ถึงเวลาปลดล็อกธงแดงไอเคโอแก่ไทย จับตาสายการบินยักษ์ “ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ - นกสกู๊ต” เข็นเส้นทางที่ถูกห้ามบินตรงเมื่อ 2 ปีก่อน โดยเฉพาะ “ญี่ปุ่น - เกาหลี” ส่วนการบินไทยลุ้นเพิ่มอันดับมาตรฐาน “เอฟเอเอ” ก่อนปัดฝุ่นบินตรงไปสหรัฐฯ
นับเป็นข่าวดีในแวดวงการบิน เมื่อวันที่ 7 ต.ค. เว็บไซต์อย่างเป็นทางการขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ : ICAO) ได้ปลดสัญลักษณ์ “ธงแดง” ออกจากประเทศไทย
หลังก่อนหน้านี้ กรมการบินพลเรือนของไทย ถูกไอเคโอลงโทษเมื่อปี 2558 เพราะไม่สามารถแก้ไขปัญหา “ข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย” (Significant Safety Concerns) มาตั้งแต่ปี 2558
ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินของไทย ที่จะเปิดจุดบินเส้นทางต่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยเฉพาะเส้นทางยอดนิยมอย่างญี่ปุ่น กรมการบินพลเรือนของญี่ปุ่นไม่อนุมัติให้สายการบินของไทยเพิ่มความถี่และเส้นทางบินใหม่ เที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) และเปลี่ยนขนาดเครื่องบิน
ทำให้สายการบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์ อย่าง แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ไม่สามารถบินไปยังเส้นทางซัปโปโร เกาะฮอกไกโด รวมทั้งสายการบินคู่แข่งอย่าง นกสกู๊ต ไม่สามารถทำการบินไปยังเกียวโต และ โอซากา ได้
รวมทั้งเกาหลีใต้ ก็ห้ามไม่ให้สายการบินจากไทยขยายเส้นทางบินหรือเปิดจุดบินเพิ่มเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นอกจากการปลดธงแดงบนเว็บไซต์ไอเคโอแล้ว วันที่ 9 ต.ค. นายอรุณ มิชรา ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของไอเคโอ ยังได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงทำเนียบรัฐบาลด้วยตัวเอง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทางไอเคโอได้มีมติปลดธงแดงอย่างเป็นทางการแล้ว เป็นวันที่น่าภาคภูมิใจสำหรับประเทศไทย จะบินไปที่ไหนในโลกนี้ที่มีข้อตกลงการบินระหว่างกันก็ย่อมทำได้
ผลจากการที่ไอเคโอปลดธงแดง แน่นอนว่า สายการบินของไทยต่างลุ้นที่จะเปิดเที่ยวบินเส้นทางระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เคยห้ามไทยเพิ่มเที่ยวบินหรือจุดบิน ก็จะได้โอกาสขยายเส้นทางเสียที
เช่น ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ก่อนหน้านี้ มีแผนที่จะทำการบินเส้นทางดอนเมือง - ฮอกไกโด แต่เมื่อเจอธงแดงจากไอเคโอเข้าไปจึงระงับทำการบินชั่วคราว เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2558
จากนี้ ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์มีแผนจะเจรจากับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพื่อขอเปิดเส้นทางบินเพิ่มเติม นอกเหนือจากดอนเมือง - โตเกียว, ดอนเมือง - โอซากา และ ดอนเมือง - โซล
ขณะที่ นกสกู๊ต ที่สายการบินนกแอร์ ร่วมทุนกับสกู๊ต สายการบินในเครือสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ก่อนหน้านี้ ไม่ได้รับอนุญาตให้บินเช่าเหมาลำไปยังเมืองเกียวโต และ โอซากา
ทำให้ในปัจจุบัน ต้องให้สายการบินแม่อย่างสกู๊ต ทำการบินจากสนามบินชางฮีของสิงคโปร์ แวะพักที่ดอนเมือง ก่อนที่จะบินต่อไปยังโตเกียวและโอซากาแทน
ส่วน ไทยไลอ้อนแอร์ เคยประกาศว่า พร้อมที่จะนำเครื่องบินใหม่ 3 ลำ ไปประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ หากไทยได้รับการปลดธงแดงจากไอเคโอ
โดยมีแผนทำการบินเส้นทาง ดอนเมือง - โตเกียว (นาริตะ), ดอนเมือง - โซล (อินชอน) และ ดอนเมือง - ปูซาน รวมทั้งปีหน้ามีแผนเปิดเส้นทางใหม่ไปจีนอีก 5 เส้นทางอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การปลดธงแดงของไทยแม้จะทำให้สายการบินของไทยสามารถขอขยายจุดบิน หรือเปิดเส้นทางบินใหม่ ในต่างประเทศได้ตามปกติ แต่สหรัฐอเมริกายังไม่สามารถทำได้
เพราะสหรัฐฯ ใช้มาตรฐานของ สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟเอเอ : FAA) ปัจจุบันลดอันดับไทยให้มีมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินอยู่ในระดับ 2
หากเอฟเอเอเพิ่มระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินของไทยอยู่ในระดับ 1 จะสามารถทำการบินเข้าสหรัฐฯ ได้ โดยไทยเตรียมผลักดันยื่นเรื่องให้เอฟเอเอเข้ามาตรวจสอบซ้ำ
ขณะที่ผู้บริหาร “การบินไทย” เตรียมเสนอเปิดเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ - สหรัฐฯ อีกครั้งในวันที่ 18 ต.ค. นี้ หลังยุบเส้นทางไปเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2558 เพื่อลดปัญหาการขาดทุน
ในปัจจุบันจากประเทศไทยจะเดินทางไปสหรัฐฯ ต้องใช้วิธีต่อเครื่องกลางทาง เช่น หากเดินทางด้วยการบินไทยจะต้องไปลงเครื่องที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น แล้วต่อสายการบิน ANA ไปยังสหรัฐฯ แทน
ความคึกคักของอุตสาหกรรมการบินในไทย หลังไอเคโอปลดธงแดง เราจะได้เห็นจุดหมายปลายทางต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่น เกาหลี และเส้นทางข้ามทวีปเพิ่มมากขึ้น