พสกนิกรได้เข้าถวายสักการะพระบรมศพระหว่างทำพิธีสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ยายวัย 76 จากสระบุรี ซาบซึ้งในหลวงเสด็จฯพื้นที่กันดาร เพื่อให้คนไทยได้อยู่ดีกินดี ยันจะน้อมนำคำสอนเรื่องความซื่อสัตย์มาสอนลูกหลานทุกคน ด้านป้าชาวปทุมฯ วัย 66 ปี ชูกษัตริย์ผู้ทุ่มเทพระวรกายทั้งหมดเพื่อประชาชน ขอน้อมนำพระราชจริยวัตรเรื่องความพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไป
เมื่อเวลา 05.15 น. สำนักพระราชวัง เปิดให้พสกนิกรเดินทางเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ บรรยากาศบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ยังเต็มไปด้วยสรรพเสียงสำเนียงของความเศร้าสลด ราษฎรของในหลวงรัชกาลที่ ๙ คนใดที่ได้ผ่านขึ้นไปยื่นหน้าพระบรมโกศ เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ ในฉลองพระองค์บรมราชภูษิตาภรณ์ รับฟังเสียงบทสวดพระอภิธรรม ของพระพิธีธรรม หรือเสียงปี่แตร ของการประโคมย่ำยาม ก็ยากที่จะกลั้นน้ำตาความอาดูรไว้ได้อยู่
นางดรุณี บุญรอด วัย 66 ปี ชาวบ้านจากจังหวัดปทุมธานี ที่มาพร้อมบุตรชายและหลานอีก 2 คน ที่มาถึงตั้งแต่ตี 3 เล่าถึงความรู้สึกหลังจากที่ได้ขึ้นไปสักการะพระบรมศพ ว่า ดีใจไม่คิดว่าตัวเองจะได้มีโอกาสขึ้นไปสักการะพระบรมศพ ที่ผ่านมา เห็นพระองค์ท่านทรงงานหนักตลอดเวลา ภาพที่เห็นจนชินตา คือ พระองค์จะทรงบุกน้ำ ลุยโคลน เพื่อเข้าไปช่วยเหลือพสกนิกรของพระองค์ท่านให้พ้นจากความทุกข์ยาก ซึ่งไม่มีกษัตริย์พระองค์ไหนในโลกสามารถทุ่มเทพระวรกายทั้งหมดเพื่อประชาชนได้มากขนาดนี้ จากนี้ไปถึงแม้ไม่มีพระองค์ท่านอยู่กับพวกเราอีกต่อไปแล้ว แต่สิ่งที่เราทำได้คือการน้อมนำพระราชจริยวัตรเรื่องความพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไป
ส่วน นางจันเป้ง แก้ววิกา วัย 76 ปี ชาวบ้านจังหวัดสระบุรี ที่ให้หลานสาวและหลานเขยพาเดินทางมาจากที่บ้านตั้งแต่หัวค่ำเมื่อวานนี้ เล่าถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยความซาบซึ้ง ว่า เมื่อครั้งที่ตัวเองยังเป็นเด็กอายุเพียงแค่ 10 ขวบเท่านั้น เคยตามพ่อกับแม่ไปเข้าเฝ้าฯพระองค์ท่านตอนที่เสด็จฯมาที่ จ.สระบุรี ตอนนั้นรู้สึกสงสัยว่าทำไมพระเจ้าอยู่หัวต้องเสด็จฯมาในพื้นที่อันแสนกันดารขนาดนี้ บุกป่าฝ่าดงเข้าไปในไร่ที่อยู่ในป่าลึกมาก แต่พระองค์ก็ยังทรงพระดำเนินเข้าไปอย่างไม่มีย่อท้อ กระทั่งวันที่เราโตมาถึงได้รู้ว่าสิ่งที่พระองค์ท่านทรงตรากตรำพระวรกายทั้งหมดก็เพื่อให้เราลูกหลานชาวไทยทุกคนได้อยู่ดีกินดี
“คิดถึงพระองค์มากตั้งแต่วันที่พระองค์สวรรคตจนถึงวันนี้ยังร้องไห้ไม่หยุดเลย ยายจะนำหลักคำสอนและพระบรมราโชวาทเรื่องความซื่อสัตย์มาสอนลูกหลานทุกคน ให้มีความซื่อสัตย์ทั้งต่อการงาน และกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว หรือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน”
ขณะเดียวกัน ในการเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เป็นวันทีสี่ ช่วงเช้า เวลาประมาณ 07.01 น. ระหว่างที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และทรงถวายภัตตาหารแด่พระพิธีธรรม ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ยังคงมีพสกนิกรยืนต่อแถวรอขึ้นสักการะพระบรมศพ อยู่หน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ราษฎรที่ต่อแถวรออยู่ สามารถขึ้นถวายสักการะพระบรมศพ สร้างความปลาบปลื้มปีติใจให้กับพสกนิกรเป็นล้นพ้น