กิตตินันท์ นาคทอง ... รายงาน
เช้าวันที่ 6 ธันวาคมนี้ รถไฟฟ้าบีทีเอส จะเปิดให้บริการในเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ ตั้งแต่สถานีสำโรง ถึงสถานีเคหะ รวม 9 สถานี ระยะทาง 13 กิโลเมตร
โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีเปิด ที่ศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าบางปู เวลา 05.30-08.00 น. ก่อนที่จะเปิดให้ประชาชนใช้บริการตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป
MGR Online รวบรวมสิ่งที่ประชาชนผู้ใช้บริการควรรู้ มีดังต่อไปนี้
1. จากสถานีเคหะ ถึงสถานีสำโรง ใช้เวลาเพียง 15 นาที เมื่อเทียบกับการใช้รถส่วนตัว ต้องพบกับรถติดเพราะทางแยกไฟแดงจำนวนมาก เช่น แยกปู่เจ้า แยกสำโรง และแยกบางนา โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็น
2. เดินทางช่วงสถานีสำโรง ถึงสถานีเคหะ ไม่คิดค่าโดยสาร ถึงวันที่ 15 เมษายน 2562 ผู้ใช้บริการสามารถกดตั๋วเที่ยวเดียวจากเครื่องจำหน่ายตั๋วได้ทันที หรือติดต่อรับบัตรโดยสารได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋ว
สำหรับผู้ถือบัตรแรบบิททุกประเภทจะไม่หักค่าโดยสาร และไม่หักเที่ยวเดินทาง (กรณีบัตรแรบบิท ผูกกับบริการแรบบิท ไลน์ เพย์ ต้องมีเงินคงเหลือในบัตร 15 บาท เพื่อให้ประตูเปิด)
แต่ถ้าเดินทางนอกเหนือจากสถานีนี้ คิดค่าโดยสารอัตราปกติ ตั้งแต่สถานีแบริ่ง ถึงสถานีอ่อนนุช 15 บาท หลังจากนั้นตั้งแต่สถานีพระโขนงเป็นต้นไป คิดตั้งแต่ 31-59 บาทต่อเที่ยว โดยซื้อตั๋วได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วในสถานีได้เลย
3. รถไฟฟ้าสายสีเขียว มาทุก 10 นาที โดยปกติแล้ว ระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส จะเปิดการเดินรถตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น. แต่ก็เอาใจคนตื่นเช้าและกลับดึกด้วยการเดินรถก่อนและหลังเวลา แต่ห้องจำหน่ายตั๋วจะเปิด 06.00 น.
โดยรถไฟฟ้าออกจากสถานีเคหะ ไปสถานีสำโรง ขบวนแรก เวลา 05.15 น.เป็นต้นไป ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที ส่วนสถานีสำโรง ไปสถานีเคหะ ขบวนแรกรถไฟฟ้าออกเวลา 05.15 น. เช่นกัน
ส่วนเที่ยวกลับ รถออกจากสถานีสำโรง เที่ยวสุดท้าย 00.00 น. (เที่ยงคืน) ใช้เวลาเดินทาง 13 นาที ส่วนสถานีเคหะ เที่ยวสุดท้าย 23.41 น. เพราะฉะนั้นคนที่จะใช้บริการหลังเวลา 23.00 น. ควรวางแผนการเดินทางด้วย
4. จากปากน้ำ จะเข้าเมือง ต้องเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีสำโรงทุกครั้ง เนื่องจากเป็นการทดลองการเดินรถฟรี 9 สถานี เพราะฉะนั้นคนที่จะเดินทางต่อไปยังรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท ต้องเปลี่ยนขบวนรถทุกครั้ง
วิธีการคือ เมื่อรถมาถึงสถานีสำโรง ผู้โดยสารจะต้องลงจากขบวนรถทั้งหมด แล้วยืนรอที่ชานชาลานั้นๆ สักพักจะมีขบวนรถจากสถานีหมอชิต มารับผู้โดยสารเพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายต่างๆ
ทางบีทีเอสย้ำว่า หลังลงจากขบวนรถที่สถานีสำโรง ไม่ต้องลำบากลงจากชานชาลามาซื้อตั๋วใหม่
เว้นเสียแต่ว่า ถ้าผู้โดยสารกดบัตรฟรีตั้งแต่ต้น พอถึงประตูทางออก สอดบัตรแล้วประตูไม่เปิด ให้ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ห้องจำหน่ายตั๋ว เพื่อชำระค่าโดยสารเพิ่มเติม
5. จุดหมายปลายทาง 9 สถานี ไปไหนได้บ้าง? เริ่มจาก สถานีปู่เจ้า อยู่หน้าห้างบิ๊กซี สำโรง 2 มีโรงงานโตโยต้าสำโรง โรงงานเอ.พี.ฮอนด้า, สถานีช้างเอราวัณ ไปพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
สถานีโรงเรียนนายเรือ ไปโรงเรียนนายเรือ พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ ศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี, สถานีปากน้ำ ไปวิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการ ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ ส่วนราชการต่างๆ และท่าเรือข้ามฟากไปพระสมุทรเจดีย์
สถานีศรีนครินทร์ เดินย้อนไปสามแยกการไฟฟ้าฯ เพื่อต่อรถประจำทางสาย 145 หรือรถตู้ไปถนนศรีนครินทร์, สถานีแพรกษา อยู่หน้าห้างโรบินสันสมุทรปราการ ห้างบิ๊กซีสมุทรปราการ เดินย้อนไปถนนแพรกษา
สถานีสายลวด ไปถนนสายลวด เส้นทางไปตลาดปากน้ำ และ สถานีเคหะ เดินย้อนไปซอยเทศบาลบางปู 46 เพื่อไปฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ
จากสถานีปลายทางเคหะ บริเวณถนนสุขุมวิทสายเก่า สามารถต่อรถสองแถว รถตู้ หรือรถรับจ้างสาธารณะไปยังจุดต่างๆ ได้แก่ สวางคนิวาส นิคมอุตสาหกรรมบางปู เทศบาลตำบลคลองด่าน
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ วัดอโศการาม พิพิธภัณฑ์เมืองโบราณ สถานตากอากาศบางปู ถ้าเลยไปคลองด่าน ชมวิถีชีวิตชาวประมง ชิมปลาสลิด หอยแครง หอยแมลงภู่ เที่ยวชมวัดมงคลโคธาวาส (หลวงพ่อปาน) และวัดสร่างโศก
6. จุดจอดแล้วจร สำหรับประชาชนบริเวณบางปู คลองด่าน ต้องการจอดรถ เพื่อโดยสารรถไฟฟ้าเข้าเมือง ทางโครงการฯ มีจุดจอดแล้วจร ที่สถานีเคหะ เนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ สามารถจอดรถรวมกันได้ประมาณ 1,200 คัน
รถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ อาจเป็นการเปลี่ยนวิถีชีวิตคนสมุทรปราการ เดินทางสู่กลางใจเมืองได้อย่างสะดวกขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าประชาชนจะให้การตอบรับมากน้อยขนาดไหน
อ่านประกอบ : “รถไฟฟ้าสายสีเขียว” แบริ่ง-สมุทรปราการ ให้ขึ้นฟรีถึง 15 เม.ย. 62 - “อัศวิน” เคาะค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาท
