“มายเมทเนต” อัดคลิปแจงทุกดรามา ย้ำแมงป่องไม่มีพิษ แมวเปิดประตูเอาแมงป่องมาเล่นเอง แต่ที่ปล่อยเพื่อให้เรียนรู้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรเล่น โต้คนวิจารณ์ยันทำดีให้ประเทศไทยมากมาย พร้อมโชว์หลักฐานเป็นคลิปโปรโมตการท่องเที่ยวไทยไปทั่วโลกโดยใช้ทุนส่วนตัว - สอนวิทยาศาสตร์ - สอนศัพท์ภาษาอังกฤษ - สอนดนตรีเด็กยากจน - ช่วยโฆษณาให้ผู้ประกอบการขนาดเล็ก โดยไม่ได้ตังค์ ลั่นจะอยู่ไทยต่อ เพราะไม่ใช่คนหนีปัญหา น้อมรับคำวิจารณ์เพื่อปรับปรุง และเดินหน้าต่อ
จากกรณีที่ยูทูปเบอร์ชาวต่างชาติชื่อดัง มายเมทเนต (My Mate Nate) ที่แพร่คลิปขณะแมวเขี่ยแมงป่องเล่น และถูกแมงป่องหนีบเข้าที่บริเวณใบหน้า โดยโลกออนไลน์วิจารณ์กันอย่างรุนแรงว่าเป็นการทรมานสัตว์ จนถึงขั้นที่กลุ่มคนรักสัตว์เข้าแจ้งความ
โดยก่อนหน้านี้ มายเมทเนต ตกเป็นข่าวอยู่หลายครั้งถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การเผยแพร่คลิปในเชิงเยาะเย้ย ขณะที่สัมภาษ์เด็กไทยด้วยภาษาอังกฤษ แต่เด็กไม่สามารถตอบได้ถูกต้อง หรือไม่ว่าจะเป็นการซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อด้วยเหรียญสตางค์จำนวนมาก จนพนักงานต้องยืนนับเป็นเวลานาน หรือนำแมวมาผูกกับลูกโป่งสวรรค์ เพื่อทดสอบว่าต้องใช้กี่ลูกแมวถึงจะลอยขึ้นได้
ล่าสุด วานนี้ (10 มิ.ย.) มายเมทเนต ได้อัดคลิปเพื่อชี้แจงถึงดรามาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดย มายเมทเนต ได้กล่าวว่า กรุณาดูให้จบก่อนวิจารณ์ จากกรณีดรามามีคนพยายามดึงพ่อแม่, มูลนิธิที่ตนไปรับแมวมาเลี้ยง และศาสนาที่ตนนับถือ มาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย ซึ่งมันไม่เกี่ยว ถ้ามีปัญหาอยู่ที่ตนคนเดียว
เรื่องแรกแมวกับแมงป่อง ตอนนี้แมวสุขภาพดี ไม่มีบาดแผล ไม่มีเลือดออก แค่โดนบีบปากนิดเดียว ตนเลี้ยงแมวดีมาก มีข้าวมีอาหาร แล้วมีแมงป่องในบ้านได้ยังไง ตนไปซื้อมาเพื่อจะถ่ายคลิปวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับแมงป่อง โดยซื้อแบบกินได้ ที่ถูกถอดเข็มที่เอาไว้ต่อยออกแล้ว พอเข้ามาถึงบ้านเห็นแมวอยู่กับแมงป่องแล้ว คือ แมวมันเปิดประตูได้ (มายเมทเนตได้เปิดคลิปให้ดูว่าแมวสามารถเปิดประตูซึ่งเป็นบานเลื่อนได้จริง) โดยตนก็เพิ่งรู้ว่ามันเปิดประตูได้หลังเกิดเหตุแมวเข้าไปเอาแมงป่องมาเล่น แต่จากนั้นใส่ล็อกแล้ว พอตนเข้ามาบ้านเห็นเป็นเรื่องแปลก ตลก ก็เลยหยิบกล้องมาถ่าย ตนเทียบกับการที่พ่อแม่เลี้ยงลูก ถ้าปกป้องทุกอย่างลูกจะไม่ได้เรียนรู้ ตนรู้ว่าแมงป่องไม่มีพิษ เลยเป็นโอกาสให้แมวได้เรียนรู้ว่าไม่ควรเล่นกับแมงป่อง ไม่มีเจตนาให้แมวบาดเจ็บ
อีกเรื่องคนบอกว่าตนโยนแมวจากที่สูง คลิปนั้นตนยกแมวสูงแค่อก แล้วปล่อยแมวซึ่งข้างล่างมีหมอนรองอยู่ เพื่อต้องการสอนวิทยาศาสตร์ว่าแมวจัดร่างกายยังไงให้ลงพื้นอย่างปลอดภัยตลอด แมวสบายดี ตนรักแมว แมวพวกนี้ถูกทิ้ง ตนไปรับมาเลี้ยง แล้วยังได้บริจาคให้มูลนิธิช่วยแมวและสัตว์อื่นด้วย
เรื่องที่สอง เป็นดรามาในอดีต เรื่องภาษาอังกฤษของเด็กไทย มีคนบอกว่าตนไม่เรียนรู้ ไม่จริง เพราะหลังจากนั้นตนเปลี่ยนทุกอย่างในช่อง ออกไปถ่ายในที่สาธารณะไม่เกิน 1 - 2 ครั้งเอง จะแกล้งกันกับเพื่อนในบ้านเท่านั้น แล้วตนก็ออกคำศัพท์ภาษาอังกฤษมาแทรกในหลายคลิป ตนเรียนรู้ ปรับปรุงและเดินหน้าต่อไป ดรามาแมวครั้งนี้ด้วย ก็จะเรียนรู้และปรับปรุงและเดินหน้าต่อไป
เรื่องที่สาม อยู่ในไทยได้ยังไง ตนทำงานบริษัทในไทย มีเวิร์กเพอร์มิต มีวีซ่า และเสียภาษี 2 ประเทศทั้งไทยและประเทศบ้านเกิด ถูกต้องตามกฎมาย คนที่ไปแจ้งความ ตนพร้อมแสดงความรับผิดชอบ
ทีนี้มาดูว่าคนที่ไปแจ้งความตน พูดว่าอะไรบ้าง บอกให้หยุดแกล้งแมว เรื่องนี้ตนจะหยุด จะไม่มีคลิปแบบนี้อีกแล้ว ส่วนที่บอกว่าคนที่ติดตามตนเป็นเด็ก เยาวชน มายเมทเนต ได้เปิดหลักฐานข้อมูลว่าคนที่ติดตาม มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ เป็นคนอายุมากกว่า 18 ปี
มีบอกว่า ตนไม่เคยทำคลิปดีๆ ออกมาเลย อันนี้เป็นการโกหก (มายเมทเนต ได้เปิดหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอประกอบคำพูดในทุกเรื่องที่ชี้แจง) ตนใช้ช่องตัวเอง ทุนส่วนตัว โปรโมตการท่องเที่ยวไทยออกไปทั่วโลก เพื่อให้คนมาเที่ยวไทย บางคลิปถูกออกในช่องใหญ่ระดับโลก หลายช่องใช้มุมที่ตนถ่ายเอง เพื่อโปรโมตประเทศไทย หลายคลิปตนก็สอนวิทยาศาสตร์ แล้วยังช่วยบริษัทเยอะมากในไทยที่มาติดต่อให้ช่วยโปรโมต แต่เขาไม่มีตังค์ เราก็ไปถึงที่เองช่วยโปรโมตโดยไม่ได้เงิน อีกทั้งได้ไปช่วยเด็กที่พ่อแม่ไม่มีเงินได้เล่นดนตรี บอกว่า ตนไม่เป็นตัวอย่างที่ดี ตนไม่กินเหล้าเลย ไม่สุบบุหรี่ ไม่เสพยาบ้า แล้วยังเตือนเด็ก ผู้ใหญ่ เรื่องความอันตรายในโลกออนไลน์ ทุกครั้งที่เจอแฟนคลับ ตนพูดสร้างแรงบันดาลใจตลอด ไม่เคยเยาะเย้ยใคร ต้องการให้ทุกคนก้าวหน้าต่อไป
คนที่ไล่ตนออกนอกประเทศให้กลับบ้านไป ถ้าตนกลับเท่ากับหนีปัญหา จะเป็นตัวอย่างที่ดีได้ยังไง ผู้ติดตามจะเรียนรู้อะไร มีปัญหาก็หนี ตนหนีไม่ได้ ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนที่บอกว่าไม่ต้องทำคลิปแล้ว ถ้าเลิกทำก็เป็นการที่เจอปัญหาแล้วยอมแพ้ ยอมแพ้ไม่ได้ เราต้องก้าวหน้าต่อไป
มายเมทเนต กล่าวทิ้งท้ายว่า คนที่มาต่อต้านตน พยายามทำให้ชีวิตตนพังพินาศ อยากให้มองตัวเองด้วย เข้าใจไม่มีใครดีพร้อม แต่การจะมาทำอาชีพไม่ใช่แค่ของตน แต่เป็นทีมทั้งหมดให้เราพังพินาศ เพียงเพราะตนทำอะไรที่ไม่ถูกใจคุณเอง ไม่อยากพูดว่าใคร เพราะไม่อยากให้แฟนคลับไปด่า ไม่เข้าใจทำไมต้องพูดว่าห้ามมาติดตามตนนะ พลาดเล็กน้อยทำไมใหญ่ขนาดนี้ นี่คือ โอกาสที่เราจะร่วมมือกันทำสังคมให้น่าอยู่ ใช้เวลาสร้างสรรค์แทนที่จะทำให้ชีวิตพังพินาศ บางคนติดต่อสปอนเซอร์ตนให้ออกมาต่อต้านตน มันใหญ่ขนาดนั้นเลยหรือ อยากให้ติดตามทุกคลิป เพื่อพิสูจน์ได้ว่าเป็นแบบที่พูดไหม