ประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
วันนี้ (30 มิ.ย.) บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 240 ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง
ด้าน น.ส.สิวาลัย ศรีโปดก อายุ 18 ปี และ น.ส.พิญญากร ยาวาปี อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนประชามงคล อ.หนองบึง จ.กาญจนบุรี เดินทางมาพร้อมคณะครูและเพื่อนๆ รวม 160 คน เล่าว่า นัดแนะและออกจากโรงเรียนเวลา 03.00 น. มาถึงบริเวณท้องสนามหลวงเพื่อเข้าแถวรอเข้ากราบพระบรมศพเวลา 07.00 น. รอไม่นานก็ได้เข้ากราบพระบรมศพ รู้สึกดีใจและปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูกที่มีโอกาสมาในวันนี้ ในหลวงรัชกาล ๙ ทรงงานอย่างหนักเพื่อคนไทย ทรงคิดค้นโครงการต่างๆ หวังพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนอยู่ตลอดเวลา รวมถึงโรงเรียนประชามลคงก็เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริที่มุ่งถ่ายทอดองค์ความรู้ศาสตร์พระราชาควบคู่กับวิชาการ “โรงเรียนของเราดำเนินตามรอยในหลวงรัชกาล ๙ โดยเฉพาะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สอนนักเรียนให้รู้จักใช้ชีวิตอย่างพอเพียง มีหอพักสำหรับเด็กที่มาจากต่างถิ่น เปิดโอกาสให้เด็กชาวเขา กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ มาเรียนด้วย หรือที่เรียกว่าโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ซึ่งโรงเรียนแบบนี้มีทั้ง 4 ภาค กาญจนบุรี ก็เป็นหนึ่งในนั้น สอนให้เด็กเดินตามศาสตร์พระราชา พวกเราได้เรียนรู้การใช้ชีวิต โดยเฉพาะเด็กจากต่างถิ่นจะมีหอพักให้ ตื่นเช้ามาก่อนเข้าห้องเรียนต้องช่วยกันทำความสะอาดโรงเรียน รดน้ำแปลงเกษตรพอเพียง ปลูกฝรั่ง มะกรูด ผักสวนครัว เป็นต้น ผลผลิตนำไปขายให้แม่ครั้งเพื่อทำอาหารกลางวัน ทุกสิ่งที่ในหลวงสอนสั่งสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้ และการที่เด็กๆ มาจากต่างถิ่นก็ทำให้เกิดการเรียนรู้กัน ฝึกการปรับตัว มีน้ำใจ เสียสละ และสามัคคี ทำให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ” พิญญากร กล่าวด้วยความซาบซึ้ง
พล.ต.อำพัน ไทยแท้ อุปนายกสมาคมกีฬาคนพิการทางปัญญาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ท่านทรงเป็นแบบอย่างที่ดี ซึ่งทางสมาคมเองก็ได้น้อมนำเรื่องทรงแข่งเรือใบด้วยความวิริยะ อุตสาหะ มาให้นักกีฬาคนพิการได้เห็นว่า ถึงแม้พระองค์ท่านเป็นถึงพระมหากษัตริย์ก็ยังต้องมีความวิริยะ อุตสาหะ และอดทน จึงจะประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและเป็นกำลังใจแก่นักกีฬาคนพิการในการฝึกซ้อมและการดำเนินชีวิต “ผมเกิดมาก็เห็นในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงทุ่มเทการทรงงานทุกอย่างเพื่อปวงชนชาวไทยและประเทศชาติ ท่านเสด็จฯไปช่วยเหลือราษฎรในถิ่นทุรกันดาร ภาพตรงนี้ผมรู้สึกประทับใจมาก เมื่อท่านเสด็จสวรรคตแล้วก็รู้สึกใจหาย ผมก็ตั้งใจไว้ว่าสิ่งใดที่จะทำตอบแทนพระองค์ท่านได้ ก็จะทำถวายพระองค์ และจะทำตามคำสอนของพระองค์โดยเฉพาะหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการใช้จ่ายเงินเดือนอย่างประหยัด และรู้จักเก็บออม สิ่งใดที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อ และตั้งใจไว้ว่าหลังจากนี้จะพาลูกและครอบครัวมากราบพระองค์ท่านอีกครั้ง” พล.ต.อำพัน กล่าว
สำหรับยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ให้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 21.00 น.ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 25,770 คน รวม 240 วัน มี 8,039,037 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 1,801,157.50 บาท รวม 240 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 625,163,303.76 บาท