บรรยากาศประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
วันนี้ (25 ก.ค.) บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 265 ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
พันจ่าเอก สำรวย - นางสุภาพ นาคลำภา 2 สามีภรรยาข้าราชการบำนาญ ได้เดินทางมาจากบ้านพักย่านพระสมุทรเจดีย์ ตั้งแต่ช่วงสายของวันนี้ ได้กล่าวภายหลังที่กราบสักการะพระบรมศพ ว่า ตนและภรรยาเพิ่งมีโอกาสได้มาสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก และตั้งใจจะมาอีกเรื่อยๆ จนถึงวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เพราะเวลาที่ได้ก้มกราบพระองค์แล้ว รู้สึกขนลุกซู่ ประทับใจซาบซึ้งใจเป็นที่สุด ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ชาวจังหวัดสมุทรปราการ อย่างเป็นล้นพ้น ทรงสร้างโรงเรียนราชประชาสมาสัยฝ่ายมัธยมรัชดาภิเษก ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินการจัดสร้างโรงเรียน ขึ้นเพื่อจัดการศึกษาให้แก่บุตรผู้ป่วยโรคเรื้อนที่ปราศจากเชื้อ และทรงรับเป็นนักเรียนในพระบรมราชานุเคราะห์อยู่ประจำที่โรงเรียน และ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ได้เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ มาทรงประกอบพิธีเปิดโรงเรียน เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2507 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณสูงสุดแก่ลูกหลานชาวสมุทรปราการ
“โดยส่วนตัวในชีวิตนี้ผมเคยมีโอกาสได้ใกล้ชิดในหลวง รัชกาลที่ ๙ ครั้งหนึ่งคือได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ ถึงแม้จะผ่านมานานแล้ว แต่ความประทับใจนี้ผมไม่เคยลืมเลย และทุกวันนี้ผมมีที่ดินอยู่จังหวัดสุพรรณบุรี ผมก็แบ่งพื้นที่นาตามหลักไร่นาสวนผสมตามที่พระองค์ได้พระราชทานเป็นแนวทางไว้ทุกประการ คือ ผมแบ่งที่นาออกเป็น 3 ส่วน ปลูกผัก ขุดคลองเลี้ยงปลา และทำเล้าเลี้ยงไก่ หรือแม้แต่ริมรั้วก็จะปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ไว้กินกันในบ้าน ที่เหลือจากกินในบ้านก็จะแบ่งให้เพื่อนบ้านได้ใช้ด้วย” พันจ่าเอก สำรวย นาคลำภา เล่าด้วยความภูมิใจ
ด้าน นางนภัสสรณ์ มาโนเชนี นักธุรกิจชาวหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเพื่อนๆ รวม 5 คนเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก เล่าถึงความทรงจำเมื่อครั้งเคยเฝ้ารับเสด็จฯ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ว่า ในโอกาสที่อาศัยและทำธุรกิจอยู่ที่หัวหิน อยู่ใกล้กับวังไกลกังวล พระราชฐานของพระองค์ท่านจึงมีโอกาสเฝ้ารับเสด็จฯบ่อยครั้ง ครั้งสุดท้ายคือ เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จฯ ออกมหาสมาคม ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาวันที่ 5 ธ.ค. 2556 ทุกครั้งที่มาเฝ้ารับเสด็จฯ ก็รีบมาจับจองพื้นที่ตั้งแต่ 04.00 น. ก่อนได้เฝ้ารับเสด็จฯ ในเวลา 11.00 น. แม้เป็นเวลานานนับชั่วโมง แต่รู้สึกปลื้มปีติจนน้ำตาไหลทุกครั้งที่ได้เห็นพระองค์ท่าน ทุกวันนี้ผ่านถนนบริเวณหน้าวังครั้งใดยังร้องไห้ เพราะคิดถึงวันเวลาเหล่านั้น
“ในฐานะคนไทยที่เกิดมาในแผ่นดินของในหลวง รัชกาลที่ ๙ รู้สึกปลาบปลื้มมากที่วันนี้ได้มากราบพระบรมศพพระองค์ท่าน ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ที่ได้นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันด้วยการประหยัด มัธยัสถ์ รู้จักพอประมาณ ที่สำคัญ ต้องรู้จักทำคุณให้แผ่นดินโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน นอกจากนี้ ยังมีโอกาสไปเยี่ยมชมโครงการชั่งหัวมัน อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ศึกษาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากมาย ประทับใจมากที่แม้ทรงเป็นถึงพระมหากษัตริย์แต่ยังคงใส่พระราชหฤทัยในด้านเกษตรกรรมและปศุสัตว์ ส่งเสริมอาชีพให้กับคนไทย” นางนภัสสรณ์ มาโนเชนี กล่าว