สมุทรสาคร - คดีสองแม่ลูกถูกรถกระบะชนแล้วหนี พบรถที่ก่อเหตุแล้ว จอดอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 1.5 กิโลเมตร ส่วนคนขับยังลอยนวล สุดแสบถอดป้ายทะเบียนออก พอค้นเจอซุกใต้เบาะที่นั่งคนขับ ตรวจสอบเป็นทะเบียนพิจิตร หนำซ้ำ ทะเบียนขาด-พ.ร.บ.ขาด ด้านครอบครัวผู้เสียชีวิต จี้มาขอขมาศพก่อน ที่เหลือว่าไปตามกฎหมาย
จากกรณีที่ในโซเชียลมีเดียเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ที่รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ ตอนเดียว สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เสียหลักข้ามเลนพุ่งชนรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าสกูปปี้ไอ สีขาวหมายเลขทะเบียน ขกท 753 สมุทรสาคร ซึ่งมี นางอมรรัตน์ แฟ้มคลองขอม อายุ 37 ปี เป็นผู้ขับขี่ และ นางสุภาพ จันทร อายุ 54 ปี ซ้อนท้าย บริเวณถนนเอกชัย หน้าร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ชนันชัยมอเตอร์ ตรงข้ามธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เมื่อเวลา 01.40 น. ของวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสมุทรสาครในตอนเช้า ส่วนรถกระบะคันดังกล่าวได้ถอยหลังก่อนจะหลบหนีเข้าไปในเอกชัย ซอย 7 หรือซอยโชคอรุณ หลบหนีไป
อ่านประกอบ : ชนแล้วหนีที่มหาชัย! “ดีแมคซ์สีขาว” พุ่งชนสองแม่ลูกเสียชีวิต หนำซ้ำคดีไม่คืบหน้า
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (9 ก.ค.) แหล่งข่าวจากญาติผู้เสียชีวิตรายหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ MGR Online ระบุว่า จากการติดตามรถกระบะที่ก่อเหตุชนสองแม่ลูกเสียชีวิต พบรถต้องสงสัยว่าจะก่อเหตุ บริเวณซอยประกันสังคม (เก่า) หรือซอยเสรี (เอกชัย ซอย 2) ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1.5 กิโลเมตร เป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุดีแม็กซ์ สีขาว ตอนเดียว มีร่องรอยการชน โดยได้ถอดแผ่นป้ายทะเบียนออก ส่วนคนขับรถหลบหนีไป แต่เมื่อตรวจค้นภายในรถ พบแผ่นป้ายทะเบียน บน 6669 พิจิตร ซุกซ่อนอยู่ใต้ที่นั่งคนขับ และจากการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนรถ พบว่าสภาพรถไม่เป็นไปอย่างถูกต้อง อาทิ ทะเบียนขาด, พ.ร.บ. ขาด, ไม่มีประกันภัยรถยนต์ เบื้องต้นตำรวจได้ทำการอายัดรถที่ใช้ก่อเหตุมาไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร และจะเรียกเจ้าของรถมาสอบปากคำ เพื่อติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ครอบครัวของนางสุภาพ และนางอมรรัตน์ สองแม่ลูก เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องสูญเสียคนที่รักถึงสองคน และผู้ก่อเหตุไม่ยอมรับผิดในสิ่งที่ทำ เบื้องต้นต้องการให้ผู้กระทำผิด มากราบขอขมาศพ ก่อนที่จะทำการฌาปณกิจในวันที่ 11 ก.ค. ที่วัดแหลมสุวรรณาราม ต.ท่าฉลอม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ส่วนที่เหลือขอให้ว่ากันไปตามกฎหมาย