อึ้งสระน้ำรุกล้ำทะเลสร้างมาแล้ว 20 ปี ฝ่ายปกครองบางละมุง ไม่แตะ บอกเป็นหน้าที่ของเจ้าท่าและท้องถิ่น หันไปเล่นข้อหาเบาๆ ผิดเงื่อนไขบริการ ด้านเจ้าท่าตื่นแจ้งเจ้าของโรงแรมทำผิด ม.117 ก่อนโยนเกี่ยวพันกฎหมายหลายด้าน ทั้งเรื่องสิ่งปลูกสร้าง พื้นที่สาธารณะ ซึ่งเป็นส่วนของท้องถิ่นที่จะเข้ามาดูแลจัดการ
เพจเฟซบุ๊ก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โพสต์ความเคลื่อนไหวกรณีโรงแรมในเมืองพัทยา สร้างสระน้ำรุกล้ำเข้าไปในทะเล ว่า “วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) โดย สำนักงานบริหาร ทช.ที่ ๒ (ชลบุรี) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสิ่งก่อสร้าง เป็นสระว่ายน้ำ ขนาด ๒๖ x ๓๐ เมตร ลึกเข้าไปในทะเล ๓๐ เมตร บริเวณเขาพระตำหนัก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ซึ่งจากการประสานงานกับเจ้าท่าเขตพัทยา พบว่า ไม่มีเอกสารการขออนุญาตสร้างสิ่งรุกล้ำลำน้ำจากเจ้าท่า เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. ๒๔๕๖ และชุดปฏิบัติการฝ่ายปกครอง อ.บางละมุง ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เนื่องจากประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนโรงแรม จึงนำตัวผู้จัดการ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”
เป็นที่น่าสังเกต ตามรายงานข่าวระบุว่า สระว่ายน้ำแห่งนี้ สร้างมาแล้ว 20 ปี แต่ไม่มีหน่วยงานใดเข้าตรวจสอบ
หลังข่าวแพร่ลงโซเชียลประชาชนเรียกร้องตรวจสอบหนักขึ้น นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ได้นำกำลังฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบ แต่เป็นการตรวจสอบเฉพาะกรณีโรงแรมทำผิดเงื่อนไข จากเดิมขอเปิดบริการแบบรายเดือน แต่ช่วงหลังไปเปิดให้บริการในลักษณะรายวัน บทลงโทษแค่เปรียบเทียบปรับ ไม่ได้เข้าไปแตะต้องกรณีของสระว่ายน้ำในทะเลแต่อย่างใด โยนเป็นหน้าที่ของเจ้าท่าและท้องถิ่นที่ต้องดูแล
ขณะที่ นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค ผู้ซึ่งรับผิดชอบในการดูแลพื้นที่น่านน้ำและชายฝั่งในเขตเมืองพัทยา กล่าวว่า ทางโรงแรมสร้างสระน้ำรุกล้ำทะเลไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าท่า ผิดตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 ในมาตราที่ 117 แต่ก็ต้องดูกฎหมายอื่นทั้งเรื่องของสิ่งปลูกสร้าง และพื้นที่สาธารณะ ซึ่งเป็นส่วนที่ท้องถิ่นจะเข้ามาดูแลจัดการ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เจ้าท่าพัทยาระบุ “สระว่ายน้ำกลางทะเล” ผิดกฎหมาย
