“ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์” แถลง “หมูป่า” อีก 5 คน รวมถึง “หมอภาคย์” และ “ซีล” 3 ราย ทั้งหมดออกมาจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยเหลือ พร้อมขอปรบมือแด่ “จ่าแซม” ยกเป็น “วีรบุรุษถ้ำหลวง” เผยมีแผนขอชุดที่ใส่ในการปฏิบัติการของหลายๆ คนในพื้นที่สำหรับทำพิพิธภัณฑ์ต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยว ลั่นต้องถอดบทเรียนหลายอย่างทั้งการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย-การกู้ภัยในถ้ำ ชมพระเอกในครั้งนี้คือ “คนทั้งโลก”
วันนี้ (10 ก.ค.) เมื่อเวลา 21.30 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (ศอร.) แถลงรายละเอียดผลการปฏิบัติช่วยเหลือเยาวชนนักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมี พร้อมผู้ฝึกสอน รวม 13 คนที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า “กราบขอบพระคุณกำลังใจ กำลังใจของชาวโลก ตอนนี้เราได้น้องๆ ออกมา 5 คนแล้ว ญาติๆ กลับไปอาบน้ำ เดี๋ยวจะเตรียมไปเยี่ยมผ่านห้องกระจกแล้ว ตอนนี้หมอภาคย์ และซีลที่เหลืออยู่โถง 2 แล้ว เพื่อตรวจเช็กว่าจะไม่เหลือใครไว้ ซึ่งในภารกิจถือว่าประสบความสำเร็จ วันนี้เราทำงานกันเร็วมาก คนแรกประมาณ 15.00 น. ซึ่งตอนนี้น้องทุกคนถึงโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เรียบร้อย พรุ่งนี้จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการทุกเรื่อง ทุกหน่วย เบื้องหลัง เบื้องหน้า จะมีการเล่าสู่กันฟังทั้งหมดในปฏิบัติการทุกอย่างเท่าที่จะเล่าให้ฟังได้ คือวันนี้ทุกคนดีใจ เราดีใจกันมาก สำหรับเหตุการณ์อย่างนี้ เราไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกเลย สำหรับเมื่อวานที่มีโดรนบิน วันนี้ศาลลงโทษ ยึดโดรน ปรับ 10,000 บาท”
ผบ.ศอร.กล่าวต่อว่า “หน่วยที่มีกำลังพลมากที่สุดคือกองทัพบก ส่งกองทัพภาคที่ 3 มามากที่สุด ทุกจังหวัดในเขตภาคเหนือที่มาช่วยกัน มีกองกำลังทหารพัฒนา มีกองทัพเรือ ตำรวจมาช่วยเรา กอ.รมน.ก็มาช่วยตรวจพื้นที่ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ รับผิดชอบด้านเหนือทั้งหมด เป็นของกรมอุทยานฯ ทั้งหมด กระทรวงสาธารณสุขที่ดูแลหลายเรื่อง กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กระทรวงคมนาคม กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมทรัพยากรธรณี”
ผบ.ศอร.กล่าวว่า “หมอภาคย์ และซีลอีก 3 แข็งแรงดีทุกคนนะครับ ทั้งนี้ขอบคุณน้องๆ นักข่าวที่น่ารักมากๆ ขอกราบขอบคุณทุกท่านด้วยความยินดีที่ให้ความร่วมมือ”
พลตรี ฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า “การปฏิบัติตามแผน ผู้สื่อข่าวก็อยู่ในแผนเหมือนกัน เพื่อให้ปฏิบัติการได้ต่อเนื่อง มันเป็นมาตรการเสริมเฉยๆ กองทัพก็ได้ส่งหลายหน่วยมา ทั้งกองทัพบก กองทัพอากาศ กองทัพเรือ ที่มาเดินๆ สำรวจกันข้างบนทั้งหมด ยินดีในการปฏิบัติการในครั้งนี้ ในทุกอย่างมีความจำเป็น ความสำคัญทั้งหมด ซึ่งท่านผู้ว่าฯ ก็ตัดสินใจในภาวะที่ตัดสินใจ ก็ต้องขอบคุณอีกครั้ง สวัสดีครับ”
พลตำรวจตรี ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า “ทางตำรวจขอขอบคุณผู้สื่อข่าวที่ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ หลายคนบอกว่าเอาสื่อออกมาแต่วันแรกก็จะเสร็จนานแล้ว แต่จริงๆ เป็นไปตามสถานการณ์ แต่ก็เป็นเรื่องดีที่เราได้รู้จักกัน ขอบคุณทุกคน” ทั้งนี้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นี่ สำหรับเรื่องโดรนดำเนินคดีเรียบร้อย รวดเร็วประดุจกามนิตหนุ่ม อะไรที่ไม่ถูกไม่ควรก็ต้องว่ากันไป ขอบคุณท่านที่ไม่ทำผิด”
นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า “ในฐานะตัวแทนกระทรวงฯ ถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสิ่งของต่างๆ สนับสนุนการดำเนินการในครั้งนี้ ทำให้เราไม่ต้องกังวล เจ้าหน้าที่ทุกหน่วย ทุกกรมกอง ประชาชนทุกคนก็ได้รับกำลังใจตรงนี้ อาจจะมีขัดข้องกันไปบ้าง ที่หลายคนพยายามติดต่อ แต่ไม่ได้บอกอะไรไป เนื่องจากท่านผู้ว่าฯ กำชับไว้ ซึ่งตอนนี้ทุกคนมองไปที่หลานๆ ทั้ง 13 คน”
นายจงคล้ายกล่าวต่อว่า “เป็นโชคดีที่ได้ร่วมงานกับทีมงานเก่งๆ บุญกุศลในครั้งนี้เราได้รับกันทุกคน ตั้งแต่ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (ศอร.) จนไปถึงคนทำงานทุกคน คนไทยโชคดีนะครับที่จะมีแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ ได้มีแผนรองรับอยู่แล้ว ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว จ.อ.สมาน กุนัน ที่ถือเป็นฮีโร่ของคนทั้งโลก”
นายณรงค์ศักดิ์กล่าวต่อว่า “ขอให้ปรบมือให้จ่าแซม และถือว่าเป็นวีรบุรุษตัวจริง ท่านรองอธิบดีอุทยานฯ มีแผนจะขอชุดที่ใส่ในการปฏิบัติการของหลายๆ คนในที่นี้สำหรับไว้ทำพิพิธภัณฑ์ ฟื้นฟูเป็นแหล่งท่องเที่ยวระยะยาว สิ่งที่เกิดขึ้นเราต้องถอดบทเรียน ส่วนหนึ่งให้เด็กระมัดระวังในการท่องเที่ยว การกู้ภัยในถ้ำ
บทเรียนที่สำคัญเรื่องหนึ่ง การที่เราทำงานประสบความสำเร็จนี้ได้เพราะพวกเรามีพลังในความรัก พลังกาย พลังใจ ในการทำงาน ผมอยากเห็นชาวโลกรักกัน อยากเห็นประเทศไทยรักกัน เห็นความร่วมมือของทุกภาคส่วน 17 วันที่ผ่านมาผมไม่เคยเห็นสื่อมวลชนบ่น อยากให้เอาบทเรียนตรงนี้ แม่สาย โป่งผา เชียงราย ไปขยาย ไปสืบทอดต่อ เป็นบทเรียนในประเทศไทยระยะยาว วันนี้ทีมไทยแลนด์ ทีมราชการ ทีมเอกชน คนไทย เราทำสิ่งที่ไม่มีใครทำได้ในโลก อยากให้ทุกคนได้บุญกุศล สำหรับพระเอกในครั้งนี้คือคนทั้งโลก สื่อมวลชนที่ใจดี คนที่ช่วยกันทำงาน สื่อมวลชนไม่สามารถหาข้อเท็จจริงจากการแถลงได้ แต่สื่อมวลชนนำเสนอภาพในข่าวเคียงที่น่าปลื้มใจ ผมเชื่อว่าเรามีเป็นล้านๆ ภาพ ขอให้ล้านภาพเป็นที่น่าจดจำตลอดไป”