xs
xsm
sm
md
lg

“เลขาฯ กกอ.” ท้า ม.รามคำแหงฟ้อง ลั่นทำตามใบสั่งเปิด 182 หลักสูตรไม่ผ่านเกณฑ์-รับข้อมูลล้าสมัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เลขาธิการ กกอ.ระบุกรณีมหาวิทยาลัยรามคำแหงจะฟ้องกรณีเปิดเผย 182 หลักสูตร 40 สถาบันไม่ผ่านมาตรฐาน ท้าถ้าผิดร้องสอบวินัยได้ ลั่นทำตามใบสั่งที่ประชุม กกอ.บอกให้เปิดเผย ยอมรับข้อมูลล้าสมัยไปตั้ง 3 เดือน โบ้ยถ้าอัปเดตกว่านี้ก็ส่งมา แต่ถอดแบล็กลิสต์ชื่อหลักสูตรออกขึ้นอยู่กับ กกอ.

วันนี้ (18 ม.ค.) นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการการอุดมศึกษา (กกอ.) ชี้แจงกรณีการประกาศรายชื่อหลักสูตรที่ไม่ผ่านประเมินตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรของ กกอ.ในปีการศึกษา 2558 และ 2559 รวมถึงประกาศหลักสูตรที่ไม่ผ่านการกำกับมาตรฐานติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี จำนวน 182 หลักสูตร จากสถาบันการศึกษา 40 แห่งทั่วประเทศ ว่ามติที่ประชุม กกอ.เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมาได้สอบทานข้อมูลการดำเนินงานการจัดการศึกษาในปีการศึกษา 2558 และ 2559 เห็นว่ามีหลายหลักสูตรที่น่ากังวลในเรื่องขององค์ประกอบที่ 1 พบว่ามี 182 หลักสูตรมีปัญหาส่วนมากจำนวนอาจารย์ไม่ครบ หรืออาจารย์ครบแต่คุณวุฒิไม่ตรงกับหลักสูตร และเห็นว่าทำอย่างไรถึงจะแจ้งให้สาธารณชนได้รับทราบด้วย กกอ.จึงมีมติให้เผยแพร่ข้อมูล และมีข้อเสนออื่นๆ ไปยังสถาบันการศึกษาเห็นควรให้ปรับปรุงภายใน 90 วัน

ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ทางมหาวิทยาลัยกรอกข้อมูลในช่วงสิ้นปีการศึกษา ระบบก็จะประมวลว่าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเนื่องจากเป็นข้อมูลของทางมหาวิทยาลัยเองที่กรอกมาจาก 9,099 หลักสูตร ซึ่งเป็นข้อมูลหลักๆ ส่วนมากเป็นข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา อาจจะมีบางหลักสูตรที่ข้อมูลล่าสุดเดือนมกราคม 2561 เพราะฉะนั้นจะมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่ยืนยันมาสุดท้ายอยู่ 2-3 มหาวิทยาลัย พอประมวลผลเสร็จส่งเข้าคณะกรรมการการอุดมศึกษาไปเมื่อวันที่ 10 ม.ค. เพราะฉะนั้นจึงเป็นที่มาว่าทำไมข้อมูลถึงล่าช้า แต่เราก็ปรับปรุงให้ในข้อมูลที่ส่งมาเพิ่มเติมให้เป็นปัจจุบัน

“ทำไม กกอ.ถึงมาประกาศให้สาธารณชนได้รับทราบ เพราะมีบทเรียนมาพอสมควร หลายปีก่อนเราก็ตรวจพบผ่านระบบแบบนี้ และไม่ได้แจ้งให้สาธารณชน ก็จัดการศึกษาไม่เป็นไปตามมาตรฐาน และเคยเป็นปัญหาในระดับสถาบัน เช่น ตรวจพบหลักสูตรบางเรื่อง ก็แจ้งไปยังมหาวิทยาลัย แต่มหาวิทยาลัยไม่นำแจ้งสภามหาวิทยาลัย นักศึกษาก็ไม่รู้ กกอ. ก็เลยเห็นว่าให้ทุกคน ทุกฝ่ายได้รับรู้ แต่ไม่ได้หมายความว่าปริญญานั้นไม่ศักดิ์สิทธิ์ หลักสูตรพวกนี้ สกอ. รับทราบไปแล้ว แต่ในระหว่างการปฏิบัติก็จะมีอาจารย์เข้า-ออก เขาคงหมุนอาจารย์ได้ เพราะฉะนั้น หน้าที่ของมหาวิทยาลัยและสภามหาวิทยาลัย ต้องเมนเทนอาจารย์ผู้สอนเป็นไปด้วยคอมมิตต่อสังคมเท่านั้นเอง” นายสุภัทรกล่าว

นายสุภัทรกล่าวว่า ยังมีหลักสูตรที่ดำเนินการอยู่ 53 หลักสูตร อย่างน้อย 4 หลักสูตรจากมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ บอกว่าหาอาจารย์ครบแล้ว มาตรวจสอบได้เลย ส่วนคำว่า “รอการปรับปรุง” นั้น มหาวิทยาลัยได้ปรับปรุงและรอการสอบทานอีกครั้งหลังการปรับปรุงแล้ว ถ้าปรับปรุงไปแล้วก็แจ้งเข้ามา ก็จะเสนอให้ กกอ. ทราบเป็นรายๆ ไป สิ่งที่ กกอ.กังวล คือ สาธารณชนควรได้รับทราบและตัดสินใจเอง เพราะเราเชื่อว่า สมมติปีนี้อาจารย์ขาดไป 1 คน แต่อีก 3 ปีรีครูตเข้ามาครบได้ทัน ก็ไม่น่ามีปัญหา ปริญญาเป็นศักดิ์และสิทธิ์ เป็นของสภามหาวิทยาลัย กกอ. ก็สั่งไม่ได้ การอนุมัติเปิดหลักสูตร การอนุมัติการจบปริญญา รวมทั้งการวัดผล และการอนุมัติปริญญาเป็นอำนาจของสภามหาวิทยาลัย กกอ. มีหน้าที่ออกหลักเกณฑ์พื้นฐานขั้นต่ำ

“สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือว่า กกอ.ก็บอกว่า ท่านก็ต้องมาเร่งปรับปรุง พร้อมๆ กับผู้เรียนที่เข้าใหม่ก็สามารถจะรู้ได้ว่า อาจจะต้องสอบทานว่าปรับปรุงไปแล้วหรือยัง ต้องยอมรับส่วนหนึ่งว่าข้อมูลที่ยืนยันล่าช้าไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน ก็มีคนตำหนิว่าหัวข้อของตารางไม่เหมาะสม เพราะขาดคำว่า “เฉพาะองค์ประกอบที่ 1” ก็ยอมรับว่าบางทีมีการปรับตารางไปมา” นายสุภัทรกล่าว

เมื่อถามว่า ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงระบุว่า การตรวจสอบเป็นการใช้ข้อมูลเก่าในช่วงปีการศึกษา 2558 และ 2559 แล้วมาประกาศ ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรม ทั้งที่มีการปรับปรุงและปิดหลักสูตรไปแล้ว นายสุภัทรกล่าวว่า เฉพาะข้อมูลที่มีในบรรทัดท้ายระบุว่า เท่าที่เราตรวจสอบก็จะมีปิดหลักสูตรไปแล้ว งดรับนักศึกษา และรอปรับปรุง คำถามก็คือ แล้วข้อมูลอัปเดตแค่ไหน เขาอาจจะปิดไปแล้วในช่วงเวลานี้ แต่ยังไม่แจ้งเข้ามา อาจจะอยู่ในสภา ส่วนข้อมูลเก่าหรือไม่ เป็นข้อมูลการปฏิบัติงานในปีการศึกษา 2558 และ 2559 ประเทศเรามีสองระบบ ผลการประเมินก็กรอกข้อมูลตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา

ส่วนการเผยแพร่ข้อมูลสามารถทำได้เร็วกว่านี้หรือไม่ นายสุภัทรกล่าวว่า ข้อมูลปีการศึกษา 2559 กว่าจะกรอกและประมวลผลเสร็จก็เดือนพฤศจิกายน 2560 สรุปเข้าไปและเสนออนุกรรมการเดือนธันวาคม 2560 เพราะต้องรอข้อมูลเข้าให้ครบ ซึ่งจะเปิดให้กรอกข้อมูลตั้งแต่สิ้นปีการศึกษา ซึ่งปีการศึกษา 2558 ก็มีข้อมูลมาแล้ว 1 ปี ก็ยังไม่ได้บอกเพราะดูเหมือนยังไม่มีปัญหา ก็มีเวลาแก้ไขได้ แต่ถ้าปีการศึกษาต่อไป ยังขาดองค์ประกอบที่ 1 ก็จะเป็นสองปีซ้อน กกอ.ก็เลยกังวลว่ามหาวิทยาลัยต้องระมัดระวังในการบริหาร เนื่องจากร้อยละ 90 เป็นเรื่องจำนวนอาจารย์และคุณวุฒิ สาธารณชนควรได้รับทราบ และเป็นข้อมูลปกติที่เผยแพร่ได้อยู่แล้ว ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นข้อมูลที่สถาบันกรอกมาและเป็นการประมวลผลทางเกณฑ์

เมื่อถามว่า ทางมหาวิทยาลัยรามคำแหงจะเตรียมดำเนินการทางกฎหมายกับ กกอ. เพราะทำให้เสียชื่อเสียง ทั้งที่ปรับปรุงมาเรื่อยๆ นายสุภัทรกล่าวว่า ไม่อยากตอบประเด็นนี้ แต่ก็เป็นสิทธิที่ทุกคนจะปกป้องตนเอง หน้าที่ของตนในฐานะข้าราชการ เป็นส่วนหนึ่งภายใต้การกำกับ กกอ. มติ กกอ. ก็คือเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะ ตนก็ดำเนินการตามนั้น ถ้าถามว่าปิดได้ไหม เคยเห็นผลการปิดแล้วเป็นอย่างไร การไม่เผยแพร่ข้อมูลให้ผู้เรียนได้รู้แล้วเป็นอย่างไร คงเคยเห็นมาแล้ว ครั้งนี้ กกอ.ก็ตัดสินใจเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ ก็แฟร์ๆ และเป็นข้อมูลที่ย้ำอีกทีว่า ปีการศึกษา 2558 และ 2559 เราก็บอกสถานะปัจจุบัน แต่เนื่องจากปีการศึกษา 2560 ยังไม่เสร็จ จะเริ่มเสร็จก็ต่อเมื่อสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม จะเริ่มเสร็จของอีกกลุ่มหนึ่งประมาณเดือนพฤษภาคม กว่าจะได้กรอกข้อมูลก็อีก 1 ปี การเปิดเผยข้อมูลน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะมากกว่า และเป็นการตัดสินใจของผู้เรียนปกติ

“แล้ว สกอ.จะทำอย่างไร ผมในฐานะข้าราชการ ถ้าท่านคิดว่าผมผิดวินัยก็สามารถร้องเรียนสอบสวนวินัยผมได้ ผมไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะว่าผมมีหน้าที่ในการปฏิบัติ และผมคิดว่าในกรณีนี้ โดยส่วนตัวคิดว่า สกอ.ตัดสินใจถูกในการเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะ ถ้าคิดว่าการเผยแพร่ข้อมูลแล้วมีใครเสียประโยชน์ และได้ประโยชน์ กกอ.ก็เล็งเห็นสิ่งนั้นอยู่ แต่ผมในฐานะข้าราชการประจำก็ยินดีที่จะรับโทษ ถ้าคิดว่าการเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะนั้นมีผลเสีย” นายสุภัทรกล่าว

เมื่อถามว่า สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษา 182 หลักสูตรไปบ้างแล้ว จะมีมาตรการอะไรได้บ้าง นายสุภัทรกล่าวว่า เป็นการผิดบางช่วงจังหวะเวลา เป็นช่วงฟันหลอเขาก็เติมเต็ม ถ้าไม่เหมาะสมก็ปิดหลักสูตร เขาก็จัดการ เพราะฉะนั้นเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่ง ปริญญายังมีศักดิ์และสิทธิ์เหมือนเดิม ไม่มีผลต่อผู้จบการศึกษา เพราะโดยพื้นฐานตอนเข้าเสนออนุมัติหลักสูตรเป็นไปตามหลักเกณฑ์ แต่ตอนอิมพลีเมนท์มันมีฟันหลอบางจังหวะ บางเรื่อง ก็จัดการบริหารได้

เมื่อถามว่าจะเชิญมหาวิทยาลัยรามคำแหง หรือมหาวิทยาลัยอื่นที่มีกรณี 182 หลักสูตรหรือไม่ นายสุภัทรกล่าวว่า ตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ เราได้ข้อมูลปีการศึกษาหน้าครบ ใครแจ้งเพิ่มเราก็ลงสถานะให้ ส่วนการรอการปรับปรุงมี 3 มหาวิทยาลัยยังไม่ได้ยืนยันมา ก็สามารถยืนยันข้อมูลได้ ส่วนการเชิญมาพูดคุยก็จะเชิญมา เพราะปัญหามากกว่า 90% อาจารย์ไม่ครบ 5 คน หรือคุณสมบัติ คุณวุฒิไม่ได้ ตนหารือผู้บริหารมหาวิทยาลัยบางคนแล้วในกรณีนี้ การโยกไปเป็นอาจารย์ประจำหลักสูตร อาจต้องขอความร่วมมือให้ยกเว้นเกณฑ์บางเรื่องไปดำเนินการได้ อาจจะเป็น 1 เทอม แต่ไม่เกิน 1 ปี เพื่อให้เวลาจัดการศึกษาสมบูรณ์ ไม่ให้เกิดฟันหลอ ส่วนการจัดหาอาจารย์คนใหม่ ถ้าคุยตรงนี้ได้จะหายไป ส่วนอีกจำนวนหนึ่งเป็นเรื่องการบริหารหลักสูตร เช่น อาจารย์คุมนิสิตเกินหรือภาคนิพนธ์เกิน สามารถปรับได้เลย

เมื่อถามว่า กรณีปรับปรุงหลักสูตรเรียบร้อยแล้ว ส่งเรื่องให้ สกอ.จะมีการถอดชื่อหลักสูตรออกหรือไม่ นายสุภัทรกล่าวว่า ต้องถาม กกอ.ยังไม่มีมติตรงนั้น มีมติแค่เผยแพร่ข้อมูล ส่วนการปรับปรุงข้อมูลคงจะต้องรับข้อมูลเข้ามา และสรุปข้อมูลทุก 15 วัน ซึ่งจะต้องสกรีนข้อมูลก่อน อาจจะต้องใช้เวลาสแกนข้อมูล 1 วัน การอัปเดตข้อมูลสถานะขึ้นภายใน 7 วัน และ 15 วัน ถือว่าเหมาะสม แต่ กกอ.อาจจะบอกอีกอย่างหนึ่ง

เมื่อถามว่า ทางมหาวิทยาลัยรามคำแหงระบุว่า สกอ.ไม่เคยคุย เขาแจ้งว่ามีการอัปเดตต่างๆ ก็ไม่รับรู้ นายสุภัทรกล่าวว่า เอกสารก็แจ้งมาได้ อัปเข้าไปให้ และนี่เป็นข้อมูลสุดท้ายที่ตนมี ตนจะเชิญมหาวิทยาลัยเรียกประชุมช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ สำหรับตนการเชิญประชุมไม่ได้มีตำหนิอะไร แต่หลายคนตำหนิตนเพราะหลายคนไม่คิดว่าตนเป็นเพื่อนอีกแล้ว แต่ตนเป็นข้าราชการ มีหน้าที่ทำตรงไปตรงมา ถ้าเห็นว่าการเผยแพร่สาธารณะตามมติ กกอ.เป็นความผิดก็ไม่ได้คิดมากอะไร สามารถจะเอาผิดกับตนได้ อย่าเอาผิดกับลูกน้องตน


กำลังโหลดความคิดเห็น