กรมอนามัยผลักดันสระว่ายน้ำในศูนย์เด็กเล็กทุกแห่งทั่วไทย หลังผลศึกษาวิจัยในจีนพบเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ ที่ฝึกทักษะและออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ จะมีพัฒนาการต่างๆ และไอคิวอีคิวดีกว่าเด็กทั่วไป ภูมิต้านทานแข็งแรง
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การสร้างพัฒนาการที่ดีให้เด็กถือเป็นต้นทุนที่จำเป็น โดยเฉพาะช่วงขวบปีแรก โดยพบว่าเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี หากได้ออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำจะมีร่างกายและพัฒนาการ เช่น เดิน นั่ง พูด อีคิว และไอคิว ดีกว่าเด็กวัยเดียวกันที่ไม่ได้ว่ายน้ำ เนื่องจากการว่ายน้ำจะช่วยทำให้เด็กได้ออกกำลังกายแบบ 360 องศา ซึ่งในประเทศจีนมีการส่งเสริมให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี ว่ายน้ำในโอ่งสี่เหลี่ยม โดยมีการนำอุปกรณ์ดังกล่าวไปใช้ในศูนย์แม่และเด็ก เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้ใช้ออกกำลังกาย โดยจะใช้เวลาวันละประมาณ 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังพบว่าช่วยสร้างเสริมภูมิต้านทานได้ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้ว่ายน้ำ
นพ.พรเทพ กล่าวว่า จากการวิจัยของโรงพยาบาลแม่และเด็กที่ประเทศจีน ยังระบุชัดเจนว่า เด็กที่ได้มาเข้าคอร์สทำสปาเด็กในคลินิกของโรงพยาบาลแม่และเด็ก เด็กจะมีพัฒนาการด้านต่างๆ ที่เร็วกว่าเด็กช่วงวัยเดียวกันที่ไม่ได้ว่ายน้ำถึง 2 เดือน กรมฯจึงมีแนวคิดที่จะให้ศูนย์เด็กเล็กของไทยตามเทศบาลต่างๆ ได้มีสระว่ายน้ำให้เด็กได้ลงเล่นประมาณสัปดาห์ละ 2 วัน ซึ่งในแต่ละครั้งจะให้เด็กได้ฝึกการทรงตัวประมาณครั้งละ 1 ชั่วโมง และจะมีการพัฒนาเพื่อบรรจุเป็นหลักสูตรต่อไป
“ขณะนี้ไทยมีศูนย์สาธิตเกี่ยวกับการสอนเด็กว่ายน้ำแล้ว 12 จังหวัดๆ ละ 1 - 2 แห่ง อาทิ เชียงใหม่ ขอนแก่น พิษณุโลก นครศรีธรรมราช ยะลา อุบลราชธานี และ กทม. เป็นต้น โดยกรมฯ ตั้งเป้าว่าภายในปี 2558 ไทยจะต้องมีศูนย์สาธิตที่สอนเด็กว่ายน้ำให้ได้อย่างน้อย ร้อยละ 10 หรือประมาณ 1,000 จุด และในปีงบประมาณ 2558 กรมฯยังตั้งเป้าว่าจะของบประมาณมาดำเนินการเฉพาะเกี่ยวกับการส่งเสริมให้เด็กได้ว่ายน้ำประมาณ 10 - 20 ล้านบาท ทั้งนี้ การสาธิตและสอนเด็กว่ายน้ำจะมีความปลอดภัยสูง เพราะมีทั้งครูที่มีความรู้และเชี่ยวชาญด้านการฝึกทักษะการว่ายน้ำเฉพาะของเด็กมาดูแล และผู้ปกครองจะต้องลงไปกับเด็กด้วย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่