บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันนี้ (24 ก.ค.) ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 264 ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
นางรุ่งนภา สายวิชัย ครูการงานอาชีพ โรงเรียนหนองโพธิ์วิทยาคม อ.นาเชื่อ จ.มหาสารคาม เป็นตัวแทนคณะครูและนักเรียน กล่าวว่า วันนี้คุณครูและนักเรียนชั้น ม1-ม.6 รวมกว่า 300 คน ตั้งใจมากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก จากนั้นจะทัศนศึกษาต่อ โดยออกเดินทางตั้งแต่เวลา 21.30 น. มาถึงพระบรมมหาราชวังเวลา 05.00 น.และได้เข้ากราบพระบรมศพในเวลา 08.30 น. ทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวง ร.9 ทรงงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนและบ้านเมืองตลอดเวลา 70 ปีที่ทรงครองราชย์ โดยโรงเรียนได้น้อมนำคำสอนต่าง ๆ ของพระองค์มาประยุกค์ใช้ในหลักสูตรการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี
"เราปลูกฝังให้เด็ก ๆ รักชาติ รักในหลวง ร.9 พร้อมกับน้อมแนวพระราชดำริหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาถ่ายทอดสู่นักเรียนให้สามารถปฏิบัติได้จริง อาทิ การปลูกผักสวนครัวเพื่อลดการซื้อหา แล้วนำมาทำอาหารกลางวัน ส่วนที่เหลือก็ขายให้ชาวบ้านนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในโรงเรียน นอกจากนี้ยังมีการปลูกไม้ดอกเศรษฐกิจอย่างดาวเรือง สอดคล้องกับแนวคิดลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ นำดอกไม้ทึ่ได้มาใช้ประโยชน์ โดยทุกวันพระจะสอนให้เด็กร้อยมาลัยดาวเรืองแล้วนำไปขายสร้างรายได้ รวมถึงการตั้งธนาคารโรงเรียนตามคำสอนในหลวงร.9 ให้นักเรียนแบ่งเงินมาออม ฝึกนิสัยการออมเพื่ออนาคต" ครูการงานอาชีพ เผย
ด้านนายนครินทร์ วงบำหลาบ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 กล่าวภายหลังจากได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพครั้งแรกในชีวิตว่า ตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี ยิ่งได้เห็นผู้คนมากันอย่างมากมายยิ่งปลื้มใจ แม้จะเกิดไม่ทันช่วงที่พระองค์เสด็จ ฯ ไปทุกแห่งหน แต่รับรู้ได้จากคำบอกเล่า รวมถึงได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับโครงการหลวงต่าง ๆ โดยเฉพาะเกษตรทฤษฎีใหม่ มีประโยชน์กับเกษตรกรมาก ที่บ้านมีอาชีพทำนา พ่อแม่ก็นำแนวคิดนี้มาใช้ในลักษณะไร่นาสวนผสม แบ่งพื้นที่ปลูกพืชหลายชนิด ทั้งมันสำปะหลัง ข้าว อ้อย และขุดบ่อเลี้ยงปลา ทำให้ได้ผลผลิตดีและมีความหลากหลาย รู้สึกศรัทธาในพระองค์ท่านมาก ทรงเป็นผู้นำทางความคิดที่หาใครเทียบยาก
นางรุ่งนภา สายวิชัย ครูการงานอาชีพ โรงเรียนหนองโพธิ์วิทยาคม อ.นาเชื่อ จ.มหาสารคาม เป็นตัวแทนคณะครูและนักเรียน กล่าวว่า วันนี้คุณครูและนักเรียนชั้น ม1-ม.6 รวมกว่า 300 คน ตั้งใจมากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก จากนั้นจะทัศนศึกษาต่อ โดยออกเดินทางตั้งแต่เวลา 21.30 น. มาถึงพระบรมมหาราชวังเวลา 05.00 น.และได้เข้ากราบพระบรมศพในเวลา 08.30 น. ทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวง ร.9 ทรงงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนและบ้านเมืองตลอดเวลา 70 ปีที่ทรงครองราชย์ โดยโรงเรียนได้น้อมนำคำสอนต่าง ๆ ของพระองค์มาประยุกค์ใช้ในหลักสูตรการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี
"เราปลูกฝังให้เด็ก ๆ รักชาติ รักในหลวง ร.9 พร้อมกับน้อมแนวพระราชดำริหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาถ่ายทอดสู่นักเรียนให้สามารถปฏิบัติได้จริง อาทิ การปลูกผักสวนครัวเพื่อลดการซื้อหา แล้วนำมาทำอาหารกลางวัน ส่วนที่เหลือก็ขายให้ชาวบ้านนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในโรงเรียน นอกจากนี้ยังมีการปลูกไม้ดอกเศรษฐกิจอย่างดาวเรือง สอดคล้องกับแนวคิดลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ นำดอกไม้ทึ่ได้มาใช้ประโยชน์ โดยทุกวันพระจะสอนให้เด็กร้อยมาลัยดาวเรืองแล้วนำไปขายสร้างรายได้ รวมถึงการตั้งธนาคารโรงเรียนตามคำสอนในหลวงร.9 ให้นักเรียนแบ่งเงินมาออม ฝึกนิสัยการออมเพื่ออนาคต" ครูการงานอาชีพ เผย
ด้านนายนครินทร์ วงบำหลาบ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 กล่าวภายหลังจากได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพครั้งแรกในชีวิตว่า ตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี ยิ่งได้เห็นผู้คนมากันอย่างมากมายยิ่งปลื้มใจ แม้จะเกิดไม่ทันช่วงที่พระองค์เสด็จ ฯ ไปทุกแห่งหน แต่รับรู้ได้จากคำบอกเล่า รวมถึงได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับโครงการหลวงต่าง ๆ โดยเฉพาะเกษตรทฤษฎีใหม่ มีประโยชน์กับเกษตรกรมาก ที่บ้านมีอาชีพทำนา พ่อแม่ก็นำแนวคิดนี้มาใช้ในลักษณะไร่นาสวนผสม แบ่งพื้นที่ปลูกพืชหลายชนิด ทั้งมันสำปะหลัง ข้าว อ้อย และขุดบ่อเลี้ยงปลา ทำให้ได้ผลผลิตดีและมีความหลากหลาย รู้สึกศรัทธาในพระองค์ท่านมาก ทรงเป็นผู้นำทางความคิดที่หาใครเทียบยาก