เพจเฟซบุ๊ก “ตำรวจไทย สู้ๆ” วอนเห็นใจตำรวจชั้นผู้น้อย จ่าย 2 หมื่นกว่าบาท หวังได้ปืนสวัสดิการราคาถูก ที่จัดซื้อสมัย “สมยศ” นั่ง ผบ.ตร. แต่ถึงกำหนดแล้วยังไร้วี่แววจัดส่งของ ทางด้านบริษัทผู้ผลิตปืนอ้างเหตุกราดยิงไนต์คลับ - ฆ่าตำรวจ ที่สหรัฐฯ ทำให้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับอาวุธปืนชะงัก ต้องรอสภาเปิดพิจารณา ยันส่งให้ได้ก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดี
วันนี้ (1 ส.ค.) ทางเพจเฟซบุ๊ก “ตำรวจไทย สู้ๆ” ได้โพสต์ขอความเห็นใจตำรวจชั้นผู้น้อย ที่จ่ายเงิน 2 หมื่นกว่าบาท เพื่อซื้อปืนสวัสดิการ ซึ่งจัดซื้อสมัย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แต่ถึงกำหนดยังไร้วี่แววว่าจะได้ของ
มีรายละเอียดว่า “ใครๆ ก็อยากได้ปืนถูก ตั้งแต่ นายสิบ ถึงนายพลฯ ต่างโอนเงินค่าปืนให้บริษัทตัวแทนคนล่ะ 2 หมื่นกว่าบาท ถึงกำหนดนัดรับปืน แต่ก็ยังไร้วี่แวว ใช่ครับ... เงินจำนวนนี้อาจจะน้อยสำหรับใครบางคน
แต่สำหรับตำรวจชั้นผู้น้อยอีกหลายคน มันคงเป็นจำนวนที่มากพอสมควร บางคนมีเงินเก็บก็กดมา บ้างก็เอาเงินอนาคตมาใช้ บางคนถึงขนาดกู้เงินมาซื้อเลยยังมี เพราะหวังว่าจะมีปืนใช้เป็นของตัวเองสักที หลังจากยืมของหลวงมานานหลาย 10 ปี เห็นใจเถอะครับ ตำรวจทุกคนต่างมีภาระ”
ทางด้านเพจเฟซบุ๊กของบริษัท ซิกซาวเออร์ ประจำประเทศไทย “Sig Sauer Thailand” ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตปืนจากสหรัฐอเมริกา ที่ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ในโครงการจัดหาอาวุธปืนพกสั้น เพื่อเป็นสวัสดิการข้าราชการตำรวจ จำนวน 152,468 กระบอก ตั้งแต่ปี 2558 โพสต์ว่า “ข่าวความคืบหน้าครับ ทางรองประธานโรงงานซิกเดินทางมาพบผมที่บริษัทฯ แจ้งข่าวว่า จากเหตุการณ์ยิงกันที่เมือง โอรันโด้ และ เหตุการณ์ ยิงตำรวจเสียชีวิต 5 นาย ที่เมือง ดัลลัส ฯลฯ ทำให้ทางการสหรัฐฯ ยังไม่รับพิจารณาเรื่องอาวุธปืนของทุก ๆ โรงงาน จนกว่าจะออกมาตรการใหม่เกี่ยวกับอาวุธปืนครับ ทำให้เรื่องยังไม่ได้รับการพิจาณาในเดือนกรกฎาคมครับ ตอนนี้สภาปิดพักการประชุม 2 เดือน แต่ทางโรงงานก็ยังยืนยันว่าจะสามารถส่งปืนได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯครับ คาดว่า ประมาณตุลาคม ครับ ทางโรงงานจะมีหนังสือแจ้งให้ ตร. ทราบเป็นทางการต่อไปครับ และขออภัยในความล่าช้า อันเป็นเหตุสุดวิสัยมา ณ โอกาสนี้
ขออนุญาตไม่ตอบคำถามในใต้โพสต์นะครับ หากมีข้อสงสัยประการใด กรุณาติดต่อผมทางข้อความส่วนตัวนะครับ ทางโรงงานไม่อยากให้มีการต่อว่าต่อขานกันในหน้าสาธารณะ เนื่องจากอาจกระทบกระเทือนต่อการขออนุญาตครับ”
