วันนี้ (9 เม.ย.) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ระบุว่า จากการที่รัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แสดงท่าทีว่าจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญฯ เพื่อเปิดทางให้เอกชนผู้ประกอบการธุรกิจมือถือสองราย เปลี่ยนแปลงวิธีการชำระค่าสัมปทานคลื่นโทรศัพท์ 4จี ที่ทั้งสองรายนั้นประมูลได้ไปโดยสมัครใจตามกระบวนการที่มีเงื่อนไขชัดเจนและเปิดเผย โดยยืดเวลาชำระเงินที่ยังค้างจ่ายให้รัฐไปเป็นการผ่อนชำระนาน 5 ปี ด้วยอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 1.5 ต่อปี ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับการที่ประชาชนต้องจ่ายเพื่อกู้เงินซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ หรือประกอบธุรกิจการค้า
ต่อกรณีนี้ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เห็นด้วยและสนับสนุนข้อมูลของนักวิชาการและผู้นำภาคประชาสังคมที่เสนอว่า ยังไม่มีเหตุจำเป็นใดเลยที่รัฐต้องยอมเอาประโยชน์ของคนไทยไปช่วยเหลือบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสอง หากรัฐบาล และ คสช. มั่นใจว่า มาตรการช่วยเหลือที่จะออกมาปราศจากผลประโยชน์ทับซ้อน ก็ควรใช้กลไกทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่นำไปสู่การตรวจสอบอย่างเปิดเผยรอบด้าน รวมทั้งขอให้บุคคลใน ครม. และ คสช. ต้องร่วมกันรับผิดหากเกิดการฟ้องร้องเอาผิดทางกฎหมายในอนาคต
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เสนอว่า ควรแยกพิจารณาวิธีการช่วยเหลือผู้ประกอบการในธุรกิจทีวีดิจิทัลออกจากการพิจารณากรณีโทรศัพท์มือถือ เพราะมีเงื่อนไขที่ทางธุรกิจและเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน อนึ่ง การใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 นั้น ควรใช้เพื่อการอันจำเป็นเพื่อประโยชน์ส่วนรวมโดยแท้จริง มิเช่นนั้น จะเป็นการทำลายหลักนิติรัฐและทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศในระยะยาว