xs
xsm
sm
md
lg

“รถไฟฟ้าสายสีเขียว” แบริ่ง-สมุทรปราการ ให้ขึ้นฟรีถึง 15 เม.ย. 62 - “อัศวิน” เคาะค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจความพร้อมโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ก่อนนายกฯ ทำพิธีเปิดทางการ ให้ประชาชนขึ้นฟรี เที่ยงวัน 6 ธ.ค.นี้ ยาว 4 เดือน ถึง 15 เม.ย.ปีหน้า เคาะค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาท เผยเซ็น MOU โอนหนี้ 5.18 หมื่นล้าน 3 ธ.ค.นี้



วันนี้ (27 พ.ย.) ที่สถานีรถไฟฟ้าสำโรง เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร, บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BTSC ตรวจเยี่ยมและตรวจสอบความพร้อมก่อนเปิดทดลองให้บริการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่จะเปิดในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ โดยขึ้นรถไฟฟ้าจากสถานีสำโรง ไปถึงสถานีเคหะ ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง จากนั้นขึ้นรถไฟฟ้าต่อเพื่อไปเยี่ยมชมศูนย์ซ่อมบำรุง ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่จัดพิธีเปิดการเดินรถในช่วงเช้า

พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า วันนี้ทางกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้มาตรวจความพร้อมโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะมาทำพิธีเปิดในวันที่ 6 ธ.ค. จากการตรวจความพร้อมคิดว่าไม่มีข้อบกพร่องประการใดๆ การทดลองเดินรถเป็นไปด้วยความราบรื่นดี โดยกรุงเทพมหานคร จะทำความตกลงกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ม.) ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ที่กระทรวงคมนาคม หลังคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ถ่ายโอนทรัพย์สินและหนี้สินจาก ร.ฟ.ม.มาให้ กทม.เรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้

สำหรับศูนย์ซ่อมบำรุงแห่งนี้จะเป็นที่จอดขบวนรถไฟฟ้า หนึ่งในนั้นจะเป็นขบวนใหม่ที่สั่งต่อรถทั้งหมด 46 ขบวน 184 ตู้โดยสาร เบื้องต้นเมื่อทำสัญญาเรียบร้อยจะโอนทรัพย์สินและหนี้สินจาก รฟม.ราว 5 หมื่นล้านบาท และระบบอาณัติสัญญาณอีก 1.9 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกัน ได้ขอร้องให้ทางบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ให้ผู้โดยสารนั่งฟรีจากสถานีสำโรง ถึงสถานีเคหะ ถึงวันที่ 15 เม.ย. 2562 ซึ่งบีทีเอสไม่ขัดข้อง โดยจะเริ่มเก็บค่าโดยสารในช่วงวันที่ 16 เม.ย. 2562 สำหรับกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 6 ธ.ค.นั้น จะเกิดขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นพิธีเปิด ไม่เกิน 12.00 น. และจะเปิดให้บริการเวลา 06.00-24.00 น. ตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค.เป็นต้นไป

ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ขณะนี้กำลังก่อสร้าง คาดว่าโครงสร้างพื้นฐานและระบบอาณัติสัญญาณจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2563 แต่ได้คุยกันแล้วว่าจากสถานีหมอชิต จะทยอยเปิดให้บริการ 2-3 สถานีไปเรื่อยๆ ส่วนที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุด คือ จะเสียค่าโดยสารตลอดสายตั้งแต่สถานีเคหะ ถึงสถานีคูคต ระยะทาง 53 กิโลเมตร ไม่เกิน 65 บาท ซึ่งจะลดค่าใช้จ่ายค่าแรกเข้าต่างๆ จากเดิมหากมีการเก็บค่าโดยสารเป็นระยะจะเสียค่าโดยสารสูงถึง 140 บาท ปัจจุบันได้เก็บค่าโดยสารในส่วนของ หมอชิต-อ่อนนุช 44 บาท และอ่อนนุช-สำโรง 15 บาท รวม 59 บาท แต่ถ้านั่งสุดสายจะคิดเพิ่ม 6 บาท หรือจ่ายเพียงแค่ 65 บาทเท่านั้น ตลอดอายุสัญญา โดยเชื่อว่าเอกชนจะไม่ขาดทุน

สำหรับการให้บริการฟรีจากสถานีสำโรง ถึงสถานีเคหะนั้น พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า จะเป็นการเดินรถจากสถานีเคหะ ถึงสถานีสำโรง หากต้องการเดินทางจากสถานีสำโรง ถึงปลายทางสถานีหมอชิตนั้น ต้องเปลี่ยนขบวนโดยซื้อบัตรโดยสารขึ้นมาใหม่ ตามอัตราที่กำหนดไว้ ส่วนวิธีการชำระหนี้ 5 หมื่นล้านบาทนั้น เป็นข้อตกลงที่จะมาคุยกัน แต่จากที่คุยนอกรอบก็คือ เอกชนรายได้ได้รับสัมปทานก็จะต้องชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ทั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานและระบบอาณัตสัญญาณ ภายในปี 2572 โดยเห็นว่า ระยะเวลาในการชำระหนี้ 10 ปี ไม่สั้นเกินไป ผู้ประกอบการคงคำนวณแล้วว่าใช้ได้ และแบ่งจ่ายให้ กทม. เท่าไหร่ เพราะเป็นทรัพย์สินของ กทม. ซึ่ง กทม.รับหนี้จากกระทรวงการคลังมา

ส่วนการคาดการณ์ผู้มาใช้บริการมากน้อยแค่ไหนนั้น พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า เท่าที่ดูคร่าวๆ ประมาณการณ์ไม่น้อยกว่า 6 หมื่นคน เชื่อว่าภายใน 1-2 ปี จะมีผู้ใช้บริการมากกว่า 1 แสนคน ซึ่งช่วยแก้ปัญหาจราจรได้เยอะ ประชาชนชาวจังหวัดสมุทรปราการที่จะเดินทางเข้าไปทำงานในกรุงเทพมหานครก็ไม่ต้องขับรถไป ลดปัญหาการจราจรติดขัด ซึ่งตนได้พูดคุยนอกรอบกับสถานีตำรวจทุกสถานีที่เป็นเส้นทางผ่าน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะช่วยลดความแออัดด้านการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน ช่วงเวลา 06.00-09.00 น. และ 15.00-21.00 น. จะแบ่งเบาไปได้เยอะ ส่วนการติดรั้วกันตกตามสถานีรถไฟฟ้าได้มีการคุยกับเอกชนแล้ว และขอร้องให้ทำเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร รวมทั้งลิฟต์คนพิการ ทางลาดของผู้พิการอำนวยการ ซึ่งได้จัดมีอยู่แล้ว

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เป็นโครงการรถไฟฟ้าแบบยกระดับตลอดเส้นทาง ระยะทาง 13 กิโลเมตร จำนวน 9 สถานี ได้แก่ สถานีสำโรง สถานีปู่เจ้า สถานีช้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีปากน้ำ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด และสถานีเคหะ โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เริ่มก่อสร้างงานโยธาและงานรางตั้งแต่ต้นปี 2555 แล้วเสร็จประมาณต้นปี 2560 กรุงเทพมหานครได้เริ่มเข้าดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลเมื่อเดือน ต.ค. 2559 และเปิดเดินรถได้ 1 สถานี ที่สถานีสำโรง ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2560 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้ดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลในส่วนที่เหลือทั้งหมด รวมทั้งได้ทำการทดสอบอุปกรณ์ต่างๆ และทดสอบการเดินรถเสมือนจริงในเดือน ต.ค. ถึง พ.ย. 2561

สำหรับศูนย์ซ่อมบำรุงของโครงการ มีพื้นที่ประมาณ 123 ไร่ ประกอบด้วย อาคารบริหารและศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการเดินรถ อาคารซ่อมบำรุงหลัก อาคารจอดรถไฟฟ้า รางทดสอบ และอาคารประกอบอื่นๆ นอกจากนี้ รฟม.ได้จัดให้มีอาคารจอดรถแล้วจร 1 แห่ง ตั้งอยู่บริเวณสถานีเคหะสมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง เนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ สามารถจอดรถรวมกันได้ประมาณ 1,200 คัน ส่วนการลงนามบันทึกข้อตกลงgรื่องการจำหน่ายและโอนทรัพย์สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และ (ใต้) แบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทางรวม 32 กิโลเมตร งบประมาณ 51,785 ล้านบาท กับ รฟม. ขณะนี้ร่างลงนามเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยต้องโอนทรัพย์สินทั้งหมดให้แล้วเสร็จในเดือน มี.ค. 2562 ก่อนเปิดให้บริการเป็นทางการต่อไป





กำลังโหลดความคิดเห็น