มีเงินแต่ไร้ความสุข! “เสี่ยปาน” ลาบวช-ขายทรัพย์สินทุกอย่าง เหตุแฟนเก่าไม่ให้ลูกมาเลี้ยง

“เสี่ยปาน” อดีต รปภ. ที่ถูกหวย 30 ล้าน ก่อนแยกทางกับภรรยา ตัดสินใจลาบวช หลังขอลูกมาเลี้ยงแล้วทั้งอดีตแฟนและแม่ยายกีดกัน ทั้งๆ ที่หนีไปทำงานที่ไต้หวันแท้ๆ พร้อมขายทรัพย์สินทุกอย่าง เหลือบ้านที่สร้างไว้ให้ลูกชายเป็นมรดก ระบุ ขอสละลาโลกทุกอย่างไปหาทางธรรม

วันนี้ (5 มิ.ย.) จากกรณีที่ นายยงยุทธ แก้วสวนจิก หรือ เสี่ยปาน อายุ 40 ปี อดีต รปภ. ชาว อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 ก.ย. 2558 เป็นเงินถึง 30 ล้าน แต่ต่อมามีเรื่องผิดใจกับ น.ส.เสาวณี ทองวิเศษ ปัจจุบันอายุ 31 ปี ชาว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นภรรยาในเรื่องเงิน ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล ก่อนตัดสินใจแยกทางกับภรรยา โดยให้เงินสดภรรยาไป 1 ล้านบาทเศษ พร้อมซื้อรถยนต์ใหม่ให้ 1 คัน และส่งเสียลูกเดือนละประมาณ 7,000 บาท กระทั่งเจ้าตัวมาซื้อที่ดิน 30 ไร่และสร้างคฤหาสน์อยู่ในที่ดินดังกล่าวที่บ้านหนองบ่อ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี

กระทั่งเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา เสี่ยปาน เปิดเผยว่า ตอนนี้อยากได้ลูกชายที่ชื่อ “น้องเกาลัด” วัย 2 ขวบ กลับมาเลี้ยงเอง เพราะทราบข่าวว่าอดีตภรรยาหนีไปทำงานประเทศไต้หวันแล้ว ตอนนี้อาศัยอยู่กับยายที่เลี้ยง รู้สึกสงสาร เลยอยากจะเอาลูกชายมาเลี้ยงเอง ตอนนี้พินัยกรรมทั้งหมดทำไว้ให้ลูกชายคนนี้คนเดียว บ้านหลังหนึ่ง ที่ดินอีก 3 - 4 แปลง สร้างเอาไว้เพื่อครอบครัวใหญ่ ที่มีภรรยา ลูก พี่น้องญาติๆ มาอยู่ด้วย แต่ในเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก็ไม่เป็นไร ตอนนี้อาศัยอยู่บ้านคนเดียว ก็เลยอยากได้ลูกชายไปอยู่ด้วย ในเมื่อแม่เขาหนีไปทำงานต่างประเทศ ได้แค่ไปเยี่ยมลูกชาย บางวันก็ไปทานข้าว ส่วนตนอยู่กับธรรมชาติ ไม่รู้จะตายวันไหน เมื่อแม่เขาไม่อยู่ดูแลลูก ก็อยากให้ลูกมีโอกาส อยู่ในที่ควรอยู่

ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. เสี่ยปาน ออกมาเปิดเผยอีกว่า แม่ยาย และอดีตภรรยาสั่งห้ามไปหาลูกเด็ดขาด หรือแม้แต่จะโทร.ไปก็ไม่รับสาย เหมือนปิดกั้นไม่ให้พ่อพบกับลูกเลย ทั้งๆ ที่ทรัพย์สินเงินสดทั้งหมดได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ให้ลูกเท่านั้น ซึ่งตนน้อยใจ เพราะตั้งใจสร้างบ้านไว้ 5 ห้องเพื่อให้ภรรยาและแม่ยายและญาติมาอยู่ด้วย แต่เมื่อเกิดปัญหาแยกทางกันอยู่ ก็ส่งเงินให้ลูกทุกๆ เดือน อดีตภรรยายังหนีไปทำงานต่างประเทศ ไม่ยอมดูแลเลย และเมื่อตนอยากได้ลูกมาเลี้ยงบ้าง กลับกีดกันห้ามเข้าไปหาลูก

ตนนอนคิดอยู่ 3 คืน ในที่สุดจึงตัดสินใจว่าจะขอเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ โดยจะเดินทางไปบวชที่วัดชุมพล ต.วัดตูม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 10 มิ.ย. นี้ ส่วนทรัพย์สินทุกอย่าง เช่น วัว รถยนต์ก็จะขายออก เหลือเฉพาะปิคอัพป้ายทะเบียนที่ถูกหวย แต่จะเก็บไว้ที่พี่สาว ส่วนที่ดินบางส่วนที่ซื้อเอาไว้ก็จะขายออก บ้านและที่อยู่ตอนนี้ก็จะมีพี่ชายมาดูแลต่อ แต่ทรัพย์สินทุกอย่างก็ยังเป็นของลูกชายเมื่อเขาโตแล้ว ส่วนตนเองก็ตั้งใจจะออกบวชตลอดชีวิตเพราะไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว

นอกจากนี้ ยังได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “เพื่อนมิตรสหายชาวเฟซบุ๊กครับ ด้วยเกียรติของความเป็นคนของผม เพื่อนๆ ทุกท่าน ! จะขออโหสิกรรมอนุโมทนาสาธุกับผมหรือไม่ ผมจะขอสละทางโลกเศร้าโศกทุกอย่าง จะขอจากโลกอันวุ่นวายขอออกบวชชดใช้กรรมมิว่าปางเก่ารึปางก่อน ในวันที่ 10 ที่จะถึงนี้ ไปแบบอิสระไร้ห่วง เพราะเมื่อลูกอันเป็นที่รักจักมิโอกาสได้มาอยู่กับผมด้วยเหตุผลที่รู้ๆ กันอยู่ว่าเค้าไม่ให้มาอยู่แล้ว สิ่งที่ผมเพียรรักษามามันไร้ซึ่งความหมาย ผมจึงขอยอมสละทุกอย่างที่ผมมี เพื่อขอเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ แต่จักให้ญาติรักษาและดูแลแทนจนกว่าจะถึงเวลาที่ผู้สืบสกุลจะมารับช่วงต่อเมื่อถึงเวลา คือ ลูกชายคนเดียวที่ผมมี วันที่ 9 ผมจะออกเดินทางไปจังหวัดอยุธยา พอดีมีญาติของน้าที่จะบวชวันที่ 10 ผมคิดมาหลายคืนจนนอนไม่หลับ และได้ตัดใจแล้ว หากมาดแม้นว่า!...เพื่อนมิตรสหายชาวเฟซจะอนุโมทนาบุญร่วมหนุนส่งหรืออยู่ใกล้ อยากเมตตราผมหรืออยากไปร่วมก็ขอเชิญได้นะครับ พิกัด ณ วัดชุมพล เมืองพระนครศรีอยุธยา วัดธรรมยุทธ ก็ขอนับเป็นเกียรติอย่างสูงนะครับ จึงเรียนมา ณ.โอกาสนี้ ส่วนเรื่องการลาสิกขานั้น อยู่ที่บุญบวชครับ หากไม่มีเหตุบ่วงห่วงจนผ้าเหลืองร้อน ก็จะขอรับใช้กรรมต่อไป และนับจากวันนี้เป็นต้นไป ผมจะเก็บตัวไม่ออกไปไหน จนกว่าจะถึงเวลาเดินทาง สู่สายทางธรรม ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่มิตรสหายของข้าพเจ้าทุกคน นับเป็นเกียรติ์ที่ได้พูดคุยและรู้จัก”