สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยพสกนิกร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จัดตั้งครัวพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาอุทกภัย จังหวัดสกลนคร สร้างความปลาบปลื้มเป็นล้นพ้นให้แก่พสกนิกรผู้ประสบภัย
จากการที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งครัวพระราชทาน โดยหน่วยพระราชทานและประชาชนจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ ซึ่งข้าราชบริพารจากพระตำหนัก ภูพานราชนิเวศน์ สำนักพระราชวัง ได้มาประกอบอาหารปรุงสดใหม่ เพื่อมอบแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในเขตเทศบาลนครสกลนคร วันละ 2,000 กล่อง ที่มารับในพื้นที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งได้เดินทางไปมอบอาหารและน้ำดื่มพระราชทานแก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัยยังบ้านเรือนที่ไม่สามารถเดินทางมารับและไม่สามารถประกอบอาหารรับประทานเองได้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้แก่ราษฎร ซึ่งได้ดำเนินการแจกอาหารพระราชทานมาตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. เรื่อยมา สร้างความปลาบปลื้มเป็นล้นพ้นให้แก่พสกนิกรผู้ประสบภัย
วันนี้ (31 ก.ค.) ที่บริเวณหน้าอาคารยิมการกีฬาแห่งประเทศไทย บริเวณศูนย์ราชการจังหวัดสกลนคร อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบเลี้ยงอาหารแก่ราษฎรในเขตเทศบาลนครสกลนคร ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย โดยมีข้าราชบริพารหน่วยราชการในพระองค์ จากพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ มาประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชน รวมทั้งน้ำดื่มสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น พระราชทานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
รายงานแจ้งว่าสถานการณ์น้ำท่วมที่ จังหวัดสกลนคร เป็นวันที่ 4 โดยในวันนี้ น้ำในเขตเทศบาลนครสกลนคร บางจุดได้ลดลงบ้าง ยังคงเหลือแต่ในชุมชนหนองสนม และจุดที่ติดกับหนองหาร ซึ่งระดับน้ำยังคงสูงกว่า 1 เมตร รถไม่สามารถผ่านไปได้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือท้องแบนสัญจรไปมาเพื่อส่งข้าวและอาหารแห้ง ให้แก่ราษฎรที่ประสบภัย ขณะเดียวกันในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนน้ำอูนปริมาณกักเก็บที่ 520 ล้านลูกบาศก์เมตร ( ลบ.ม.) ขณะนี้มีน้ำ 640 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 123% เขื่อนน้ำพุงปริมาณกักเก็บ 165 ล้าน ลบ.ม.
ปัจจุบันมีน้ำ 171.790 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 103.81 % ส่วนหนองหาร มีพื้นที่กว่า 78,000 ไร่ ระดับเก็บกัก 266 ล้าน ลบ.ม.ขณะนี้มีน้ำ 413 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 154% มากเป็นประวัติการณ์ ซึ่งปริมาณน้ำมากเช่นนี้ ทำให้ไหลบ่าเข้าเรือกสวนไร่นาและบ้านเรือนราษฎรที่อยู่รอบน้ำหนองหารเป็นบริเวณกว้าง โดยพื้นที่รอบหนองหารประกอบด้วย อำเภอเมือง อำเภอโพนนาแก้ว อำเภอกุสุมาลย์ อำเภอโคกศรีสุพรรณ
ส่วนภาพรวมทั้ง 18 อำเภอ ได้รับความเสียหาย จำนวน 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอโพนนาแก้ว อำเภอกุสุมาลย์ อำเภอโคกศรีสุพรรณ อำเภอเต่างอย อำเภอพรรณานิคม อำเภอพังโคน อำเภออากาศอำนวย อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอคำตากล้า อำเภอวานรนิวาส อำเภอวาริชภูมิ และ อำเภอกุดบาก พื้นที่การเกษตรเสียหาย กว่า 200,000 ไร่ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน กว่า 100,000 คน เส้นทางหลักและรอง เสียหาย กว่า 60 สาย เสียชีวิต 7 ราย โดยยังมีหมู่บ้านที่อยู่ในขั้นวิกฤติหลายแห่งที่มีน้ำล้อมรอบ ระดับน้ำสูง 1-2 เมตร เช่น ที่ ตำบลเชียงสือ อำเภอโพนนาแก้ว 3 หมู่บ้าน ตำบลด่านม่วงคำ อำเภอโคกศรีสุพรรณ 4 หมู่บ้าน ตำบลเหล่าปอแดง ตำบลโคกก่อง อำเภอเมือง 7 หมู่บ้าน ตำบลนาซอ ตำบลขัวก่าย อำเภอวานรนิวาส 8 หมู่บ้าน ตำบลต้นผึ้ง อำเภอพังโคน 5 หมู่บ้าน ตำบลแวง อำเภอสว่างแดนดิน 2 หมู่บ้าน