รองผู้อำนวยการฝ่ายข่าวช่องเวิร์คพอยท์ ยืนยันที่มาคลิปเสียงจากวิทยุสื่อสารมาจากศูนย์วิทยุพญาอินทรี (ภาคประชาชน) ที่ใช้วิทยุเครื่องแดงรายงานสถานการณ์ ไม่ได้ดักฟังวิทยุราชการตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมตรวจสอบกับทาง ผบ.ศอร.ถ้ำหลวงไปพร้อมกันด้วย
วันนี้ (9 ก.ค.) นายบรรจง ชีวมงคลกานต์ รองผู้อำนวยการฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์เวิร์คพอยท์ กล่าวถึงกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้วิพากษ์วิจารณ์กรณีการนำเสนอคลิปเสียง ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติภารกิจนำสมาชิกทีม “หมูป่า อะคาเดมี” ออกจากถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่าศูนย์วิทยุพญาอินทรี (ภาคประชาชน) ออกมาระบุแล้วว่าข้อมูลต่างๆ ที่สื่อสารออกไป ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ใช้ได้ทั่วไป แต่มีบุคคลในวงการสื่อบางรายจากสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งเอาภาพนิ่งที่ออกอากาศไปโพสต์กล่าวหาบิดเบือนว่าเป็นคลิปดักฟังคลื่นวิทยุเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดไปว่าดักฟังวิทยุราชการ และทำให้เกิดความเกลียดชัง ทั้งที่บริบทจริงๆ หลังจากปล่อยคลิปนี้ซึ่งเป็นคลิปที่ได้รับมาจากแอปพลิเคชัน ไม่ใช่การดักฟัง
“เราได้มีการโทรศัพท์สัมภาษณ์สด นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานแห่งชาติ ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย (ศอร.) เพื่อให้ยืนยันข้อมูลที่ถูกต้องต่อด้วย แต่ภาพที่สื่อรายนี้นำมาโพสต์ แค่บริบทเดียวพร้อมข้อความประกอบที่เป็นการไม่แฟร์กับบริบททั้งหมด การกล่าวหาว่าดักฟังก็เป็นการใช้คำที่มโนไปเองของสื่อรายนี้” นายบรรจงกล่าว
ขณะที่นายพลสิงห์ หรือศักดิ์ศรี แสนสุข ประธานอำนวยการศูนย์สู้ภัยพิบัติแห่งชาติ พญาอินทรี และศูนย์อำนวยการอาสามัคร Mr.MOL มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ชี้แจงว่า กรณีของช่องเวิร์คพอยท์ เข้าใจว่าคงรับฟังผ่านเครื่องมือสื่อสารความถี่ภาคประชาชน (Citizen Band) เครื่องแดง ช่อง 49 ซึ่งเรารายงานสถานการณ์จากถ้ำหลวงตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน พร้อมกันนี้เรายังจัดส่งทีมอาสาสมัครลงพื้นที่ไปสนับสนุนภารกิจในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน นับตั้งแต่วันแรก ส่วนการรับฟังข่าวสารจากศูนย์พญาอินทรี ประชาชนสามารถรับฟังได้โดยเสรี หากมีวิทยุสื่อสารเครื่องแดงในมือ