บรรยากาศประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
วันนี้ (8 ก.ค.) บรรยากาศการถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 248 ประชาชนจากทั่วสารทิศต่างร้อยใจพากันมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยเมื่อเวลา 08.30 น. นางสุวิสา สุวรรณลอย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักพัฒนาธุรกิจ ผู้บริหาร บมจ.อสมท นำคณะสาวงามผู้เข้าประกวด “มิสทัวริสซึ่ม ควีน ไทยแลนด์ 2017” จำนวน 25 คน พร้อมผู้บริหาร บมจ.อสมท เข้าถวายบังคมพระบรมศพ
ด้าน น.ส.วิชิดา น่วมสอน อายุ 18 ปี สาวงามหมายเลข 19 ประธานนักเรียน โรงเรียนบางบัวทอง จ.นนทบุรี กล่าวด้วยความรู้สึกตื้นตัน ว่า ถ้าพูดถึงในหลวง รัชกาล ๙ ก็คิดถึงคำว่า “พ่อ” เมื่อลืมตาขึ้นมาดูโลกก็เห็นพระองค์ท่านแล้ว ตลอด 70 ปีแห่งการครองราชย์ พระองค์ไม่เคยทำให้คนไทยรู้สึกกว่าอยู่ไกล ทว่าทรงอยู่ใกล้กับประชาชน ทรงเป็นต้นแบบหลายด้าน โดยเฉพาะถ้าพูดถึง “ความดี” จะนึกถึงในหลวงรัชกาล ๙ เป็นคนแรก ตลอดจนเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทุกคน “โครงการพระราชดำริต่างๆ กว่า 4,000 โครงการเพื่อพัฒนาประเทศไทยนั้น ส่วนตัวประทับใจโครงการฝนหลวงที่สุด ด้วยความที่เป็นคนต่างจังหวัด พ่อแม่ทำนาหาเลี้ยงชีพ ต้องอาศัยน้ำในการทำการเพาะปลูก หากจะคิดว่าปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำเป็นเพราะกฎเกณฑ์ตามธรรมชาติก็ได้ แต่พระองค์ยังใส่พระราชหฤทัยคิดค้นโครงการฝนหลวงให้คนไทย ได้มีน้ำกินน้ำใช้ พลิกฟื้นความแห้งแล้งให้ชุ่มชื้น นอกจากนี้ระหว่างการทำกิจกรรมเก็บตัว ที่เกาะช้าง จ.ตราด เมื่อเร็วๆ นี้ ยังทำให้ตัวเองได้ศึกษาโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของเรือนจำเขาระกำ ซึ่งสอนนักโทษได้รู้จักการทำปุ๋ย เลี้ยงหมูเลี้ยงไก่ ปลูกผักปลอดสารพิษ เพื่อประกอบอาชีพสุจริตหลังจากพ้นโทษ รู้สึกซาบซึ้งและประทับใจมาก จนเกิดแรงบันดาลใจอยากเป็นนักพูดสร้างกำลังใจให้กับผู้ต้องขังและผู้ท้อแท้ มีพลังกลับมาทำสิ่งดีๆ ตอบแทนแผ่นดินต่อไป” ผู้สมัครหมายเลข 19 กล่าว
ด้าน น.ส.สิริกร บุญธรรม อายุ 40 ปี ช่างเสริมสวยจากจังหวัดพิษณุโลก ชวนเพื่อนร่วมงานอีกสองคนได้แก่ นางนงเยาว์ ไชยโย อายุ 41 ปี และ น.ส.ฤทัยรัตน์ บรรทะโก อายุ 32 ปี นั่งรถไฟจากบ้านเกิดตั้งแต่เวลา 4 ทุ่ม เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก กล่าวว่า ตั้งใจมากราบพระบรมศพวันนี้เนื่องจากเป็นวันหยุดและยังเป็นวันอาสาฬหบูชา จึงถือโอกาสมากราบพระบรมศพและไหว้สักการะพระแก้วมรกต เพื่อความเป็นสิริมงคลชีวิต “ตัวเองแล้วถ้าพูดถึงในหลวงรัชกาล ๙ จะคิดถึงพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการที่พระองค์ทรงช่วยเหลือคนไทยทั่วทุกพื้นที่ ในหลวงรัชกาล ๙ ทรงมีพระอัจฉริยภาพ หรือพูดตามภาษาชาวบ้านคือเป็นคนเก่งมาก ทรงคิดค้นโครงการพระราชดำริที่น่าทึ่งหลายโครงการ ในหลวงรัชกาล ๙ เคยเสด็จฯ เยี่ยมเยียนชาวพิษณุโลกถึง 16 ครั้ง แม้ตัวเองจะไม่เคยเห็นพระองค์จริงๆ สักครั้งเดียว แต่ได้อาศัยประโยชน์จากการสร้างเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เกษตรมีน้ำทำการเกษตร ประชาชนมีน้ำใช้อุปโภคบริโภค และยังเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวมาพักผ่อนหย่อนใจ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ตัวเองจึงตั้งปณิธานจะประกอบสัมมาอาชีพโดยสุจริต พูดดีคิดดีทำดี เป็นการตอบแทนคุณงามความดีของพระองค์” ช่างเสริมสวยชาวพิษณุโลก กล่าว