MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่นประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทุกวันศุกร์ ทาง www.manager.co.th และเฟซบุ๊ก MGROnline Live
อันดับ 1 : “ซิกา” ระบาดทั่วไทย เตรียมงัดเอาผิด “คุก-ปรับ 2 พัน” บ้านเกียร์ว่างปราบยุงลาย
โรคติดเชื้อไวรัสซิกา ที่มียุงลายเป็นพาหะเช่นเดียวกับโรคไข้เลือดออก กำลังสร้างความหวาดผวาให้กับคนทั่วโลก หลังจากที่ประเทศสิงคโปร์รายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อภายในท้องถิ่นเป็นรายแรกเมื่อวันที่ 27 ส.ค. และนับตั้งแต่นั้นจำนวนผู้ติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 300 คน ประเทศไทยก็มีการนำเสนอข่าวว่า โรคติดเชื้อไวรัสซิกา เข้ามาระบาดในกรุงเทพฯ และมีผู้ติดเชื้อหลายราย กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ โดยพบมากที่สุดที่เขตสาทร ทำให้เมื่อวันที่ 11 ก.ย. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับข่าวดังกล่าว เพราะไวรัสซิกา ไม่ได้น่ากลัวหรืออันตรายถึงชีวิต
โดยนายกรัฐมนตรี ได้กำชับไปยังกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานสาธารณสุขระดับท้องถิ่น ให้เฝ้าระวังการแพร่ระบาด เร่งรณรงค์สร้างความเข้าใจ รวมทั้งขอความร่วมมือสื่อมวลชน ให้ระมัดระวังการนำเสนอข่าว ที่อาจสร้างความแตกตื่นในสังคมด้วย สำหรับโรคติดเชื้อไวรัสซิกา มียุงเป็นพาหะนำโรค ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ มีผื่นแดง เยื่อบุตาอักเสบ ปวดศีรษะ กล้ามเนื้อและข้อ ซึ่งโดยทั่วไปอาการเหล่านี้จะไม่รุนแรง และหายเองได้ภายใน 2 - 7 วัน แต่การติดเชื้อนี้อาจส่งผลต่อหญิงตั้งครรภ์ เพราะจะทำให้ทารกมีอาการสมองอักเสบ และกะโหลกศีรษะมีขนาดเล็กผิดปกติ อย่างไรก็ตาม หากพี่น้องประชาชนเริ่มมีอาการดังกล่าว หรือเจ็บป่วยรุนแรงต่อเนื่อง ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที
ด้าน กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2559 เป็นต้นมา พบผู้ป่วยซิกาสะสมประมาณ 200 กว่าราย แต่หายดีหมดแล้ว เนื่องจากโรคนี้สามารถหายป่วยได้เองภายใน 1 สัปดาห์ จึงไม่อยากให้ประชาชนตระหนกกับตัวเลขผู้ป่วยสะสม เพราะจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 20 กว่ารายต่อสัปดาห์ การพบการติดเชื้อก็เป็นเพียงบางจุด บางพื้นที่ ไม่ได้ระบาดทั้งจังหวัด พร้อมขอให้ประชาชนร่วมกันกำจัดลูกน้ำยุงลาย ที่ป้องกันโรคไข้เลือดออกและโรคชิคุนกุนยาด้วย โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออกที่ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันพบผู้ป่วย 38,000 ราย เสียชีวิต 31 ราย
กรณีดังกล่าว นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข มีแนวคิดใช้กฎหมายเอาผิดคนที่ปล่อยให้บ้านเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ซึ่งอาจก่อโรคต่อผู้อื่น จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ซึ่งภายหลังได้ชี้แจงว่า พ.ร.บ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 กำหนดให้แหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายเป็นเหตุรำคาญ หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายแล้วไม่แก้ไขตามที่กำหนด ถือว่าไม่ปฏิบัติตามก็จะมีความผิด กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท เพียงแต่ไม่มีการนำมาใช้ แต่เมื่อจะนำมาใช้ก็มีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างรุนแรง ซึ่งก็ไม่ช่วยให้ยุงลายลดลง
อันดับ 2 : “ซัมซุง โน้ต 7” ใคร ๆ ก็ไม่รัก หลายสายการบินส่ายหน้า ห้ามนำขึ้นเครื่อง
ความผิดพลาดของแบตเตอรีที่ส่งผลให้เครื่องลุกไหม้มากถึง 92 รายในสหรัฐอเมริกา ทำให้ “กาแลคซี่ โน้ต 7” สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงของซัมซุงต้องประกาศเรียกคืนมือถือทั่วโลก 2.5 ล้านเครื่อง รวมทั้งบางประเทศที่เปิดให้สั่งจองก็ได้ระงับการรับตัวเครื่องออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยสาเหตุที่เกิดระเบิด เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.ย. เบื้องต้นพบความผิดปกติในการผลิต ซึ่งสร้างแรงดันให้กับเซลล์แบตเตอรี จนทำให้แบตเตอรีขั้วบวกและขั้วลบหดตัวและก่อให้เกิดความร้อนเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ซัมซุงแสดงความรับผิดชอบด้วยการผลิตเครื่องใหม่ทั้งหมด และอัปเดตซอฟต์แวร์ไม่ให้ชาร์จไฟได้เกิน 60%
ผลกระทบจากแบตเตอรีระเบิด ทำให้สำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) และสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) แจ้งเตือนผู้โดยสารเรื่องการใช้งานสมาร์ทโฟนซัมซุงรุ่นดังกล่าว โดยแนะนำผู้โดยสารไม่ให้เปิดเครื่องหรือชาร์จอุปกรณ์บนเครื่องบิน และอย่าเก็บไว้ในกระเป๋าที่ผ่านการตรวจแล้ว สำหรับประเทศไทย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) รวมทั้ง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) รวมทั้งหลายสายการบิน ได้ออกคำเตือนห้ามใช้งานและชาร์จแบตเตอรีบนเครื่องบินเด็ดขาด หากจะพกพาไปด้วยต้องปิดเครื่องและห้ามใช้โหมดเครื่องบิน อาทิ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บางกอกแอร์เวย์ส และ สยามแอร์
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 16 ก.ย. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สั่งให้ระงับการนำเข้าและจำหน่ายสมาร์ทโฟน ลาวา (Lava) มือถือเฮาส์แบรนด์ของค่ายเอไอเอส รุ่น iris 600 ,iris 700 และรุ่น iris 708 เพื่อความปลอดภัยของประชาชน เนื่องจากปรากฏข่าวผ่านสื่อมวลชน และสื่อออนไลน์ว่า เกิดการระเบิดและลุกไหม้ขณะกำลังชาร์จแบตเตอรี และระหว่างพกพา พร้อมทั้งขอความร่วมมือไปยังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ห้ามใช้งานและชาร์จแบตเตอรีบนเที่ยวบินเช่นเดียวกับ ซัมซุง กาแลคซี่ โน้ต 7
อันดับ 3 : “เจ้าหลง” สุนัขกลางถนน จากไร้เจ้าของกลายเป็นขวัญใจชาวเน็ต
สุนัขพันธุ์ไทย เพศเมีย สีน้ำตาล นั่ง ๆ นอน ๆ ชะเง้อคล้ายกับรอคอยเจ้าของมารับตัวกลับบ้าน อยู่บนริมถนนด้านขวา ถนนสุขุมวิท ช่วงจันทบุรี - ตราด กิโลเมตรที่ 345.200 ต.คมบาง อ.เมือง จ.จันทบุรี ที่ชาวบ้านระบุว่า อยู่อาศัยบริเวณนี้มานานกว่า 1 เดือนแล้ว ชาวบ้านและผู้ใช้รถใช้ถนนเห็นแล้วเกิดความสงสาร จึงได้มีการถ่ายรูปสุนัขตัวนี้ไปโพสต์ในสื่อออนไลน์ เพื่อตามหาเจ้าของมารับสุนัขกลับไป และได้มีการนำข้าว นำน้ำมาให้สุนัขตัวนี้ได้กินเป็นอาหาร แต่เมื่อชาวบ้านบางคนอยากนำมันไปเลี้ยงกลับวิ่งหลบหนี
หลังถูกแชร์บนโลกออนไลน์จนเป็นข่าว วันที่ 14 ก.ย. ได้มีคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของสุนัข 3 ราย แสดงตัวเป็นเจ้าของ เรียกชื่อสุนัขของตัวเอง ผลปรากฏว่า เจ้าหลงไม่ตอบสนองที่จะดีใจ หรือวิ่งเข้าหาแม้แต่รายเดียว ทำให้ทั้งหมดถอดใจ และเดินทางกลับภูมิลำเนาไปแล้ว โดยชาวบ้านนอกจากจะให้อาหารและน้ำแล้ว ก็พยายามที่จะให้เจ้าหลงไปเลี้ยงดูในที่ปลอดภัย เนื่องจากเจ้าหลงอยู่บนเกาะกลางถนน เสี่ยงจะถูกรถชน
อันดับ 4 : “น้องบอส” เฉลยสายรหัส จมน้ำปอดติดเชื้อ - ครูปาแก้ว “น้องทราย” เสียโฉม
กรณีสะเทือนวงการการศึกษาในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา “น้องบอส” นายโชคชัย ทองเนื้อขาว อายุ 19 ปี นิสิตชั้นปีที่ 1 หลักสูตรการขนส่งทางทะเล วิทยาลัยพาณิชยนาวีนานาชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จ.ชลบุรี จมน้ำบริเวณสระกักเก็บน้ำ หรือแก้มลิงของมหาวิทยาลัย หลังมีกิจกรรมพี่พบน้องเพื่อ “เฉลยสายรหัส” จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลชลบุรี และทางแพทย์ระบุว่า มีอาการปอดติดเชื้อ ต้องเข้าห้อง ไอ.ซี.ยู. ล่าสุด มีอาการดีขึ้น แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ในเรื่องปอดติดเชื้อ รวมถึงเรื่องสมองที่ต้องมีการตรวจเช็กอย่างละเอียดเป็นระยะ
ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชี้แจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ทำกิจกรรมเฉลยสายรหัส ซึ่งมีการขออนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย และมีอาจารย์คอยดูแล 2 คน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นช่วงที่ทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ซึ่งเด็กบางคนไปล้างตัวกันที่บ่อรับน้ำฝน ก็มีกลุ่มของน้องบอสที่ลงไปล้างตัวในบ่อดังกล่าวและมีการว่ายน้ำ แต่ยังไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมถึงจมน้ำ มหาวิทยาลัยยอมรับความผิดพลาด พร้อมที่จะแก้ไขและเยียวยาในสิ่งที่ทำได้
อีกกรณีหนึ่งที่สะเทือนใจไม่แพ้กัน เกิดขึ้นเมื่อ น.ส.นฤดี จอดสันเทียะ หรือ น้องทราย นักเรียน ม.5 โรงเรียนโชคชัยสามัคคี อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา โพสต์เฟซบุ๊กร้องเรียนว่าถูก นายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ครูพลศึกษาขว้างปาถ้วยแก้วถูกกกหูด้านซ้าย ทำให้ได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อบวมทับเส้นประสาทคู่ที่ 7 ส่งผลให้ใบหน้าเสียโฉม ปากเบี้ยว ตาซ้ายปิดไม่สนิท เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 31 ได้มีคำสั่งย้ายนายไพฑูรย์ ไปช่วยราชการที่โรงเรียนบุญวัฒนา
คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงได้ระบุผลการสอบสวนว่า นายไพฑูรย์ ได้โยนแก้วน้ำใส่กลุ่มเด็กนักเรียนจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาที่จะโยนไปถูกตัวนักเรียน โทษคือเป็นความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ส่วนตำรวจ สภ.โชคชัย ระบุว่า นายไพฑูรย์ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาคดีอาญาในข้อหาทำร้ายร่างกาย ก่อนหน้านี้ ฝ่ายผู้เสียหายเรียกเงินไป 300,000 บาท แต่ฝ่ายครูยอมจ่ายให้ 100,000 บาท พร้อมค่ารักษาพยาบาล แต่ตกลงกันไม่ได้ ขณะที่มูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ร่วมกับโรงพยาบาลยันฮี ให้การช่วยเหลือและรับรักษาแล้ว
อันดับ 5 : เมืองทอง VS ท่าเรือ กราวกีฬาเลือดอาบ แค้นนี้ต้องชำระ
เกิดเหตุสะเทือนขวัญในวงการฟุตบอลเมืองไทยอีกครั้ง เมื่อคืนวันที่ 14 ก.ย. แฟนบอลของสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ การท่าเรือ เอฟซี ปะทะกันหลังจบเกม โตโยต้า ลีก คัพ ที่เจ้าบ้านเสมอ 1-1 แต่ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยผลประตูรวม 3-2 โดยแฟนบอลของทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกันบริเวณด้านนอกสนามริมทางด่วนอุดรรัถยา (บางปะอิน - แจ้งวัฒนะ) ด่านเมืองทองธานี ขาเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจและทหารต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ มีแฟนบอลการท่าเรือ บาดเจ็บ 20 ราย สาหัส 3 ราย หลังเกิดเหตุ นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี เดินทางไปเยี่ยมแฟนบอลที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลชลประทาน พร้อมขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลด้วยตัวเอง และแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ด้านสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกบทลงโทษให้ทั้งสองทีม หากกรณีเป็นทีมเหย้าซึ่งจะต้องทำการแข่งขันในสโมสรของตนเองในฐานะเจ้าบ้านนั้น ให้ไปทำการแข่งขันในสนามทีมเยือนแทน โดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ชี้แจงภายหลังว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์เช่นนั้นอีก และเหตุการณ์เช่นนั้นมันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อทีมอื่น เชื่อว่า อาจจะเกิดบุคคล กลุ่มคนฉกฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ให้เลวร้าย และทำให้ทั้งสองทีมได้รับผลกระทบ ซึ่งทั้งสองทีมสามารถหาสนามกลางเป็นสนามจัดการแข่งขันแทนสนามของสโมสรเองได้ แต่ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง และไม่อนุญาตให้แฟนบอลของตนเข้าไปดูการแข่งขันในแมตช์นั้น ๆ
สำหรับกรณีความขัดแย้งระหว่างแฟนบอลต่างสโมสรนั้น ที่ผ่านมา แฟนบอลของสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มักจะมีปัญหากับสโมสรคู่แข่งเป็นประจำ โดยนอกจากสโมสรการท่าเรือ เอฟซี แล้ว ยังเคยมีปัญหากับสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, สโมสรชลบุรี เอฟซี ฯลฯ และมักจะตกเป็นข่าว แม้จะมีการแก้ปัญหาทั้งการจัดโซนที่นั่ง รวมทั้งมาตรการรักษาความปลอดภัย แต่ก็เกิดปัญหาเดิม ๆ ซ้ำรอยอีกครั้งจนถึงทุกวันนี้
อันดับ 6 : พาราลิมปิกไทยใกล้คว้าชัย 6 เหรียญทอง “ริโอเกมส์” ทำลายสถิติซิดนีย์
แม้กระแสจะเป็นที่พูดถึงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จบลงก่อนหน้านี้ แต่การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ 2016 ที่นครริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล นักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยสร้างชื่อเสียง ทำลายสถิติการคว้าเหรียญรางวัลของทัพกีฬาคนพิการทีมชาติไทยที่เคยทำได้มากที่สุด ในพาราลิมปิกเกมส์ ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2543
โดย ณ วันที่ 16 ก.ย. ไทยคว้ามาได้ 5 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง และยังมีนักกีฬาที่จะได้เหรียญทอง และเหรียญเงินเพิ่มแน่นอนแล้วอย่างละ 1 เหรียญ จากการแข่งขัน บอคเซีย รุ่นทีมผสม บีซี 2 ซึ่งทีมชาติไทย วรวุฒิ แสงอำภา แชมป์โลกรุ่นนี้ เข้าชิงกันเองกับ วัชรพล วงษา
โดยนักกีฬาคว้าเหรียญทองมาได้ประกอบด้วย ประวัติ วะโฮรัมย์ (2 เหรียญทอง จากกรีฑา 5,000 เมตร ชาย และ วีลแชร์ เรซซิ่ง 1,500 เมตร ชาย), พงศกร แปยอ (2 เหรียญทอง จากกรีฑา 400 เมตร ชาย และ วีลแชร์ เรซซิ่ง 800 เมตร ชาย และ 1 เหรียญเงิน จากกรีฑา 100 เมตร ชาย) และทีมจากบอคเซีย รุ่นทีมผสม บีซี 1 - 2 โดย พัทธยา เทศทอง, วัชรพล วงษา, วรวุฒิ แสงอำภา และ สุบิน ทิพย์มะณี
ส่วนเหรียญเงิน ได้มาจาก พงศกร แปยอ, สายสุนีย์ จ๊ะนัะ จากฟันดาบเอเป้ บุคคลหญิง, หาญฤชัย เนตศิริ จากยิงธนู ประเภทคันธนูโค้งกลับ บุคคลชาย, สายชล คนเจน (1 เหรียญเงิน จาก วีลแชร์ เรซซิ่ง 800 เมตร ชาย และ 1 เหรียญทองแดง จากวีลแชร์ เรซซิ่ง 1,500 เมตร ชาย) ส่วนเหรียญทองแดง ได้มาจาก รุ่งโรจน์ ไทยนิยม จากเทเบิลเทนนิส รุ่น ซี 6 ชายเดี่ยว, ทีมจาก บอคเซีย รุ่นคู่ บีซี 4 โดย เฉลิมพล ตันบุตร, พรโชค ลาภเย็น และ นวลจันทร์ พลศิลา, สายชล คนเจน และ พิชญา คูรัตนศิริ จากวีลแชร์ เรซซิ่ง 1,500 เมตร
อันดับ 7 : อวสานไอซีที กระทรวงใหม่ “ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม”
หลังจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ก่อตั้งมาได้ 13 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2545 ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแวดวงข้าราชการ เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ได้มีการโปรดเกล้าฯ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2559 เปลี่ยนชื่อกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เป็น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้แก่ สำนักงานรัฐมนตรี, สำนักงานปลัดกระทรวง, กรมอุตุนิยมวิทยา, สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ สำนักงานสถิติแห่งชาติ แต่ได้ย้ายศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย
ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ก.ย. รับทราบการขอแจ้งลาออกจากตำแหน่งของ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) แล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า จำเป็นต้องออก เพราะเป็นไปตาม พ.ร.บ. ตั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีผลบังคับใช้แล้วจึงต้องออกก่อน ประกอบกับที่มีการเปลี่ยนชื่อกระทรวงก็ต้องเปลี่ยนตัว โดยให้ พล.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีรักษาการไปก่อน
สำหรับการเปิดตัวกระทรวงดิจิทัลฯ นั้น ได้มีการเผยแพร่ตราสัญลักษณ์ของกระทรวงใหม่ ที่กรมศิลปากรออกแบบให้ โดยใช้พระพุธอยู่กึ่งกลาง พระหัตถ์ซ้ายถือคัมภีร์ และพระหัตถ์ขวาเปล่งรัศมีเป็นวงแทนคลื่นดิจิทัล ในโลกโซเชียลได้มีการวิจารณ์ตราสัญลักษณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งสวยงามและไม่สวยบ้าง โดยเสนอให้เอากรอบวงกลมออกเหมือนหลายหน่วยงาน บ้างก็เปรียบเหมือน “พระพุธ” ถือแท็บเล็ตปล่อยสัญญาณไว-ไฟ ก็มี
