ธนาคารกสิกรไทย ยอมชดใช้เงินเต็มจำนวน 986,700 บาท แก่หนุ่มเจ้าของร้านประดับยนต์ที่ถูกคนร้ายลักลอบโอนเงินออกจากบัญชีผ่านระบบ K-Cyber Banking รองกรรมการผู้จัดการ เผย แม้ไม่ใช่ความผิดพลาดของธนาคาร แต่ในฐานะผู้ให้บริการต้องร่วมรับผิดชอบ พร้อมร่วมมือกับแบงก์อื่นหาแนวทางอุดช่องโหว่
ความคืบหน้ากรณี นายพันธ์สุธี มีลือกิจ เจ้าของร้านประดับยนต์ ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกมิจฉาชีพเข้าไปลักลอบโอนเงินในบัญชีธนคารกสิกรไทย ผ่าน K-Cyber Banking จนเงินฝากในบัญชีที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิตจำนวน 986,758 บาท เหลือเพียง 58 บาท และได้ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่คดีไม่คืบหน้า จนต้องไปนั่งประท้วงที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุด มีรายงานว่า วันนี้ ธนาคารกสิกรไทยได้ยินยอมจ่ายเงินชดเชยให้นายพันธ์สุธี เต็มจำนวน 986,700 บาทที่ถูกลักลอบโอนออกไปแล้ว เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายอดิศวร์ หลายชูไทย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย ได้เปิดเผยว่า ธนาคารรู้สึกเสียใจต่อกรณีดังกล่าว และเห็นใจนายพันธ์สุธี ที่ประกอบอาชีพสุจริต แต่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรอย่างไม่รู้ตัว ดังนั้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ธนาคารยินดีรับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าวทั้งจำนวน 986,700 บาท เพื่อให้นายพันธ์สุธีสามารถนำเงินไปดำรงชีพ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัวต่อไปได้
นายอดิศวร์ กล่าวอีกว่า การที่อาชญากรสามารถยักยอกเงินจากบัญชีลูกค้าไปได้ แม้จะไม่ใช่ความผิดพลาด หรือข้อบกพร่องของระบบไอที หรือไม่ใช่การเจาะระบบเพื่อเอาข้อมูลจากธนาคาร (Hack) แต่เป็นความพยายามในการหาช่องทางภายนอกธนาคาร เพื่อกระทำการทุจริตต่อลูกค้าธนาคาร ธนาคารกสิกรไทยในฐานะธนาคารผู้ให้บริการ และเป็นเจ้าของบริการมีหน้าที่รับผิดชอบส่วนหนึ่งในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นกับลูกค้ารายอื่นอีก รวมทั้งหาแนวทางความร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์อื่นในการอุดช่องโหว่ของบริการ และร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามผู้กระทำผิดให้ได้ เพื่อไม่ให้ไปก่ออาชญากรรมในลักษณะนี้หรือรูปแบบอื่น ๆ กับประชาชนที่บริสุทธิ์ต่อไป
กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากนายพันธ์สุธี ถูกมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นลูกค้าติดต่อขอซื้อสินค้า โดยขอหมายเลขบัญชีธนาคาร เพื่อโอนเงินค่าสินค้ามาให้ พร้อมขอสำเนาบัตรประชาชนเพื่อยืนยันว่า เป็นนายพันธุ์สุธีจริง หลังจากนั้น ได้ชักชวนให้นายพันธุ์สุธีทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบ K-Cyber Banking ของธนาคารกสิกรไทย โดยอ้างว่า เพื่อความสะดวกในการโอนเงิน ต่อมาคนร้ายได้ไปขอซิมโทรศัพท์เป็นเบอร์ของนายพันธุ์สุธีใหม่ ที่เคาน์เตอร์ของทรู โดยอ้างว่าซิมเดิมหาย เมื่อได้ซิมมาใหม่คนร้ายจึงล็อกอินเข้าระบบ K-Cyber Banking และทำการโอนเงินออกจากบัญชีนายพันธุ์สุธีไปเข้าบัญชีของคนร้าย โดยใช้เบอร์โทรศัพท์ที่ได้มาใหม่รับรหัส OTP ยืนยันการโอนเงิน ซึ่งกว่านายพันธุ์สุธีจะรู้ตัว เงินในบัญชีเกือบ 1 ล้านบาท ก็เหลือเพียง 58 บาท