“บิ๊กเต่า” หารือทุกภาคส่วน ระดมสมองแก้ปัญหาสัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน

MGR Online - พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด สำรวจถนนเส้นใหม่เลี่ยงป่าอ่างฤๅไน พร้อมรับฟังปัญหาจากประชาชนเพื่อแก้ไขปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์

วันนี้ (26 มี.ค.) พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปฏิบัติภารกิจขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อสำรวจพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ติดตามผลการปฏิบัติงานในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ในการดูแลรักษาป่าและสัตว์ป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พร้อมทั้งลงพื้นที่บริเวณถนนหมายเลข 3259 ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน จังหวัดฉะเชิงเทรา และติดตามการสร้างถนนเส้นใหม่ ที่เลี่ยงถนนบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน และพบปะประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากช้างป่าที่ออกนอกพื้นที่ โดยมีนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายอยู่ เสนาธรรม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) นายเดชา นิลวิเชียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติฯ เจ้าหน้าที่จากอำเภอท่าตะเกียบ ร่วมสนับสนุนข้อมูลและให้การต้อนรับ ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน จ.ฉะเชิงเทรา

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้จัดทำแผนการจัดการช้างป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561-2570 (งบประมาณทั้งสิ้น 1,336,308,000 บาท) โดยมีการดำเนินกิจกรรมทั้งในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ประกอบด้วยกิจกรรมจัดการถิ่นที่อยู่อาศัยของช้างป่า

ทั้งนี้ยังได้มีการจัดการควบคุมและติดตามที่ตัวช้างป่าเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการแก้ไขปัญหาช้างป่าและการจัดการพื้นที่เชื่อมต่อสำหรับสัตว์ป่าและช้างป่า เพื่อนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น อุทยานแห่งชาติเขาคิชกูฏ และอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง และพื้นที่อื่นๆ

ขณะที่เส้นทางผ่านเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ถนนสาย 3076 (3259 เดิม) ระยะทาง 14.7 กิโลเมตร ที่ประชาชนใช้ในการสัญจรไปมา เกิดอุบัติเหตุระหว่างคนกับสัตว์บ่อยครั้งมากขึ้น ส่งผลให้สัตว์ป่าน้อยใหญ่ตายเป็นจำนวนมากในแต่ละปี แม้จะพยายามแก้ไขปัญหาด้วยการควบคุมการใช้ถนนให้เป็นเวลา แต่ก็ยังมีสัตว์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ทางมูลนิธิฯ จึงได้มีแนวคิดงดใช้ถนนเส้นเดิมและให้สร้างเส้นทางอ้อมผ่านพื้นที่ดังกล่าว โดยเส้นทางสายใหม่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ระยะทาง 66.68 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563

จากการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ได้ให้การสนับสนุนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในด้านการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ และการจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ส่งผลให้การบริหารจัดการพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากมาย