พสกนิกรทั่วสารทิศร่วมสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวงแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นวันสุดท้าย ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง
วันนี้ (28 ต.ค.) เวลา 07.50 น. สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และลงนามสมุดหลวงแสดงความอาลัย ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง เป็นวันที่ 14 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ทางสำนักพระราชวังจะเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามถวายความอาลัย โดยมีพสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศที่เดินทางมาเข้าคิวรอเพื่อเข้าแสดงความอาลัยถวายแด่พ่อหลวงเป็นจำนวนมาก
นายปรัชญา ปรัชญาภูวดล อายุ 51 ปี ชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงโปว์ สารวัตรกำนัน ต.นาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ กล่าวภายหลังเข้าสักการะ แสดงความอาลัย ว่า พวกเรารู้สึกเสียใจมากที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต อยากให้พ่อหลวงเสด็จสู่สวรรค์ชั้นสูงสุด ที่ผ่านมาท่านทรงช่วยเหลือพัฒนาทั้งด้านการศึกษา อาชีพ และสาธารณสุข (พอ.สว.) เข้าตรวจสุขภาพถึงหมู่บ้านทำให้พวกเรามีชีวิตที่ดีขึ้น
“ถึงแม้ผมจะไม่เคยมีโอกาสได้รับเสด็จพ่อหลวง แต่ผู้ใหญ่ก็ได้เล่าต่อๆ กันมาว่าพ่อหลวงทรงรับสั่งไว้กับชาวอมก๋อยที่รอรับเสด็จฯ ว่า ให้ช่วยกันดูแลรักษาป่าไม้ อยู่กับป่า กินกับป่า ให้ดูแลป่าไม้ ผมก็จะช่วยดูแลรักษาป่าไม้ตามที่พระองค์รับสั่งไว้ ด้วยความทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และทุกพระองค์ที่ทรงช่วยเหลือพวกเราให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”
ขณะที่นายพะนะเซีย วงศ์โสดถิไกร อายุ 41 ปี ชาวไทยภูเขาเผ่ากระเหรี่ยงโปว์ ผู้นำหมู่บ้านอมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ เปิดศูนย์เรดาร์ฝนหลวง ที่ อ.อมก๋อย พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตนได้มีโอกาสรับเสด็จด้วย พระองค์ได้บอกกับชาวเขาว่าให้ลดการปลูกฝิ่นลง เพราะฝิ่นผิดกฎหมาย และทรงส่งเสริมให้ชาวเขาปลูกพืชอื่นๆ ทดแทน เช่น มะเขือ กะหล่ำปี ฟักทอง ส่วนผู้หญิงก็ให้ตั้งกลุ่มทอผ้าชุดชาวเขานำไปขายในเมือง จากนั้นมาชนเผ่าก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
