สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วศท.) และกรมโยธาธิการและผังเมือง เข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ถล่ม หลังตลาดประชานิเวศน์ 1
วันที่ 8 กันยายน 2559 นายเกรียงศักดิ์ จันทรา วิศวกรใหญ่ กรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยว่า อาคารที่เกิดเหตุมีทั้งหมด 177 ยูนิต พบอยู่ใน 19 กลุ่มอาคารที่อยู่ในความเสี่ยง โดยในส่วนอาคารที่เกิดเหตุมีทั้งสิ้น 14 ยูนิต ให้เช่ามาแล้วกว่า 30 ปี โดยหลังจากที่ทางคณะวิศวกร จาก ม.มหิดล เข้ามาตรวจสอบ พบความไม่ปลอดภัย ก็ได้มีการแจ้งให้ผู้เช่าเพื่อให้เร่งย้ายออก รวมทั้งใช้กฎหมายทางแพ่ง และ พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร ซึ่งทางกรุงเทพมหานคร มีกำหนดจะรื้อถอนอาคารนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ผู้เช่ายังไม่มีการย้ายออกไป
สำหรับสาเหตุที่อาคารถล่ม คาดว่า เกิดจากความไม่มั่นคง และสภาพอาคารที่เก่า ส่วนการที่ฝนตกลงมาจนทำให้ปูนมีการอุ้มน้ ำก็ถือว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากอาคารมีความไม่ปลอดภัยอยู่แล้ว โดยจะมีการเชิญผู้ที่อาศัยอยุ่ในอาคารทั้งหมด 177 ยูนิต มาประชุม เพื่อทำความเข้าใจ เรื่องการย้ายออก ทั้งการทุบอาคารทั้งหมดเพื่อปรับปรุงใหม่
ด้าน นายไชยณัฐ เจติยานุวัตร ผู้อำนวยการสำนักงานตลาด กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า อาคารทั้งหมด หมดสัญญาเช่าไปแล้ว 14 ยูนิตที่เกิดเหตุ ทางสำนักงานตลาด ไม่มีการเก็บค่าเช่าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558 แต่กรณีที่ผู้ถือสัญญาเช่าเดิม นำมาให้เช่าต่อ ก็ต้องไปพิจารณาถึงข้อกฎหมายอีกครั้งว่า มีความผิดตามหลักการหรือไม่ ทั้งนี้ ตามสัญญาอาคารที่ยังไม่หมดสัญญาเช่า สามารถปล่อยให้เช่าช่วงต่อได้ ส่วนอาคารที่หมดสัญญาเช่าไปแล้ว และเปิดให้เช่าต่อก็ต้องพิจารณาอีกครั้ง
ผู้อำนวยการสำนักงานตลาด กล่าวว่า ปัจจุบันผู้เช่าอยู่มีทั้งผู้ถือสัญญาเดิม และผู้เช่าต่อ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการทำหนังสือชี้แจง และขอให้ออกจากพื้นที่ เป็นรายบุคคลมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง นอกจากนี้ ยังได้มีการเชิญให้ไปประชุม เพื่อทำความเข้าใจ แต่ผู้เช่าก็ยังคงที่จะอาศัยอยุ่ ส่วนกรณีผู้เช่าที่เดิม ให้ผู้อื่นเช่าช่วงต่อและยังคงไปเก็บค่าเช่า ทั้ง ๆ ที่สำนักงานตลาด ไม่ได้เก็บค่าเช่ามานานแล้ว ก็จำเป็นต้องไปดูที่ข้อกฎหมายและข้อสัญญา ว่าจะมีการดำดนินคดีทางกฏหมายหรือไม่ เนื่องจากสัญญาได้หมดลง
โดยทาง สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร วิศวกรรมสถาน แห่งประเทศไทย และกรมโยธาธิการและผังเมือง จะมีการประชุมในช่วงบ่ายวันนี้