ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ขอโทษ กรณีตัดต่อคำพูด ผอ.สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ที่ระบุว่า “สังคมไทยไม่ควรมีเซ็กซ์ทอย” เผยผิดพลาดเลือกข้อความมาเป็นประโยคบนกราฟิกหลัก ไม่ตรงกับใจความสำคัญ ทำแหล่งข่าวเสียหาย
จากกรณีที่มีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับอินโฟกราฟิกของสำนักข่าวเวิร์คพอยท์ออนไลน์ อ้างคำพูดของ นางสาลินี ชุ่มวรรณ์ ผอ.สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่า “บริบทสังคมไทยไม่ควรมีเซ็กซ์ทอย เราสามารถยับยั้งชั่งใจได้ ด้วยการนั่งสมาธิและเล่นกีฬา” ซึ่งเป็นที่วิจารณ์ว่า เป็นการนำคำพูดจากบทสัมภาษณ์ขนาดยาวมาตัดต่อให้ผู้อ่านเข้าใจผิดและวิจารณ์ผู้นั้น เพียงเพื่อให้ได้ยอดไลก์ยอดแชร์เยอะๆ โดยที่แหล่งข่าว คือ นางสาลินี ถูกสังคมโซเชียลประณามไปแล้ว
วันนี้ (6 มิ.ย.) ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ออนไลน์ ได้ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ออนไลน์ได้นำเสนอความเห็นของนางสาลินี ในประเด็น Sex Toy ในประเทศไทย ข้อความดังกล่าวถูกนำไปถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง และนำไปสู่การเข้าใจเจตนาของผู้พูดอย่างคลาดเคลื่อน ต่อประเด็นดังกล่าว ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ออนไลน์ขอชี้แจงดังต่อไปนี้
1. ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ออนไลน์น้อมรับข้อผิดพลาด ในการเลือกข้อความมาเป็นประโยคบนกราฟิกหลักโดยไม่ตรงกับใจความสำคัญที่ผู้พูดต้องการจะสื่อ จากความผิดพลาดดังกล่าว ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ออนไลน์จึงขออภัยนางสาลินีมา ณ ที่นี้
2. เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดกว้างขวางกว่าที่เป็นอยู่ ทางทีมข่าวเวิร์คพอยท์จึงตัดสินใจเปลี่ยนกราฟิกข้อความของนางสาลินี เพื่อให้ตรงกับประเด็นหลักที่ผู้พูดต้องการจะสื่อมากขึ้น โดยข้อความใหม่ดังกล่าว คือ
“ถ้าอยากให้ Sex Toy ถูกกฎหมาย ต้องมีงานวิจัยรองรับ ถามว่ามีงานวิจัยทั่วโลกทำไมไม่ใช้? ก็เพราะบริบทมันต่างกัน”
โดยเรายังคงเก็บส่วนของบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มที่เขียนบรรยายประกอบกราฟิกชิ้นเดิมไว้ทั้งหมด เพราะคำสัมภาษณ์ส่วนนั้นสะท้อนสิ่งที่ผู้พูดต้องการจะสื่อได้ชัดเจนที่สุดและผ่านการรับรองจากนางสาลินีแล้ว
3. ทางทีมข่าวเวิร์คพอยท์เข้าใจดีว่ากราฟิกข้อความชิ้นที่เป็นประเด็นดังกล่าวได้ถูกแชร์ต่อไปในวงกว้าง และอาจสร้างความเสียหายให้นางสาลินี ทางเราจึงจะทำการ Boost กราฟิกข้อความใหม่ดังกล่าว เพื่อให้เนื้อหาที่ตรงเป้าประสงค์ของผู้พูดไปถึงผู้คนในวงกว้างที่สุด
ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้ประสานพูดคุยกับนางสาลินีโดยตรงแล้ว นางสาลินี เข้าใจถึงธรรมชาติการถกเถียงประเด็นต่างๆ ในสังคม แต่ขอให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและอยู่ในกรอบของประเด็นสาธารณะมากกว่าตัวบุคคล”