กรมชลประทาน แจง โซเชียลมีเดียปล่อยข่าว ระบายน้ำเขื่อนภูมิพลวันละ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ไม่จริง น้ำในอ่างมีแค่ 9 พัน ลบ.ม. ความจุร้อยละ 66 เท่านั้น ต้องเก็บน้ำไว้ใช้ฤดูแล้ง ส่วนการระบายน้ำออกทางบางปะกง ไม่ใช้คลองแสนแสบ ใช้คลองระพีพัฒน์ คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต แล้วไหลลงคลองชายทะเลไปอ่าวไทย
วันนี้ (14 ต.ค.) นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน ชี้แจงกรณีที่ได้มีการเผยแพร่ข้อความในสื่อโซเชียลมีเดีย ว่า จะมีการผลักดันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านคลองแสนแสบ ไปลงแม่น้ำบางปะกง และได้แจ้งเตือนให้ผู้อยู่อาศัยริมคลองแสนแสบ ให้เตรียมรับมือน้ำท่วม พร้อมกล่าวว่า จะมีการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล ลงมาอีกกว่าวันละ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร นั้น ไม่เป็นความจริง
นายสมเกียรติ อธิบายว่า ปัจจุบันเขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 9,185 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือคิดเป็นร้อยละ 66 ของความจุอ่างเก็บน้ำเท่านั้น และได้ปิดการระบายน้ำมาตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค. เป็นต้นมา เพื่อกักเก็บน้ำไว้ในเขื่อนให้ได้มากที่สุด เนื่องจากใกล้สิ้นสุดฤดูฝนแล้ว พร้อมกับลดผลกระทบที่ไม่ให้เกิดในพื้นที่ตอนล่างจากปริมาณน้ำฝนที่ตกมาต่อเนื่อง ในช่วงวันที่ 2 - 10 ต.ค. ที่ผ่านมา
ส่วนการระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ลงสู่พื้นที่ตอนล่าง กรมชลประทาน ไม่มีนโยบายที่จะระบายน้ำผ่านเข้าเขตกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ การระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อระบายออกทางแม่น้ำบางปะกง จะระบายน้ำผ่านคลองระพีพัฒน์ ไปลงคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ก่อนจะระบายลงสู่คลองชายทะเล จากนั้นจะสูบระบายลงสู่อ่าวไทยตามลำดับ ไม่ได้มีการระบายลงสู่คลองแสนแสบตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
สำหรับเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานครในช่วงกลางดึกที่ผ่านมานั้น เนื่องจากเกิดฝนตกหนักมากในพื้นที่กรุงเทพมหานคร วัดปริมาณฝนสูงสุดได้ที่เขตดินแดง 174 มิลลิเมตร เขตยานนาวา 195 มิลลิเมตร เขตบางกอกน้อย 208 มิลลิเมตร และ เขตพระนคร 214 มิลลิเมตร เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนพาดผ่าน บริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและหนักมากบางแห่ง