ประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
วันนี้ (28 มิ.ย.) บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 238 ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง
ด้าน นางอินคำ อดทน อายุ 47 ปี ชาว ต.ยอด อ.สองแคว จ.น่าน ปัจจุบันมาประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปที่ จ.นนทบุรี กล่าวว่า ตนเพิ่งจะมีโอกาสเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙ เป็นครั้งแรก โดยวันนี้เดินทางมาพร้อมกับลูกสาวและเพื่อนบ้าน รู้สึกตื้นตันใจมากที่เห็นพระองค์ท่านเสด็จฯปฏิบัติพระราชกรณียกิจ รู้สึกปลื้มปีติคิดว่าพระองค์ท่านไม่เคยทอดทิ้งประชาชน พระองค์ทรงสร้างคุณประโยชน์ให้กับประชาชนคนไทยอย่างมากมาย ทำให้คนไทยมีความสงบสุข ท่านสอนให้คนไทยรักสามัคคีปองดองกันและอยู่อย่างพอเพียง ซึ่งตนก็ได้นำคำสอนนี้มาใช้ เพราะหากเราอยู่อย่างพอเพียง และไม่สร้างหนี้สินเกินตัวก็มีความสุขได้
ขณะที่ นายดี หวังแววกลาง อายุ 58 ปี อดีต อบต.3 สมัย ต.หนองหว้า อ.เขาชะกัน จ.สระแก้ว กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙ ด้วยความตั้งใจ ในฐานะเป็นพสกนิกรของพระองค์ ได้มากราบพระบรมศพพระองค์ก็ถือว่าเกิดมาชาติหนึ่งคุ้มแล้ว “พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยึดมั่นในทศพิธราชธรรม ที่ปกครองแผ่นดินโดยธรรม จึงสามารถครองราชย์ได้ยาวนานถึง 70 ปี ซึ่งไม่มีพระมหากษัตริย์ประเทศใดทำได้ ท่านทรงดูแลใส่ใจทุกสุขของประชาชน ซึ่งในช่วงที่ผมเป็นอบต. ก็ได้มีโอกาสเข้าอบรมเกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ และนำคำสอนนี้มาใช้ในครอบครัวซึ่งเกิดประโยชน์มาก แต่ต้องใช้เวลาและต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงได้นำความรู้นี้ไปเผยแพร่ชาวบ้าน โดยเฉพาะการทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ก่อนนี้มีคนสนใจน้อย แต่ขณะนี้หันมาใช้กันมากเพราะได้ผลดีจริง” นายดี กล่าว