ชาวโซเชียลมีเดียแห่ชมคลิปกว่า 9 แสนครั้ง คลิปเภสัชกรสาวใจเย็น ลูกค้าโวย จ่ายยามั่ว สุดท้ายใช้แทนกันได้ แถมอ้างว่าขายยาแพง ตนรู้ราคาส่งของยา ชาวเน็ตด่าโง่แล้วอวดฉลาด
วานนี้ (7 มี.ค.) เพจ “เมือง ทุ่งสง” ได้โพสต์คลิปวิดีโอจากเฟซบุ๊ก “Linn Ping” เป็นเหตุการณ์ภายในร้านขายยาแห่งหนึ่ง ที่ผู้ซื้อเป็นคนอัดคลิปหวังประจานความผิดพลาดของเภสัชกร โดยลูกค้าไม่พอใจที่เภสัชกรสาวนำยาแก้แพ้มาให้ตนเอง ทั้งนี้ ผู้บันทึกคลิปต้องการยาแก้หวัดเพื่อลดน้ำมูก ก่อนที่เภสัชกรได้หยิบกระปุกยามาให้อ่านว่าคือยาแก้แพ้ ลดน้ำมูกได้เหมือนกัน ด้านลูกค้ายังเถียงเภสัชกรอีกว่ายาแก้แพ้ลดน้ำมูกไม่ได้ เภสัชกรจึงตอบกลับไปว่าลดได้ แต่ถ้าลูกค้าอยากเปลี่ยนตัวยาก็จะต้องเพิ่มเงิน ซึ่งตัวยาใหม่นี้ระบุข้อความชัดว่าแก้แพ้ น้ำมูกไหลได้ จึงทำให้ลูกค้าไม่พอใจที่จะต้องเพิ่มเงินซื้อยาและตำหนิเภสัชกรอีกว่าจ่ายยามั่ว ขายยาแพง ก่อนจะอวดรู้อีกว่ารู้แม้กระทั่งราคาส่งของยา และรู้ว่ายาตัวไหนแก้อะไรเพราะตนเองกินยาเป็นประจำ ก่อนในตอนท้านคลิปจะเกิดการถกเถียงของเภสัชกรและลูกค้าอีกนิดหน่อย
ทั้งนี้ คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกแชร์ออกสู่โลกโซเชียลฯ แล้วกว่า 7,200 ครั้ง และยอดชมคลิปอีกเกือบ 1 ล้านครั้ง ด้านชาวเน็ตต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยส่วนใหญ่ ต่างประณามการกระทำของลูกค้าหญิงรายนี้เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ยาแก้แพ้ หรือยาแอนติฮิสตามีน เป็นกลุ่มยาที่มีโครงสร้างคล้ายสารฮิสตามีน (Histamine) ที่เมื่อรับประทานยาเข้าไปแล้ว ยาจะเข้าไปจับกับตัวจับ/ตัวรับของสารฮิสตามีน (Histamine receptor) ที่อยู่บนผิวของเนื้อเยื่อตามระบบหายใจ เช่น ในโพรงจมูก หลอดลม ถุงลม และตามผิว หนังต่างๆ แทนตัวสารฮิสตามีน จึงทำให้ฮิสตามีนเข้าไปจับกับตัวรับของมันไม่ได้ จึงทำให้ไม่เกิดอาการที่เป็นผลจากกระบวนการแพ้ทั้งหลาย ดังนั้น ยากลุ่มนี้จึงนำมาใช้รักษาอาการที่เกิดจากกระ บวนการแพ้หรือโรคภูมิแพ้นั่นเอง
โรคภูมิแพ้ มีหลายประเภทขึ้นอยู่กับว่ากระบวนการแพ้ไปเกิดที่อวัยวะส่วนไหน เช่น 1. เกิดที่จมูก จะทำให้มีอาการน้ำมูกไหล จาม คัดแน่นจมูก เป็นหวัดภูมิแพ้ ถ้าเกิดที่เนื้อปอด ถุงลม หลอดลม จะทำให้หลอดลมหดเกร็ง มีอาการหอบ เป็นโรคหืด 2. เกิดที่ผิวหนังจะมี ผื่นขึ้น คัน เป็นลมพิษ และ 3. เกิดที่เยื่อบุตา จะทำให้มีอาการ คันตา เคืองตา น้ำตาไหล ตาแดง ที่เรียกว่า เยื่อบุตาอัก เสบจากการแพ้ จึงจะเห็นได้ว่า โรคภูมิแพ้ ดังกล่าวข้างต้น เกิดจากกระบวนการเดียวกัน คือ เป็นผลมาจากฮิสตามีนเข้าจับตัวรับฮิสตามีนตามเนื้อเยื่อต่างๆ