เวทีเสวนาแสดงความคับข้องใจ อัยการจังหวัดแม่ฮ่องสอนสั่งไม่ฟ้อง “ตำรวจ-ข้าราชการ” ซื้อกามเด็ก “แก๊งนกฮูก” ชี้หลักฐานชัดเข้าข่ายรุมโทรม แต่เห็นแบบนี้สิ้นหวัง ด้านอัยการสูงสุดแจงสำนวนคดีมาถึงแล้ว กำลังดูเอกสารอย่างละเอียด
รายงานข่าวแจ้งว่า ในเวทีเสวนาเรื่อง “สั่งไม่ฟ้อง...ซื้อประเวณีเด็ก ปล่อยผีขาหื่น ยุคไทยแลนด์ 4.0” จัดขึ้นที่โรงแรมเอเชีย เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก เปิดเผยว่า อัยการจังหวัดแม่ฮ่องสอนสั่งไม่ฟ้องข้าราชการ ตำรวจ และผู้มีชื่อเสียงที่เข้าไปพัวพันกับการซื้อประเวณีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ขัดกับหลักกฎหมายและกติกาสากลระหว่างประเทศ ทั้งที่มีหลักฐานคือถ้อยคำรับสารภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นายที่ร่วมกันซื้อประเวณีเยาวชนต่อ พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหงา รอง ผบช.ภาค 5 ชัดเจนว่าเป็นการเข้าข่ายรุมโทรมเหยื่อค้าประเวณี ตนรู้สึกสิ้นหวัง จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในกระบวนการยุติธรรมทบทวนในประเด็นดังกล่าว
นายเตชาติ์ มีชัย เครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน ระบุว่า กฎหมายที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ คือ พ.ร.บ.ป้องกันและปรามปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 โดยพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องจำนวนมาก และกระทำต่อเด็กและเยาวชน เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงค่านิยมเลี้ยงดูปูเสื่อในวงราชการ ซึ่งอัยการจังหวัดแม่ฮ่องสอนต้องตอบสังคมให้ได้ว่า ทำไมถึงมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ซื้อบริการทางเพศ เพราะคนในสังคมจับตามองอยู่ อย่าทำเป็นลูบหน้าปะจมูก ไม่เช่นนั้นจะเป็นกฎหมายที่ตายแล้ว เพราะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ให้ความสำคัญ ฝ่ายบังคับใช้กฎหมายต้องมีมาตรการเชิงรุกและวิสัยทัศน์รู้ทันปัญหา เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อในการแสวงหาผลประโยชน์รูปแบบต่างๆ
อย่างไรก็ตาม นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงคดีที่อัยการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีคำสั่งไม่ฟ้องข้าราชการ ตำรวจ และผู้ที่มีชื่อเสียง ที่เข้าไปพัวพันกับการซื้อประเวณีเด็ก ในพื้นที่ สภ.น้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ว่าสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องส่งเข้ามาถึงสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อชี้ขาดแล้ว 12 สำนวน ซึ่งนายธีระ หงส์เจริญ อธิบดีอัยการ ได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานพิจารณาชี้ขาดความเห็นแย้ง โดยกำลังดูเอกสารโดยละเอียด ยืนยันว่าทำงานตามพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน บางเรื่องอาจแตกต่างจากข่าว แต่ก็พยายามทำงานด้วยความระมัดระวังอย่างละเอียดอยู่แล้ว
อนึ่ง ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 พ.ย.มีรายงานว่า อัยการจังหวัดแม่ฮ่องสอนแจ้งต่อทางตำรวจภูธรภาค 5 มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ที่ซื้อบริการทางเพศ แต่พิจารณาเฉพาะแม่เล้ากับผู้จัดหาในข้อหาค้ามนุษย์เท่านั้น ทำให้นางทิชา ณ นคร พร้อมเครือข่ายฯ ได้เข้ายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 16 พ.ย.เพื่อตรวจสอบ และขอให้อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องกลุ่มข้าราชการ, ตำรวจ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ส่วนนายบุญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย น.ส.สุเพ็ญศรี ผึ้งโคกสูง ผู้จัดการมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบอัยการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในกรณีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ซื้อบริการทางเพศเยาวชน
สำหรับคดีค้ากามเยาวชนสะเทือนขวัญเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2559 เมื่อนางน้ำเพชร (ขอสงวนนามสกุล) มารดาของเยาวชนรายหนึ่งเข้าแจ้งความต่อตำรวจโดยระบุว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน บังคับให้เยาวชนรวมทั้งลูกสาว รวม 3 คนค้าประเวณี โดยไปร่วมหลับนอนกับข้าราชการระดับสูงคนหนึ่งที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีการสักลายนกฮูกบนเรือนร่างผู้หญิงเพื่อคอยส่งให้ดาบตำรวจนำไปส่งบริการลูกค้า ซึ่งมีทั้งข้าราชการ ตำรวจ ทหาร พ่อค้า จึงเป็นที่มาของคำว่า “แก๊งนกฮูก”
โดยตำรวจภูธรภาค 5 ได้แบ่งผู้กระทำความผิดออกเป็น 4 กลุ่ม ผู้ต้องหารวม 24 คน ได้แก่ คดีรุมโทรม 1 คดี ผู้ต้องหา 3 คน คือ ส.ต.ท.เพชร เตชะโอฬาร, ส.ต.อ.นิรันดร์ สายจันทร์ และ ส.ต.ต.พิทักษ์ สมกุล เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดสถานีตำรวจภูธรกองก๋อย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ส่วนกลุ่มแม่เล้า หรือนายหน้า 27 คดี ผู้ต้องหา 8 คน คือ น.ส.ปิยทัสน์ หรือฟ้า ภาพเทียนสุวรรณ, น.ส.กัลยา หรือจอย วุฒิกุล, ด.ต.ยุทธชัย ทองชาติ, น.ส.กนกวรรณ หรือม่อม รัตนภักดี, น.ส.ปิยะวรรณ หรือเมย์ สุขมา, น.ส.ขวัญหทัย หรือตั๊ก ฤกษ์อุดม, น.ส.ปัทมพร หรืออึง อิ่นแก้ว และนายมงคล หรือแป๊ะ เกียรติภักดี
ส่วนกลุ่มผู้ซื้อประเวณี 6 คดี ผู้ต้องหา 13 คน คือ พ.ต.ท.มงคล ปันดี, ร.ต.ท.อำนาจ ยะกาวิน หรือ หมวดอาร์ท, ต.ต.บุญหลง วงศ์โท๊ะ หรือ ปู่หลง, นายวิทยา ภูติรักษ์ หรือ ครูบอย, พ.ต.ท.พงษ์นรินทร์ พลนำ หรือ ผู้กองหลิน และ ส.ต.ท.จิราวัฒน์ นาเมืองพรหม หรือ โด้, อาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน, สจ.ปาย, ทหารด่านผาบ่อง, เจ้าหน้าที่แขวงการทาง, ทหารขับรถกระบะแดง, เจ้าหน้าที่สาธารณสุขดอยเต่า และนายสมบัติ สุนันต่า คนขายน้ำเต้าหู้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาอีกราย คือ นายชาติชาย พ่วงแพ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ จ.นนทบุรี หลังพบว่าซื้อบริการทางเพศหญิงสาวแก๊งนกฮูก ระหว่างไปศึกษาดูงานที่ จ.แม่ฮ่องสอน รวมทั้งนายอนุชาติ หรือเดียร์ ดวงจันทร์ จ.นนทบุรี คนขับรถนายก อบต.บ้านใหม่ ที่ขับรถนำหญิงสาวไปค้าประเวณี