xs
xsm
sm
md
lg

นักท่องเที่ยวจีนแฉฟ้าครึ้มตั้งแต่ออกเรือ แถมคนบนเรือ “เงียบ” ก่อนเกิดโศกนาฏกรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นักท่องเที่ยวจีนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตกล่าวกับสื่อจีน ชี้เรือฝืนออกออกทั้งที่เมฆครึ้ม อากาศไม่ดี แถมตอนเจอพายุ คนบนเรือกลับเงียบ ไม่ได้บอกให้ออกไปที่ดาดฟ้าเรือ กระทั่งเรือเอียงถึงรีบวิ่งออกไป แต่ส่วนใหญ่ไม่ทัน เผยตอนจมไร้ที่พึ่ง ทำอะไรไม่ได้เลย

จากกรณีที่เรือนักท่องเที่ยวชื่อ “ฟีนิกซ์ พีซีไดร์วิ่ง” เกิดอับปางกลางทะเลบริเวณเกาะเฮ ต.ราไวย์ อ.เมืองฯ จ.ภูเก็ต ห่างจากท่าเทียบเรืออ่าวฉลองไปประมาณ 20 กิโลเมตร ภายในเรือมีผู้โดยสารทั้งหมด 105 คน แยกเป็นนักท่องเที่ยว 93 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจีน ไกด์ 1 คน ลูกเรือ 11 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา

วันนี้ (8 ก.ค.) สำนักข่าวซินหวาของจีนรายงานว่า นายหวง จวินซง หนึ่งในผู้ประสบภัยเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะเรือเผชิญกับพายุฝนกลางทะเลว่า “ลูกเรือไม่ได้บอกให้ผู้โดยสารที่อยู่ในเคบินออกไปที่ดาดฟ้าเรือ จนกระทั่งเรือเริ่มเอียงไปเยอะแล้ว กว่าพวกเขาจะบอกให้ออกไปเรือก็เอียงไปข้างหนึ่งแล้ว คนก็รีบวิ่งออกไปโดยไม่มีการควบคุมและวิ่งออกไปทางที่เรือเอียงต่ำ ทำให้เรือยิ่งเอียงมากกว่าเดิมและเริ่มมีน้ำไหลเข้ามา จากนั้นเรือก็จมลง น้ำก็ไหลเข้ามา ผู้โดยสารบางคนเข้าไปหลบในเคบิน”

ส่วนนายหวงนั้นเป็นหนึ่งผู้โดยสารที่อยู่ด้านนอกเคบิน เขาเล่าว่า พวกเขาปีนขึ้นไปบนจุดสูงสุดของเรือ บางคนก็เลือกกระโดดลงน้ำ และจังหวะนั้นเองลูกเรือก็เริ่มปล่อยเรือชูชีพ

“ตอนเราออกจากฝั่งอากาศยังดีอยู่ แต่ตอนขากลับเราเจอกับคลื่นลูกใหญ่จำนวนมาก พวกเขารู้ว่าอากาศไม่ดี แต่ทำไมยังจะออกจากฝั่ง” นายหวงกล่าว

ด้านนายหลินหงเจิ้ง ผู้รอดชีวิตอีกหนึ่งราย ระบุว่า “ตอนเราออกจากฝั่ง เมฆครึ้มก็อยู่ข้างหลังเราแล้ว” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า “มีเมฆครึ้มตอนขากลับใช่ไหม?” นายหลินตอบว่า “มีเมฆครึ้มมาตั้งแต่ตอนเราขึ้นเรือแล้ว เราก็ได้แต่ทำตามที่พวกเขาว่า หลังจากนั้นก็นั่งเรือกันไปประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้โดยสารในเคบินต่างกลัวคลื่นที่ซัดสูง เพราะคลื่นพวกนั้นสูงเท่าตึกได้ ตอนผมขึ้นไปที่ชั้น 2 ของเรือ บนชั้น 2 ก็เต็มไปด้วยน้ำแล้ว ส่วนชั้น 1 มีหน้าต่างกระจกปิดอยู่จึงไม่มีน้ำเข้าไป”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนั้นรู้สึกอย่างไร นายหลินตอบว่า “ไร้ที่พึ่งครับ เวลาอยู่กลางทะเลเราไม่มีทางทำอะไรได้เลย”

นายหลินระบุว่าเมื่อไกด์บอกให้ทุกคนสวมเสื้อชูชีพ ก็เริ่มมีผู้โดยสารร้องไห้ ตะโกน ส่วนเขาปีนออกจากเคบินขึ้นไปบนชั้น 2 ได้หลังจากเรือเริ่มจมแล้ว และเขาก็หาใครไม่เจอเลย ทุกอย่างก็โกลาหลมาก

นายหลินจำไม่ได้ว่าเขาลอยคออยู่กลางทะเลนานเพียงได้ จำได้แต่เพียงรู้สึกว่านานมาก และหนาวมาก เพราะลมในทะเลหนาวเย็น และฝนก็ตกจนเขาตัวสั่นไปหมด




กำลังโหลดความคิดเห็น