พสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาร่วมถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต่อเนื่องเป็นวันที่ 225 ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
วันนี้ (15 มิ.ย) บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 225 ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง
ด้าน นางโพ๊ะ ศิริสุข อายุ 57 ปี อาชีพปลูกอ้อย และทำนา พสกนิกรจาก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เดินทางมาเยี่ยมลูกชายที่กรุงเทพฯ โดยบอกลูกชายว่าอยากมากราบสักการะพระบรมศพ แม้ว่าตนจะเคยมากราบในหลวง ร.๙ แล้ว เมื่อปลายที่ผ่านมา แต่ก็อยากมากราบพระองค์อีกหลายๆ ครั้ง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ในหลวงทรงประกอบราชกรณียกิจนานัปการตลอดพระชนม์ชีพ พระองค์สอนผ่านพระราชกรณียกิจให้เราทุกคนเป็นคนดี รู้จักความอดทด และมีความพอเพียง “จำได้ว่าครั้งแรกที่ได้มากราบพระองค์มาถึงสนามหลวงตั้งแต่ตี 4 มองไปทางไหนก็มืดไปหมด ประชาชนต่างสวมชุดดำมาเป็นจำนวนมาก ได้กราบพระบรมศพประมาณ 6 โมงเย็น แม้ว่าจะเป็นการรอคอยที่ยาวนานแต่ก็เป็นความปลาบปลื้มใจอย่างมาก เพราะได้เห็นประชาชนจากทั่วทุกสารทิศมาแสดงความรักที่มีต่อพระองค์ท่าน ครั้งนี้ก็เป็นความรู้สึกที่ตื้นตันไม่ต่างกัน ส่วนตัวได้เก็บภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ รวมทั้งปฏิทิน หนังสือพิมพ์ไว้เป็นสิ่งเตือนใจและระลึกถึงพระองค์ท่าน เวลาเราท้อแท้ก็ทำให้เรามีกำลังใจในการดำเนินชีวิต” นางโพ๊ะ กล่าวด้วยความตื้นตัน
ด้าน นายภัทรพล กุลถาวรจรัส อายุ 55 ปี ชาวลำพูนที่มาตั้งรกรากและประกอบอาชีพค้าขายในกรุงเทพฯ กับภรรยา นางดวงพร กุลถาวรจรัส อายุ 56 ปี กล่าวหลังจากได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพว่า เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสมากราบพระบรมศพ เคยดูข่าวแต่ในโทรทัศน์ รู้สึกตื่นเต้นมาก ตื่นแต่เช้ามาถึงสนามหลวง 7 โมงเช้า รอไม่นานก็ได้เข้ากราบ บรรยากาศภายในพระที่นั่งดุสิตฯ เงียบสงบชวนขนลุก ได้ตั้งจิตอธิษฐานขอให้พระองค์คุ้มครองคนไทย คุ้มครองครอบครัวของเราให้มีแต่ความสุข “เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาให้ได้ เราเป็นลูกคนหนึ่งของพ่อ จริงๆ อยากมาแต่แรกแต่คนยังเยอะอยู่ วันนี้ปลื้มใจมาก ในฐานะคนทำมาหากินก็พยายามเดินตามคำสอนของท่าน โดยเฉพาะเรื่องความเป็นอยู่แบบพอเพียง รู้จักประมาณตัวเอง อย่างเราค้าขายก็ต้องขยัน ขณะเดียวกัน ก็รู้ตัวว่าทำแค่ไหนถึงพอดี เห็นคนอื่นขายของหามรุ่งหามค่ำ ก็ไม่ต้องตามเขา ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น รู้จักพอก็มีความสุข สำคัญว่าไม่เบียดเบียนใคร ไม่เอาเปรียบใคร ไม่อยากได้ของคนอื่น ถ้าเอาแต่ตามเขาก็เหนื่อยเปล่าเพราะกำลังเราไม่ถึง ตอนนี้เตรียมตัวเตรียมใจใกล้ถึงวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ ว่าจะรับพ่อจากลำพูนมาถวายพระเพลิงด้วย เพราะท่านอยากมาร่วมงานนานแล้ว” นายภัทรพล กล่าว