นายจํารูญศักดิ์ จันทรมัย ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อุบลราชธานี เข้าแจ้งความต่อ สภ.เมืองอุบลราชธานี ให้ดำเนินคดีกับ “เบส - อรพิมพ์ รักษาผล” ในข้อหาหมิ่นประมาท วานนี้ (19 พ.ย.)
“หลังจากได้ดูคลิปพูดถึงในทำนองว่า ชาวอีสานไม่รักพระเจ้าอยู่หัว ไม่เป็นความจริงเลย คนอีสานมีความผูกพันกับพ่อหลวงมาเป็นเวลานาน ผมไม่พอใจที่มาดูหมิ่นแบบนี้” ประธาน นปช. อุบลราชธานี ระบุ
นับเป็นโจทก์รายที่ 2 ต่อจาก นายคารม พลพรกลาง ทนายความ นปช. ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ เบส อรพิมพ์ ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี จากวิดีโอคลิปที่เบสไปพูดที่ จ.มหาสารคาม และถูกตีความว่า “คนอีสานลืมในหลวง”
“คำพูดดังกล่าวหมิ่นประมาทคนอีสานทั่วประเทศ ส่อเจตนาให้เข้าใจว่า คนอีสานทุกคนไม่เคารพในหลวง ไม่สำนึกบุญคุณพระมหากษัตริย์ ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง” นายคารม ระบุขณะเข้าแจ้งความกับตำรวจ
นายคารม ระบุว่า จะดำเนินคดีกับ เบส อรพิมพ์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 ประกอบมาตรา 328 จนถึงที่สุด ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท
เบส อรพิมพ์ นักพูดวัย 26 ปี เป็นวิทยากรที่ถูกกล่าวถึงว่า เขาพูดสร้างแรงบันดาลใจ ถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ที่ผ่านมา ทีวีดิจิตอลอย่างช่องไทยรัฐทีวี ในเครือหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้โปรโมตให้เขา กลายเป็นนักพูดเพื่อพ่อ จากรายการพิเศษหลังพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สวรรคต ในหัวข้อว่า “เกิดอีกสิบชาติก็ไม่เจอมหาราชชื่อภูมิพล”
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดมหาสารคาม ว่าจ้าง เบส อรพิมพ์ บรรยายในโครงการสร้างการรับรู้ในพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์
โดยมีนักเรียน โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 26 จังหวัดมหาสารคาม ทั้ง 35 โรงเรียน สถาบันการอาชีวศึกษามหาสารคาม 4 สถาบัน รวมกว่า 3,000 คนร่วมรับฟัง
วันเวลาผ่านไปกว่า 11 เดือน วิดีโอการบรรยายของ เบส อรพิมพ์ ในวันนั้น ถูกนำมาหยิบยกอีกครั้ง หลังตกเป็นข่าวว่า สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ปฏิเสธการให้วีซ่าเข้าประเทศ
วิดีโอคลิปความยาว 40 วินาที ที่เฟซบุ๊ก “ปกรณ์ พรชีวางกูร” อดีตแกนนำกลุ่ม “อุลตร้าแดง แดงสยิว” โพสต์เผยแพร่ ถูกนำไปขยายผล กระพือความไม่พอใจให้กับคนอีสาน ที่มีประชากรมากกว่า 21.91 ล้านคน ใน 20 จังหวัด
พร้อมกับตั้งคำถามว่า เบส เอาอะไรมาวัดค่าความจงรักภักดี และมองว่า เบส มองคนไม่เท่ากัน
นอกจากนี้ คนในวงการบันเทิง อย่าง “ตุ๊กกี้ สุดารัตน์ บุตรพรม” นักแสดงตลกของช่องเวิร์คพอยท์ ตอกกลับว่า เอาเรื่องในหลวงมาพูดจนมีงานการทำก็ควรจะพอแล้ว ไปพูดถึงคนอีสานทำไม ใครๆ ก็รักในหลวงทั้งนั้น
รวมทั้ง “สมรักษ์ คำสิงห์” นักชกเหรียญทองโอลิมปิก ที่เป็นชาวจังหวัดขอนแก่น ก็ระบุเป็นภาษาอีสาน แปลได้ว่า “พูดมาได้ยังไงวะ ว่าคนอีสานไม่รักในหลวง” พร้อมกับกล่าวว่า หากเป็นลูกสาวของตนจะต่อยให้ปากแตกเลย
“หมออั้ม” นพ.อิราวัต อารีกิจ แพทย์เสื้อแดง ที่เคยออกมาวิจารณ์ต่อกรณีที่มีกลุ่มแพทย์ออกมาร่วมการชุมนุมของ กปปส. มองว่า ผู้พูดมีอคติกับผู้คน ใจแคบ และมีความอัปยศในวิสัยทัศน์ เอาการเมืองมาเกี่ยวข้องกับสถาบันฯ
“นี่หรือ นักพูดของพ่อ อุปโลกน์ตัวเองขึ้นมาทั้งนั้น ยิ่งเห็นอ้างพระองค์ท่านแบบนี้ ยิ่งรู้สึกโกรธ และยากต่อการจะวางเฉย คนที่มีใจรักสถาบันฯ คนที่มองคนเท่ากัน คนที่รักประชาธิปไตย เข้าใจความรู้สึกผมดี”
ขณะที่ป้ายผ้าไวนีลต่อต้าน “เบส อรพิมพ์” ถูกนำไปติดบนสะพานลอย ตั้งแต่ จ.พระนครศรีอยุธยา ถึง จ.นครราชสีมา ระบุไม่ต้อนรับ เบส เหยียบย่ำหัวใจคนอีสาน วอนหยุดสร้างความแตกแยก แต่ไม่ระบุว่าใครเป็นผู้จัดทำ
อีกด้านหนึ่ง ได้มีการเปิดเผยถึงค่าตัววิทยากรอย่าง เบส อรพิมพ์ ว่ามีค่าตัวที่สูงถึง 3 หมื่นบาท
โดยเฟซบุ๊ก “พลเมืองต่อต้าน Single Gateway” นำเอกสารจากหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งออกมาแฉ และตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการผิดระเบียบการเบิกจ่ายค่าวิทยากร ของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง
พระเสื้อแดงอย่าง “พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ” แห่งวัดสร้อยทอง ที่เคยโด่งดังจากดรามา “คนบางระจันอย่ามโนว่ารักชาติ” และเรื่องอาหารหมา ออกมาโพสต์ว่า “ชั่วโมงละ 30,000 ในการนำเรื่องพอเพียงของพ่อไปพูด”
แม้ เบส อรพิมพ์ จะกล่าวขอโทษผ่านสื่อทั้งน้ำตา ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาดูถูก สร้างความแตกแยกให้กับประเทศชาติ แต่ดูเหมือนว่าไม่ช่วยให้สถานการณ์ความโกรธแค้นดีขึ้น
และกลุ่ม นปช. พยายามนำเรื่อง เบส อรพิมพ์ ไปเชื่อมโยงกับรัฐบาล โดยเฉพาะการเป็นเครื่องมือของกองทัพ ในการบรรยายมุ่งหวังสลายสีเสื้อ ซึ่งมองว่าเป็นการโหนความจงรักภักดี
พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันว่า เบส อรพิมพ์ ไม่ได้เป็นเครื่องมือของกองทัพ ตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์
“อยากให้มองว่า น.ส.อรพิมพ์ เป็นผู้หญิงที่เก่ง มีความกล้า และเป็นนักพูดที่ดีให้ข้อคิดอะไรต่างๆ ได้ รวมทั้งเป็นคนที่มีการแสดงออก ถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” ทีมโฆษก คสช. ระบุ
คสช. ย้ำว่า ไม่ใช่แค่ เบส อรพิมพ์ ถูกเชิญไปบรรยายเพียงคนเดียว ใครก็ตามที่มีความจงรักภักดี ถ่ายทอดเรื่องราวได้ดี มีข้อคิด น่าฟัง น่าสนใจ กองทัพก็เชิญมาบรรยายทั้งนั้น และอยากให้ดูเจตนาในการพูดมากกว่า
“การที่เธอพูดอะไรไปแล้ว พาดพิงใครก็ตามจนเป็นเรื่องเป็นราว ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นอะไรได้ แต่อยากให้มองว่า น้องเบส มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน” พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย
