมมันจะต้องทำให้มันโปร่งใส ให้มันหนักแน่น ให้มันลงโทษคนได้ โดยที่ไม่มีใครมาเถียงเราได้ว่าไม่มาบอกว่าเราลงโทษคนผิด คนผิดก็คือผิดคนเท่านั้นเอง”
นั่นเป็นคำพูดของนายคณากร ในห้องพิจารณาคดี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 4 ต.ค.ตามที่ปรากฏในคลิปที่นายคณากรไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนชักปืนออกมายิงที่ราวนมด้านซ้ายของตัวเอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งล่าสุดอาการปลอดภัย ถูกนำตัวออกจากโรงพยาบาลแล้ว
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง
ผู้พิพากษา “คณากร” ออกจากไอซียูแล้ว ศาลยะลาส่ง จนท.คุมหน้าห้อง
“อ.ปรเมศวร์” เบรกอย่าเพิ่งวิจารณ์ปมผู้พิพากษายิงตัวเอง ชี้หลายเคสโอละพ่อ!
เปิดคลิป! ผู้พิพากษายะลา ขณะพิจารณาคดีบนบัลลังก์ ก่อนยิงตัวเองที่ศาลจังหวัด (ชมคลิป)
เปิดคำแถลงผู้พิพากษาศาลยะลาก่อนยิงตัวเอง เผยอัดอั้นถูกแทรกแซงคดี
สุดสลด! “ผู้พิพากษา” จ่อยิงที่ราวนมตัวเองสาหัสขณะนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีในศาลจังหวัดยะลา