xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจช้ำๆ “เฮียเอี๋ยม Evs” กรณีโน้สหมู่ถูกละเมิด ยอดขายตก นอนไม่หลับกันยกครัว!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เฮียเอี๋ยม” หรือ ดร. เสกสรร สุนันท์กิ่งเพชร ประธานกรรมการบริษัท อีวีเอส เอ็นเทอร์เทนเมนต์ จำกัด เปิดใจถึงวิกฤตการณ์ครั้งสำคัญสำหรับฐานะผู้ประกอบการ เมื่อบันทึกการแสดงสด “หมู่” ของโน้ส - อุดม แต้พาณิช ได้ถูกละเมิดลิขสิทธิ์อย่างรุนแรง โดยการเผยแพร่ถ่ายทอดสดผ่านทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งนับเป็นครั้งรุนแรงที่สุด ในระยะเวลา 35 ปีที่ประกอบกิจการมาเลยก็ว่าได้

• ก่อนหน้าที่จะมาเจอปัญหาใหญ่นี้ เคยเจอปัญหามาก่อนเหมือนกัน

ถ้าเป็นในสมัยก่อน มันจะเป็นม้วนวีดีโอ การละเมิดมันจะไม่รุนแรง อย่างหนังเรื่องหนึ่ง ความยาวชั่วโมงครึ่ง ถ้าคนจะมาละเมิด ก็ต้องเอาคนมาอัดก็อปปี้ต่อ ใช้เวลาชั่วโมงครึ่ง ถ้าคุณจะทำ 10 ก็อปปี้ ก็ต้องใช้อัด 10 ตัว ซึ่งมันไม่ได้รวดเร็วในการละเมิด แต่พอยุคต่อมาเป็นวีซีดีและซีดีอาร์ออกมา มีโรงงานปั๊มซีดีเถื่อน พอมีอย่างงี้ออกมา พวกนี้มันมีตัวตนให้เราสังเกต ให้เราติดตาม เราก็ยังพอจับได้ แต่พอเวลาที่ไปจับจริงๆ เข้าแล้ว ทางนั้นก็เอาพวกเด็กๆ มาขาย พอถึงที่สุดแล้วไม่รู้จะไปทำยังไง จะไปจับเด็กให้ติดคุก เราก็ไม่อยากทำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น บอกแล้วว่า พวกซีดีหรือดีวีดี มันเป็นเป้านิ่ง ไม่ได้มีความหมายมากมายเท่าไหร่

• เข้าสู่ยุคนี้แล้วปัญหามันใหญ่โตขึ้นมาอย่างไร

คืออย่างที่แล้วๆ มา ส่วนของผมทำมาตั้งแต่เดี่ยว 9 ช่วงเวลานั้น โซเชียลมีเดียยังไม่แรงเท่าไหร่ ก็ไม่มีปัญหา ทำไปแล้วก็อยู่ได้ อยู่รอดปลอดภัย พอมาถึง เดี่ยว 10 เริ่มมีสังคมออนไลน์ และเว็บไซต์ยูทูปโผล่มาแล้ว แต่ก็ยังไม่สาหัสสากรรเท่าไหร่ จนมาถึง เดี่ยว 11 หลังจากวันแรกที่วางจัดจำหน่ายไป ทางยูทูปก็โผล่มาเป็นร้อยๆ ครั้ง เลย แต่ผมก็มีพันธมิตรที่อยู่ในยูทูปเขาช่วยเหลือเรา ที่คอยลบออกให้ คือลบกันทั้งวันทั้งคืนเลย

แต่สิ่งที่หนักหนาสาหัสที่สุดคือเว็บไซต์เถื่อน ซึ่งเว็บเหล่านี้เราไม่สามารถเจรจาหรือขอร้องอะไรกับเขาได้ เขาไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น ปล่อยให้มีการโหลด ให้ดูฟรีเยอะแยะไปหมด ตั้งแต่เดี่ยว 11 เลย จนมาถึง “โน้สหมู่” ทางเราก็รู้มาว่า ปีนี้มีลูกเล่นที่โผล่มาใหม่ คือ FACEBOOK LIVE ซึ่งมันน่ากลัวมาก ซึ่งเรารู้ก่อน เรารู้มาแล้ว แต่เราก็ยังหาทางแก้ไขไม่ได้ เนื่องจากเราติดต่อไปทาง FACEBOOK เขาบอกว่า เราต้องรีพอร์ตอย่างเดียว คราวนี้ พอรีพอร์ตไป กว่าจะได้ผล เขาบอว่าอยู่ในระหว่าง 24 ชั่วโมง ถึงจะลบให้ แล้วเราก็มาคิดว่า หนังของเราความยาว 3 ชั่วโมง แล้วถ้าให้รอ 24 ชั่วโมง เราตายแน่

จนมาถึงวันวางแผง ในเว็บไซต์ยูทูปไม่เยอะ แต่พวกที่โผล่มาเจ้าแรกคือ เว็บไซต์เถื่อน เป็นคนอัพโหลดขึ้นคนแรก คนที่อยู่ในเฟซบุ๊ค ก็ไปดึงจากเว็บไซต์ตัวนี้มาแชร์เป็น Facebook Live เลย ทีนี้ คนที่ดูเฉยๆ ไม่เท่าไหร่ แต่ที่มันแย่ก็คือมีการแชร์ต่ออีก แล้วเฟซบุ๊คบางอันนี่ คนดูหลายหมื่นคน แชร์เป็นพันครั้ง ฉะนั้น แค่คืนแรกที่เผยแพร่ไป คนได้ดูตรงนี้เป็นล้านๆ คน นี่คือสิ่งที่เราไม่ได้คาดว่ามันจะรุนแรงมากขนาดนี้ เพราะเราคาดการณ์ว่า มันก็คงเป็นนิดหน่อยๆ พอทน แต่เราก็แก้เกมตรงที่ว่า ให้พนักงานและเจ้าหน้าที่ช่วยกันพิมพ์ช่วยคอมเมนต์ว่า ขอความเห็นใจหน่อยครับ สงสารเราเหอะ อย่าทำร้ายเราเลย ลบออกเหอะ ประมาณว่าเราพิมพ์ไปขอร้อง ซึ่งก็มีส่วนหนึ่งที่ยอมลบเลย แล้วขอโทษขอโพยเรา บอกเราว่าจะไปซื้อแผ่นแท้มาดู และไม่ตั้งใจ ซึ่งนั่นคือมือสมัครเล่น เราก็ดีใจ

แต่มีส่วนหนึ่งคือพวกขายของ พวกเว็บพนัน หรือพวกผู้หวังดีเยอะๆ ก็ไม่สนใจ บางคนกลับท้าทายอีกว่า “ไม่ลบ แล้วจะทำไม?” ก็ทำให้เรามาคิดว่า เราทำธุรกิจสุจริต เราซื้อขายลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วเราได้รับผลตอบแทนอย่างนี้ เราก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร เราได้แต่ขอความเห็นใจ ขอร้องเขา แม้กระทั่งเว็บไซต์เถื่อน เราก็ส่งคนพิมพ์ไปขอร้อง แบบ... พี่ช่วยเอาออกเหอะ ถ้าไว้อย่างงี้ ใครจะมาซื้อของของผมล่ะ อย่างน้อยก็เป็นคนไทยด้วยกัน อย่าทำร้ายด้วยกันขนาดนี้เลย ซึ่งหลายเว็บไซต์ก็ปิดเลย แต่ก็มีเว็บหลักๆ ที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ อยู่ 4-5 เว็บไซต์ที่ไม่สนใจ ก็เลยทำให้ความสูญเสียของเรามีมหาศาล

• พอเจอปัญหาอย่างงี้แล้ว ในส่วนของโน้ส อุดม เขาว่ายังไงบ้างครับ

ส่วนตัวของคุณโน้ส อุดม ก็มาช่วยเหลือทีมงานเราอยู่ เพียงแต่ว่าเขาอยู่ในคนละส่วนกับเรา ของเขาจะเป็นในส่วนของการแสดงสดหน้าเวที หลังจากนั้น เขาก็ขายลิขสิทธิ์ให้เรามา เราก็ต้องรับผิดชอบต่อ แล้วทางเราได้ร่วมมือกับตัวคุณโน้สมานานแล้ว ก็สนิทกันมาก ช่วยเหลือกันไปมาตลอด แต่ครั้งนี้รุนแรงจริงๆ นอนไม่หลับกันทั้งครอบครัวเลย อย่างที่แล้วๆ มา ตัวบริษัทก็มีๆ ออกมาบ่นเหมือนกันนะ แต่เราคิดว่า ทำไป กำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง ก็ช่างมัน ได้บ้างเสียบ้าง ก็เจ๊าๆ กันไป แต่ครั้งนี้คือ มันรุนแรงมาก หาอะไรมาบรรยายไม่ได้เลย

• เป็นไปได้มั้ยครับ ที่การแสดงได้รับความนิยมน้อยลง หรือ สำนึกของคนมันเปลี่ยนไป เลยทำให้เกิดแบบนี้

ผมว่าความนิยมก็ไม่ได้ลดหายไปนะ คนก็ยังติดตามกันเยอะ บัตรเข้าชมก็ขายหมด เต็มทุกที่นั่ง แล้วช่องทางในการชม อย่างตัวเราเอง ก็เคยลองครับ อย่างตอน เดี่ยว 11 เราก็ได้ลองกับทางแอพลิเคชั่นตัวหนึ่ง ซึ่งเราก็ขายสิทธิ์ให้เขา ไปให้คนอัพโหลดดู ซึ่งก็มีค่าเข้าชม และเราออกพร้อมกับแผ่นวันแรก ซึ่งผลปรากฏว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ผู้ประกอบการที่มาซื้อของเราก็ขาดทุน และยกเลิกในเวลาต่อมา เพราะว่า คนไทยยังติดกับการดูฟรีอยู่ ฉะนั้น ถ้ามีอะไรที่เสียเงิน ไม่มีใครเอา

• แสดงว่าระบบออนไลน์ที่ถูกกฎหมายในคนไทยก็ยังไม่เข้าใจเท่าที่ควร

ผมเรียนอย่างงี้ครับ มันไม่เหมือนกับทางฝั่งยุโรป ทางอเมริกา ทางญี่ปุ่น ที่ทุกวันนี้ ยังมีร้านดีวีดีขายและเช่า TSUTAYA ที่ญี่ปุ่นก็ยังอยู่มั่นคง เพราะทุกคนยังรักษาสิทธิ์ของเขา เขาเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน แล้วในระบบออนไลน์ เขาก็ยังขายได้ เช่น ระบบ NETFLIX เขาก็ยังขายได้ เพราะคนเขายอมเสียเงินดู เพราะที่นั่นไม่มีการดูฟรี

เราก็ไม่ได้ว่าคนไทยนะครับว่า เขาจะมาเอาเปรียบหรือทำผิดกฎหมาย ส่วนใหญ่เท่าที่มอง รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็เยอะ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำ ไปทำร้ายผู้ประกอบการณ์ที่สุจริต ว่าบริษัทที่โดนกระทำอย่างงี้ จะสูญเสีย เสียหายขนาดไหน แล้วความเสียหายก็วงกว้าง ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว แต่ยังรวมถึงโรงงานผลิตแผ่น โรงงานผลิตกล่อง โรงงานที่พิมพ์ปก พนักงานที่มาทำงาน นอกจากคนเหล่านี้ ยังมีครอบครัวเขาอีก คนมันโดนกระทบเป็นหมื่นๆ คน ทั้งอุตสาหกรรม ไม่ใช่แค่ผมที่เดียว ทุกบริษัทที่ประกอบการอยู่ โดนอย่างงี้ทั้งหมด ผมทำธุรกิจนี้มา 35 ปี ผมไม่เคยเจออะไรที่เลวร้ายในระดับนี้มาก่อน แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไป เราเพียงขอความเห็นใจว่า ให้ธุรกิจเราได้ไปต่อเถอะ เพราะถ้าเป็นอย่างงี้ จะมีงานที่ไหนให้ชม เพราะทุกคนอ่อนล้าหมด ลงทุนไปแล้วก็ไม่ได้เงินคืน

• สมมุติว่าถ้าเกิดวิกฤตอย่างงี้ต่อไป คุณคิดว่าจะเป็นยังไงต่อครับ

ผมคิดว่า แต่ละบริษัทก็จะค่อยๆ หายไป พวกบริษัทจัดจำหน่ายจะหายไปก่อน แล้วต่อไปกระทบกระเทือนถึงผู้สร้างต่างๆ จนไปถึงโรงภาพยนตร์ เพราะมันเป็นลูกโซ่คล้องกันหมดเลย อย่างที่ผมบอกว่า สิ่งที่กระทบไม่ได้แค่บริษัทใดบริษัทหนึ่ง มันไปทั้งวงการ รวมทั้งสื่อด้วย อย่างเวลาที่หนังเรื่องหนึ่งออกฉาย จะต้องมีค่าโฆษณาต่างๆ เท่าไหร่ พอทุกอย่างพังพินาศไป ทุกอย่างก็กลายเป็นศูนย์

• เราจะทำยังไงให้คนไทยตระหนักถึงคำว่า ‘ลิขสิทธิ์’ อย่างแท้จริงครับ

ทุกวันนี้ สโลแกนหนึ่งจากตัวผมเลย “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” หมายความว่า สิ่งใดที่เราไม่ชอบ เราก็อย่าไปทำกับคนอื่น เรารู้อยู่แล้วว่า ของทุกอย่างไม่ใช่ของฟรี ทุกอย่างเป็นลิขสิทธิ์ทั้งหมด ไม่มีใครเอามาให้ดูฟรีหรอกครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขอความเห็นใจว่าหยุดเถอะครับ ถ้าไม่หยุด วงการนี้ล่มสลายแน่ๆ เพราะผลกระทบมันวงกว้างจริงๆ และเราก็ไม่ใช่อยู่ข้างหน้าอย่างเดียว เบื้องหลังอีกเยอะแยะเลยครับ สงสารเราเถอะ ให้เรายืนอยู่ได้ เราไม่เคยไปสร้างเดือดร้อนให้ใคร
เรื่อง : สรวัจน์ ศิลปโรจนพาณิช
ภาพ : แฟนเพจ EVS

กำลังโหลดความคิดเห็น