สคบ. สั่งให้ “เมฆ มังกรบิน” หยุดขายผลิตภัณฑ์ “แมกซ์ นาโน” สารเคลือบเครื่องยนต์ หลังฉลากสินค้าไม่ถูกต้อง โฆษณาเกินจริง พร้อมให้สถาบันยานยนต์ทดสอบผลิตภัณฑ์ 2 สัปดาห์ เจ้าตัวอ้างไม่รู้ ทดสอบแล้วเอาติดฉลาก ลั่นซื้อแล้วไม่ได้ใช้ ยินดีรับซื้อคืน ปฏิเสธให้เงิน 1 แสน ม.สุรนารี เอาไปทดสอบ
จากกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลิตภัณฑ์สารเคลือบเครื่องยนต์ แมกซ์ นาโน (MAX NANO) ของนายเกริกพล จงเอื้อมกลาง อายุ 37 ปี เจ้าของฉายา “เมฆ มังกรบิน” ว่า ไร้มาตรฐาน เพราะเป็นการนำสารคลอริเนเตท พาราฟิน หรือ คลอรีน 51% (Chlorine 51L) เอามาผสมกับกลีเซอรีน เพื่อให้ใส หากใช้ไปนานๆ เครื่องยนต์อาจจะรอวันพังด้วยคราบยางเหนียว เพราะเมื่อเจอความร้อนในเครื่องยนต์ หรือที่เอามาเผาดู กลีเซอรีนจะระเหยและคลอรีนจะกลับมาเหนียวหนืด จนอาจไหม้เป็นตะกรันหรือยางเหนียว ทำให้เครื่องยนต์พังได้ อีกทั้งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา ออกแถลงการณ์ระบุว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ต่อการกล่าวอ้างของนายเกริกพล ที่อ้างว่า มีการนำผลิตภัณฑ์มาเข้าห้องแล็บเพื่อทดสอบ และขอให้ยุติคำกล่าวอ้าง ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น
วันนี้ (13 ก.ย.) ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคารบี เมื่อเวลา 15.00 น. นายพิฆเนศ ต๊ะปวง รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้เชิญ นายเกริกพล จงเอื้อมกลาง ผู้จัดการผลิตภัณฑ์แมกซ์ นาโน เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริง หลังมีผู้ร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ว่า ได้ซื้อสารเคลือบรถยนต์มาใช้กับยานพาหนะของตนเอง และเกิดความเสียหายกับเครื่องยนต์ จึงขอให้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ว่า มีคุณสมบัติตรงตามที่โฆษณาหรือไม่
จากนั้น นายพิฆเนศ เปิดเผยว่า สคบ. ได้แถลงข่าวระบุว่า สคบ. ได้รับคำชี้แจงจากนายเกริกพลแล้ว และได้ขอความร่วมมือไปยังสถาบันยานยนต์ ให้ตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ คาดว่า ภายใน 2 สัปดาห์จะได้ข้อสรุป เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า นายเกริกพล ไม่ได้ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมายของ สคบ. เช่น ฉลากของสินค้าไม่ถูกต้อง และการโฆษณาที่อวดอ้างสรรพคุณ โดยเฉพาะสามารถเพิ่มแรงม้าได้สูงถึง 19.5 แรงม้า ประหยัดน้ำมันถึง 18% เพิ่มอัตราเร่ง 14% และลดการสึกหรอ 90 - 98% นั้น ให้ตรวจสอบคุณภาพออกมาก่อนว่า เป็นจริงตามที่โฆษณาหรือไม่ หากไม่ตรงจะดำเนินการตามกฎหมาย เบื้องต้นได้ขอให้หยุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แมกซ์นาโนเป็นการชั่วคราวไว้ก่อน เพื่อพิสูจน์คุณภาพผลิตภัณฑ์
ขณะเดียวกัน นายเกริกพล กล่าวว่า ได้ชี้แจงข้อมูลกับ สคบ. ไปหมดแล้ว และพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง ยินดีรับผิดชอบกับลูกค้าที่ใช้สินค้าแล้วเกิดความเสียหาย หากผลการตรวจสอบพบว่าเสียหายจริง เช่น ถ้าเครื่องยนต์เสียหายอาจเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้ใหม่ แต่ต้องอยู่ในดุลพินิจของตนเอง และช่างผู้ชำนาญงาน หรืออาจดูแลค่าใช้จ่ายซ่อมแซมรถยนต์ให้มีสภาพก่อนเกิดปัญหา นอกจากนี้ นายเกริกพล ยังกล่าวว่า ถ้าซื้อสินค้าไปแล้ว ยังไม่ได้ใช้ และประสงค์จะคืนเงิน พร้อมจะรับซื้อคืน ซึ่งเรื่องนี้ สคบ. ได้บันทึกปากคำไว้แล้ว ถ้าบิดพลิ้วจะถูกดำเนินการ ส่วนการติดฉลากที่อวดอ้างสรรพคุณนั้น ยอมรับว่าตนไม่มีความรู้ อาศัยให้ช่างและลูกค้าทดสอบ ทำการจดบันทึกไว้แล้วนำมาติดข้างกล่อง ไม่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานใดๆ ขณะนี้ได้หยุดการผลิตสินค้า และกำลังติดตั้งเครื่องจักร หลังถูกโจมตีว่ากระบวนการผลิตไม่ได้มาตรฐานเพราะกรอกด้วยมือ
อย่างไรก็ตาม นายเกริกพล ได้ตอบคำถามนักข่าว ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนให้เงิน 1 แสนบาท แก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเพื่อทดสอบผลิตภัณฑ์ ตามที่ได้แถลงในคลิปบนเฟซบุ๊กส่วนตัวก่อนหน้านี้
