“ลุงปาน” โยกสามล้อจากบุรีรัมย์ ถึง กทม. แล้ว นำเงินที่ประชาชนให้ระหว่างทางกว่า 7 หมื่นบาท ถวายบำเพ็ญพระราชกุศล เผย ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง เป็นแรงบันดาลใจให้ตนไม่มีท้อถอย
วันนี้ (22 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. สำนักพระราชวัง เริ่มเปิดให้ประชาชนลงนามถวายสักการะต่อเบื้องพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามในสมุดหลวงแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนศาลาสหทัยสมาคม บรรยากาศยังคงอบอวลไปด้วยความเศร้าสลด มีทั้งประชาชนจากในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทยอยเดินทางมากันอย่างต่อเนื่อง หลายคนยังทำใจไม่ได้กับความสูญเสียขององค์กษัตริย์ในดวงใจ ถึงกับต้องหลั่งน้ำตาออกมา ทันทีที่เห็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์
นายปาน หมื่นโยชน์ อายุ 84 ปี ชาวนา จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นชายพิการร่างกาย ขาสองข้างไม่มีแรง เป็นกระดูกทับเส้นประสาท มาร่วมปี แต่มีแรงใจในการโยกสามล้อพระราชทาน จาก จ.บุรีรัมย์ เข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมถวายอาลัยแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นเวลา 8 วัน ถึงเดินทางถึง ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมนำเงินที่ประชาชนให้มาในระหว่างทางเป็นจำนวน 70,700 บาท มาถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลอีกด้วย
ลุงปานเปิดใจหลังจากที่ได้เข้าไปถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามในสมุดหลวงถวายอาลัยเสร็จแล้ว ว่า ถึงแม้จะโยกสามล้อเดินทางจากบ้านเกิดเมืองนอน จนมาถึงที่นี่เป็นระยะทางถึง 400 กว่ากิโลเมตร แต่สิ่งเหล่านี้หาได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้ตัวเองท้อถอยแต่อย่างใด หากยังมุ่งมั่นที่จะใช้สองมืออันแข็งแกร่งโยกสามล้อมาถวายอาลัยพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙ ให้จนได้ ด้วย เพราะพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ที่ได้พระราชทานความช่วยเหลือให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้น ทำมาหาเลี้ยงชีพ ได้กินได้อยู่อย่างมีความสุขอย่างเช่นทุกวันนี้ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ตัวเองโยกสามล้อเป็นระยะทางถึง 400 กว่ากิโลเมตรได้อย่างไม่มีท้อถอย
“ในหลวงพระราชทานรถสามล้อมาให้ผ่าน อบต. จึงทำให้คนพิการอย่างเราสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ สามารถโยกสามล้อไปรับจ้างทำงานหาเลี้ยงชีพได้ และท่านยังพระราชทานฟันปลอมมาให้ ทำให้เคี้ยวอาหารได้ นอกจากนี้ ท่านยังพระราชทานบ้านให้กับลูกสาวที่เป็นใบ้อีกด้วย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นแก่ครอบครัวของลุง”
นอกจากนี้ ลุงปาน ยังกล่าวถึงความรู้สึกขณะที่ถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ว่า ชาติหน้าขอเกิดบนแผ่นดินของพระองค์อีกครั้ง และขอบุญบารมีของพระองค์ช่วยให้เขากลับมาเดินได้ปกติอีกครั้ง พร้อมกันนี้ ลุงปานจะร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีที่สนามหลวงอีกด้วย
