พบ “พระเทพมังคลาจารย์” เจ้าอาวาสวัดท่าตอน หลังยึดวัดเล็ก กลายเป็น “พระนักทุบ” ทุบห้องน้ำเป็นว่าเล่น 27 ห้อง ทั้งที่ได้มาจากเงินที่เจ้าอาวาสคนก่อนได้รับบริจาค แต่ถูกเอาผิด อ้างไม่ได้ฝากเข้าบัญชีธนาคาร ด้านกลุ่มชาวพุทธเชียงใหม่รวมหัวประชุม เตรียมตอบโต้ - ปกป้องพระผู้ใหญ่ทั้งสองรูป อ้างความผิดทางโลกว่าตามกฎหมาย พบทหาร “อนุศาสนาจารย์” ค่ายกาวิละ อ้างยังไม่เป็นคดีความ แต่สื่อตัดสินความผิดฉกรรจ์แล้ว
จากกรณีที่ MGR Online ได้นำเสนอรายงานกรณีที่พระราชรัชมุนี (นิมิต ทิพย์ปัญญาเมธี) เจ้าอาวาสวัดสวนดอก พระอารามหลวง ต.สุเทพ อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ และเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งถูกปลัดอำเภอแม่อายแจ้งความดำเนินคดีในข้อหายื่นคำขอมีบัตรโดยมิได้มีสัญชาติไทย ด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารมหาชน หรือเอกสารราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หลังพบว่าเลขที่บัตรประชาชนตรงกับของ ด.ช.ดวงดี หรือ นายดวงดี เวียงดินดำ ชาว ต.บ้านแก้ง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2538 จึงถูกร้องเรียนว่าเป็นการสวมสิทธิคนตายหรือไม่ และยังถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง กระทบวงการสงฆ์ของไทย ซึ่งภายหลังพบว่าพระราชรัชมุนี มีสัญชาติพม่า
ขณะเดียวกัน ยังพบว่า พระราชรัชมุนี มี พระเทพมังคลาจารย์ (สมาน กิตติโสภโณ) เจ้าอาวาสวัดท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระอุปัชฌาย์ และก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องสวมบัตรประชาชน ได้ใช้อำนาจเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ แต่งตั้งพระเทพมังคลาจารย์ ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาส 2 วัดพร้อมกันในตัวเมืองเชียงใหม่ คือ วัดพระเจ้าเม็งราย ต.พระสิงห์ อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ และ วัดเชตวัน ต.ช้างม่อย อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ กระทั่งพระมหารวีวัฒน์ ถูกคำสั่งปลดจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ก่อนจะร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน ว่า ถูกพระราชรัชมุนีใช้อำนาจโดยไม่ชอบ อีกทั้งตนกำลังตกเป็นเหยื่อ และมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก เพราะมีชาวบ้านที่ศรัทธาพระเทพมังคลาจารย์ออกมาชุมนุมขับไล่
อ่านประกอบ : มหากาพย์ผ้าเหลืองเชียงใหม่! พระปลอมบัตรผี รวมหัว “พระเทพมังคลาจารย์” ยึดวัดเล็กขยายอำนาจ
รายงานข่าวแจ้งว่า พระมหารวีวัฒน์ อดีตเจ้าวาสวัดพระเจ้าเม็งราย ถูกร้องเรียนตั้งแต่ปี 2554 ในข้อหาทุจริตเงินรายได้วัด และไม่รายงานบัญชีทรัพย์สินของวัด แต่ที่บานปลายคือเมื่อเดือนมีนาคม 2560 ถูกคำสั่งจากพระเทพปริยัติ เจ้าอาวาสวัดเจ็ดยอด เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 013/2560 ลงวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา ปลดจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระเจ้าเม็งราย โดยอ้างว่า มีผู้บริจาคเงินให้แก่วัดพระเจ้าเม็งราย เมื่อปี 2552 - 2554 จำนวน 9 แสนบาท แต่ไม่ได้นำไปฝากธนาคารในนามวัด พระมหารวีวัฒน์ จึงได้ฟ้องต่อศาลในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ยืนยันว่า นำเงินทุกบาทไปสร้างห้องน้ำวัดกว่า 40 ห้อง รวมของเก่าเป็น 61 ห้อง เพื่อให้ญาติโยมได้เข้ามาใช้ แต่เมื่อพระเทพมังคลาจารย์เข้ามารับตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาส ได้ทุบห้องน้ำ 27 ห้อง เพื่อปรับปรุงพื้นที่ภายในวัด
อย่างไรก็ตาม กรณีที่พระราชรัชมุนีสวมบัตรประชาชนคนตาย ซึ่งกล่าวหาว่า พระเทพมังคลาจารย์ เป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง และเชื่อมโยว่าเป็นเครือข่ายของวัดพระธรรมกาย นั้น พบว่า ได้มีความเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องพระราชรัชมุนี และ พระเทพมังคลาจารย์ โดยเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา พระครูอมรธรรมทัต (บุญส่ง อมรทตฺโต) เจ้าอาวาสวัดพันอ้น ย่านประตูท่าแพ ต.ศรีภูมิ อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ และ เลขานุการศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนา จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับพระสงฆ์และตัวแทนองค์กรชาวพุทธในจังหวัดเชียงใหม่ ประชุมร่วมกันเพื่อหารือในกลุ่มพุทธศาสนาของจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้มีแนวทางเคลื่อนไหวปกป้อง และดำเนินการตอบโต้ทางกฎหมาย กรณีที่เห็นว่ามุ่งทำลายพระส่วนใหญ่เหมารวมว่าประพฤติไม่ดี แต่ในส่วนของความผิดทางโลกของพระราชรัชมุนี ก็ว่าไปตามกฎหมาย
พ.อ.จีรสิทธิ์ จันทร์แดง อนุศาสนาจารย์ มณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ ต.วัดเกต อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกระทบกับจิตใจของพระพุทธศาสนิกชนอย่างมาก เพราะเรื่องยังไม่เป็นคดีความ มีเพียงการร้องเรียนเท่านั้น แต่สื่อได้ตัดสินพระเถระมีความผิดฉกรรจ์แล้ว ในวงการอนุศาสนาจารย์ก็อยากจะให้สอบสวนสะสางคดีโดยเร็ว