กฎหมายไม้พะยูงทำวุ่น! ผอ.โรงเรียนร้อยเอ็ดโอด เป็นจำเลยสังคม หลังแจ้งจับชาวบ้าน

ไม้พะยูงต้นเดียวทำวุ่นทั้งโรงเรียนและหมู่บ้าน ผอ.โรงเรียนใน อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด แจ้งความจับกุมชาวบ้านข้อหาค้าไม้พะยูง หลังต้นพะยูงที่อยู่กลางโรงเรียนล้มทับป้าย และรั้วโรงเรียนเสียหาย และมีการนำไปขายเอาเงินมาซ่อมแซม ระบุ ทำตามที่นายอำเภอและปลัดอำเภอแนะนำ กลับกลายเป็นจำเลยสังคม

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 23 ก.ค. แกนนำชาวบ้านและกรรมการหมู่บ้าน บ้านวังเข หมู่ 4 ต.เหล่าน้อย อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว จ.ร้อยเอ็ด ว่า ถูก นายวชิรพงษ์ ค้ำคูณ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวังเข แจ้งความจับกุมผู้ลงนามขายไม้ 4 คน คือ นายเสร็จ พลศิลา ประธานกรรมการหมู่บ้าน, นายเสถียร อาจศัตรู, นายพงษ์ กุสุมาลย์ และ นายเสน่ห์ กุสุมาลย์ กรรมการหมู่บ้าน หลังไม้พะยูงที่ตั้งอยู่กลางโรงเรียนได้ล้มลง เพราะพายุพัดทับป้ายและรั้วโรงเรียนเสียหาย ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. โดยได้ตัดไม้ออกจำนวน 26 ท่อน นำมากองไว้ให้ชาวบ้านจัดเวรยามเฝ้าดูแล ก่อนจะปรึกษาหลายฝ่าย ขอขายไม้ส่วนหนึ่ง มาเป็นรายได้ซ่อมแซมป้ายและรั้วโรงเรียนที่เสียหาย 700,000 บาท แล้วนำรายได้มาเข้ากองกลาง แต่ก็ถูกจับกุมในข้อหาค้าไม้พะยูง พร้อมยึดเงินกองกลางนี้ไป

วันที่ 28 ก.ค. นายวชิรพงษ์ ค้ำคูณ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวังเข อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ชี้แจงกับสื่อมวลชนใน จ.ร้อยเอ็ด ว่า โรงเรียนบ้านวังเข ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยไม่มีการประชุมกรรมการสถานศึกษาเรื่องการขายไม้พะยูง ซึ่งก่อนที่ตนจะไปแจ้งความ มีฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองมาทำหน้าที่แล้ว จึงดำเนินการต่อตามที่ฝ่ายปกครอง คือ นายอำเภอ และปลัดอำเภอเสลภูมิ แนะนำ เรื่องนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน และอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการนำไม้ออกจากพื้นที่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวตนถูกพาดพิงทำให้ได้รับความเสียหาย และตกเป็นจำเลยของสังคม

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ธนารักษ์จังหวัดร้อยเอ็ดอยู่ระหว่างประสานงานให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดร้อยเอ็ด เข้าประทับตรา และตรวจวัดปริมาตรของไม้พะยูงทั้งหมด สาเหตุที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 3 เดือน เพราะเข้าใจผิดและการส่งหนังสือล่าช้า ก่อนจะพิจารณาให้ทางโรงเรียนนำไปใช้ซ่อมแซมหรือทำประโยชน์ ตามที่มีการยื่นเรื่อง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นผู้ลงนามเห็นชอบ ทั้งนี้ กรณีที่ทางโรงเรียนและคณะกรรมการชุมชน มีมติให้นำไม้พะยูงซึ่งโค่นล้มไปประกาศขายนั้น ตามกฎหมายรายได้ทั้งหมดต้องตกเป็นของแผ่นดิน ไม่สามารถนำเงินจากการขายไม้ไปใช้เพื่อทำประโยชน์อื่นๆ ได้ จึงเป็นเหตุให้ชาวบ้าน 4 คน ที่ลงนามถูกแจ้งข้อหาดังกล่าว