xs
xsm
sm
md
lg

ดรามา “กอดฟรี” กลางสนามหลวง ผู้จัดแจงสาวในภาพแค่ถือป้าย 3 นาที - “ไก่อู” ติงไม่ถูกกาลเทศะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดกิจกรรม “กอดฟรี” ที่สนามหลวง แจงสาวในภาพแค่มาช่วยถือป้ายเพียง 3 นาที ตนเองคือคนต้นคิด ยันไม่มีจุดประสงค์แอบแฝง แค่ต้องการปลอบประโลมใจคนไทยให้คลายเศร้าใจ ด้าน “ไก่อู” ติงไม่ถูกกาลเทศะ น่ามีกิจกรรมที่เหมาะสมกว่านี้

วานนี้ (24 ต.ค.) โลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่หญิงสาวรายหนึ่งถือป้ายประชาสัมพันธ์กิจกรรม “กอดฟรี” หรือ Free Hug บริเวณท้องสนามหลวง ซึ่งกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าไม่เหมาะสม และไม่ถูกกาลเทศะ

ล่าสุด ทางผู้ริเริ่มกิจกรรมได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Teerawat Pinpanichakarn” ว่า กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อปลอบประโลมใจคนไทยที่กำลังเศร้าใจโดยเริ่มต้นจัดที่สยามสแควร์ ซึ่งผลตอบรับค่อนข้างดี จากนั้นได้มาจัดที่สนามหลวง ก็ได้ผลตอบรับดีมาก แต่เรื่องดรามาเกิดขึ้นเมื่อน้องผู้หญิงที่รู้จักกันมาช่วยถือป้ายเพียง 3 นาที และถูกถ่ายภาพไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ซึ่งตนเป็นคนริเริ่มกิจกรรม สาวในภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ขอยืนยันว่า ไม่มีจุดประสงค์แอบแฝง แค่ต้องการส่งต่อความรู้สึกดี ๆ

“เรื่องดรามา กิจกรรม free hug ผมคือคนที่เริ่มต้นกิจกรรมนี้ โดยมีความคิดกับเพื่อนผมอีกคนนึงว่า เราจะทำกิจกรรม Free hug กัน “เพื่อปลอบประโลมใจคนไทยที่กำลังเศร้าใจกันอยู่ โดยเริ่มต้นกิจกรรม ที่สยามสแควร์ ในวันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งผลตอบรับค่อนข้างดี และผมตัดสินใจว่า จะไปทำกิจกรรมนี้ที่สนามหลวง โดยที่ผมได้เริ่มทำกิจกรรมนี้ในวันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม โดย มีกลุ่มรุ่นน้องที่ทำงานด้วยกัน ในเวลา 23.30 น. และผลตอบรับก็ออกมาดีมาก จนมีรายการที่ชื่อว่า ต่าง-ก็-ดี มาถ่ายคลิปเล่าเรื่องราวของพวกเรา พร้อมถึงเหตุผลที่ทำ และผมก็ทำกิจกรรมนั้นต่อมาโดยลำพังเรื่อย ๆ โดยที่ผมเองจะพยายามสอดแทรกทุกคน ว่า อย่าลืมกลับไปกอดคนที่บ้านด้วยนะครับ เพราะผมไม่ได้ต้องการให้เขามากอดผมเท่านั้น ผมอยากให้คนที่ได้รับสารนี้ นำความรู้สึกดี ๆ ไปส่งต่อแกคนในครอบครัว ญาติมิตร และ คนรอบตัวของเขา

เรื่องดรามาเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม คือ ผมได้นัดกับน้องที่เห็นรูปดรามานั้นมาเจอกันเพื่อไหว้พ่อหลวง และผมเองก็ได้ทำกิจกรรม free hug หลังจากนั้น น้องก็ตามมาและผม “ชวน” ให้ลองทำกิจกรรมดูว่ารู้สึกยังไง และ น้องเขายืนอยู่เพียง “3 นาที” แล้วก็แยกจากกันโดยผมยังทำกิจกรรมต่อไป
และวันนี้ ผมก็ไปทำกิจกรรม free hug เช่นเดิม แต่ครั้งนี้ เมื่อผมทำกิจกรรม ผมถูกเชิญตัวโดยเจ้าหน้าที่ทางการให้ไปให้ปากคำที่กองอำนวยการ

ผมขอยืนยันในคำพูดเดียวกับการให้การว่า “กิจกรรมนี้ไม่มีจุดประสงค์แอบแฝงแต่อย่างใด ผมแค่ต้องการส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ให้กำลังใจด้วยการกอดในแบบกิจกรรม Free hug และผมทำโดยลำพัง น้องที่เห็นในภาพ เพียงแค่มาถือด้วยแค่ 3 นาที แล้วก็กลับไป คนต้นคิดคือผมเอง” แล้วท่านเจ้าหน้าที่ก็ถามผมว่า ทำไมต้องเอาในหลวงมาเกี่ยว “พี่จำตอนที่มีการล่าแม่มดเรื่องเสื้อดำได้ไหมครับ นั่นคือการสร้างความแตกแยก ผมจึงนึกถึงสิ่งที่ท่านสอน ท่านไม่ได้สอนให้เรารักท่าน แต่ท่านสอนให้เรา รักและสามัคคีกัน ผมจึงอันเชิญคำสอนนั้นมาเขียน เพื่อที่จะบอกถึงความตั้งใจว่า ผมอยากเป็นส่วนนึงที่อยากทำให้คนไทยได้รักกันตามพระดำริของท่าน และมันสอดคล้องกับกิจกรรม free hug ที่เน้นการส่งต่อความรักและกำลังใจต่อกัน”

สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนเข้าใจว่า น้องคนที่เห็นในรูปนั้น ไม่ได้มีส่วนในการคิดริเริ่มในกิจกรรมนี้ และผมเองต้องกราบขอโทษหลาย ๆ ท่านด้วยที่อาจจะทำให้หลายท่านเกิดความขุ่นมัวใจ หรือ ไม่พอใจ กิจกรรมที่ผมจัดขึ้น ผมขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียว เพราะผมทำคนเดียว ไม่เกี่ยวกับน้องเขาครับ” ผู้จัดกิจกรรมกอดฟรีชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก

ทางด้าน พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด รักษาราชการ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลข่าวสารการจัดกิจกรรมทำดีเพื่อพ่อจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศจำนวนมาก แสดงให้เห็นความรักความภักดีที่ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างมากสำหรับทุกคนที่ได้พบเห็น รวมถึงชาวต่างชาติที่ได้รับการถ่ายทอดข้อมูลผ่านสื่อมวลชนช่องทางต่าง ๆ

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่น่าปลื้มใจมาก ว่า กิจกรรมทำดีเพื่อพ่อ ด้วยการเป็นจิตอาสาในรูปแบบต่าง ๆ จำนวนมากนั้น ริเริ่มจากกลุ่ม เยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่ออกมาแสดงพลังร่วมกัน ทั้งการเป็นอาสาให้ข้อมูลข่าวสาร อาสาดูแลพยาบาลช่วยเหลือผู้พิการผู้เจ็บป่วย หรือแม้แต่อาสาดูแลรักษาความสะอาด และอีกหลากหลายรูปแบบ

อย่างไรก็ตาม อยากให้ข้อคิดแก่เยาวชนทุกคน ว่า ทุกกิจกรรมที่ทำนอกจากเกิดจากเจตนาดีแล้ว ต้องพิจารณาว่ากิจกรรมเหล่านั้นเหมาะสม และความควรแก่กาลเทศะด้วย จึงจะเรียกว่าสมบูรณ์พร้อม ดีพร้อม

เพราะหากกิจกรรมนั้นไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรมอันดีงาม หรือไม่เหมาะควรแก่ห้วงเวลาขณะนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาแก่การแสดงความอาลัยของชาวไทยทุกคน ความตั้งใจดีนั้นก็อาจจะไม่ได้รับคำชื่นชม สมดั่งเจตนาของผู้กระทำ อาทิ กิจกรรม ที่มีการแพร่ในโซเชี่ยลว่าให้กอดฟรี บริเวณท้องสนามหลวงเพื่อแสดงความรักกันนั้น หากเป็นสิ่งที่จัดขึ้นจริงตามภาพข่าวที่เผยแพร่กัน ในความเห็นส่วนตัวคิดว่า น่าจะมีกิจกรรมที่เหมาะควรกว่านี้ หรือน่าทำมากกว่านี้”


กำลังโหลดความคิดเห็น