บรรยากาศประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
วันนี้ (23 ส.ค.) บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 294 ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางมสักการะพระบรมศพอย่างเนืองแน่น ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
นายไพจิตร ตระกูลพัว อายุ 69 ปีข้าราชการบำนาญ กระทรวงศึกษาธิการ เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพพร้อมครอบครัวจาก อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี เผยว่า มากราบพระบรมศพเป็นครั้งแรก ตนมีโอกาสเคยได้รับเสด็จฯพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างใกล้ชิด และภูมิใจที่ได้เป็นข้าราชการในสมัยรัชกาลที่ ๙ ครั้งที่ประทับใจที่สุดคือมีโอกาสได้จัดพระกระยาหารถวายพระองค์ในนามจังหวัดสิงห์บุรี ในพิธีวางศิลาฤกษ์ที่ อนุสาวรีย์วีระชนค่ายบางระจัน ทั้งนี้ ตนยังได้น้อมนำเอาคำสอนของพระองค์เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงจัดเป็นโครงการให้โรงเรียนในเขตพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบส่งต่อให้นักเรียนนำไปปฏิบัติต่อไป
ส่วน นางสาวธัญดา โล่ห์มงคล อายุ 39 ปี เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพคนเดียว จากจังหวัดนนทบุรี เป็นครั้งที่ 9 แล้ว เผยว่ารู้สึกปลื้มใจที่ประชาชนยังคงหลั่งไหลมาสักการะพระบรมศพอย่างเนืองแน่น ตนก็มาเพราะรู้สึกคิดถึงพระองค์เช่นกัน และเคยรับเสด็จฯในหลวง รัชกาลที่ ๙ อย่างใกล้ชิด โดยครานั้นพระองค์เสด็จฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ วัดพระแก้ว ตนรับเสด็จฯ อยู่แถวหน้า และมีโอกาสได้ทูลเกล้าฯ ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลกับพระหัตถ์ของพระองค์ ทั้งนี้ ในปัจจุบันยังคงยึดคำสอนของพระองค์มาใช้ในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ และได้รับโอกาสทำละครเทิดพระเกียรติเรื่อง “คลื่นแห่งศรัทธา” ถวาย โดยมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการแล่นเรือใบ ซึ่งในขณะถ่ายทำประสบปัญหาลมไม่มี ทำให้เรือไม่แล่น จึงรำลึกถึงคำสอนของพระองค์ที่ว่า “อย่าฝืนธรรมชาติ อย่าฝืนแรงลม ให้รออย่างอดทน” และจากการรออย่างอดทนในครั้งนั้น สักพักก็มีลมพัดมาทำให้สามารถถ่ายทำต่อได้