เจ้าหน้าที่สำนักงานสวนสาธารณะ ขุดหลุมฝังท่อพีวีซีเจาะรูระบายลึก 40 เซนติเมตร และนำถุงทรายถมกันไว้ ฟื้นฟูต้นมะขามสนามหลวง 200 ต้น จาก 783 ต้น เพื่อให้รากของต้นมะขามภายในท้องสนามหลวง ที่บางต้นมีอายุมากกว่า 100 ปี ได้มีอากาศหายใจสะดวกขึ้น หลังได้รับผลกระทบจากการเทเศษอาหารทิ้งลงโคนต้น
วันนี้ (3 พ.ย.) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการดูแลรักษาและฟื้นฟูต้นมะขามโดยรอบสนามหลวงที่ได้รับความเสียหายจากปัญหาน้ำขังบริเวณโคนต้นมะขาม ว่า ต้นมะขามในท้องสนามหลวงมีทั้งหมด 783 ต้น จากการสำรวจของสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. พบว่า โคนต้นมะขามเกือบ 200 ต้น มีน้ำขัง ซึ่ง กทม. เกรงว่า หากปล่อยให้อยู่ในสภาพนี้ จะทำให้รากต้นมะขามเน่าและต่อไปในอนาคตต้นมะขามอาจจะตายได้
สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. จึงหาวิธีการแก้ปัญหาโดยใช้ท่อพีวีซีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกว้าง 3 นิ้ว ความยาวท่อ 40 เซนติเมตร เจาะรูโดยรอบท่อและกดท่อลงไปบริเวณโดยรอบโคนต้นมะขามประมาณ 4 - 5 ท่อ วัตถุประสงค์คือต้องการให้อากาศสามารถระบายเข้า - ออก รากของต้นมะขามได้ เพื่อให้ต้นมะขามมีอากาศหายใจ และสามารถนำอากาศไปผลิตอาหารได้ และหากท่อพีวีซีดังกล่าวมีน้ำขัง สำนักสิ่งแวดล้อมก็มีเครื่องมือสำหรับดูดน้ำออก โดยคาดว่า จะดำเนินการให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายใน 15 - 20 วัน และหลังจากนั้น ตรวจสอบพบว่าต้นมะขามต้นใดมีความจำเป็นต้องดำเนินการเพิ่ม กทม. ก็จะดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ กทม. ต้องขอความร่วมมือประชาชน รวมถึงเต็นท์อาหารอย่าเทน้ำ หรือทิ้งเศษอาหาร และทิ้งขยะบริเวณโคนต้นมะขาม ขอให้นำไปทิ้งลงถังขยะที่ กทม. จัดเตรียมไว้ เพื่อช่วยกันดูแลและอนุรักษ์ต้นมะขามโดยรอบท้องสนามหลวงให้คงอยู่ต่อไป