แม้มุมมองของคนไทยหลายคน อาจจะยังมองสาวไทยที่คบหาดูใจกับหนุ่มต่างชาติในแง่ลบต่างๆ นานา แต่ทว่าก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรเลยกับคู่รักคู่นี้ และดูเหมือนว่าชีวิตของเธอกับแฟนหนุ่มชาวต่างชาติที่โพสต์ลงเฟซบุ๊กในแต่ละวัน จะทำให้คนที่ติดตามหลายหมื่นคนมีความสุขใจตามไปด้วย
“ผึ้ง-สุภาวดี ไลลานี บูเตอเลอซ์” สาวเลือดอีสานที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์กับแฟนหนุ่มชาวฝรั่งเศส วัย 24 ปี ดิมิทรี ปาสกาล เจอราส์ อองรี บูเตอเลอซ์ นำเสนอตัวเองบนพื้นที่โซเชียล พร้อมกับลุคแบบบ้านๆ ติดดินและดูมีความสุขสนุกสนาน และนั่นก็ทำให้มีคนเข้ามาติดตามวิถีชีวิตของเธอด้วยความชื่นชอบ เป็นคู่รักอีกคู่ที่ดูน่ารักและเป็นที่รักของคนบนโลกออนไลน์...
• มีคนติดตามจำนวนไม่น้อยทางเฟซบุ๊ก เพราะคนส่วนใหญ่ชื่นชอบเรากับแฟนชาวต่างชาติ ด้วยลุคที่ดูติดดิน ตรงนี้เรารู้สึกอย่างไรบ้างคะ
ความรู้สึกตอนแรกที่เรื่องราวของเราทั้งสองคนได้เป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์ก็รู้สึกแปลกใจมากเลยนะคะ ไม่คิดว่ามันจะไปไกลขนาดนี้ (ยิ้ม)
เราสองคนใช้ชีวิตแบบบ้านๆ จริงๆ ค่ะ และเรื่องราวที่สื่อออกมาแต่ละวัน มันคือเรื่องราวจริงที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ส่วนก่อนหน้านี้ไม่ได้วางแผนอะไรแบบจริงจังเลยนะคะว่าอยากให้ชีวิตออกมายังไง เพราะหนูเป็นคนง่ายๆ สบายๆ กับชีวิต ไม่ชอบคิดอะไรมาก อีกอย่าง หนูมีในสิ่งที่หนูคิดว่าชีวิตหนูควรมีแล้ว จึงไม่ได้วางแผนอะไรมากค่ะ แค่ทำทุกๆ วันให้มีความสุขในแบบที่เราเป็นก็พอ
ส่วนตัวแล้ว ผึ้งชอบชีวิตแบบบ้านๆ ติดดินมากนะคะ รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่เป็นตัวตน ผึ้งชอบธรรมชาติ ชอบความเรียบง่าย ส่วนการใช้ชีวิตแบบสาวในเมือง ผึ้งก็สามารถทำได้นะคะ เพราะงานที่ผึ้งทำ เขาให้อิสระไม่เคยจ้องจับผิด แค่ถึงเวลาที่มีงานต้องทำให้เต็มที่สมกับที่เขาไว้วางใจเรา ผึ้งถือว่าตัวเองโชคดีมากนะคะที่ได้เข้ามาทำงานกับบริษัทนี้เพราะทุกคนน่ารักมาก และได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้นด้วยค่ะ
• คือเราดูเป็นคนจริงใจในการแสดงออกมาก ไม่ห่วงสวยเลย คิดว่าเพราะตรงนี้ใช่ไหมเลยทำให้คนชื่นชอบ
ผึ้งเป็นคนตลก เฮฮา ร่าเริง เสียงดัง ชัดเจน โกรธยาก หรืออาจจะไม่เคยโกรธเลย ใจดี หลุดโลก (หัวเราะ) อีกอย่าง ผึ้งเป็นคนกล้าแสดงออกมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนเลยค่ะ ผึ้งจะเป็นนักแสดงของโรงเรียนและเป็นยอดนักพูด รวมทั้งเป็นประธานนักเรียนด้วยค่ะ ทำอะไรจะไม่เคยห่วงสวยเลย เพราะเวลาทำอะไรก็ตาม ผึ้งจะทุ่มเทให้กับสิ่งนั้นเต็มที่เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีออกมา (ยิ้ม)
• แล้วไม่ทราบไปเริ่มรู้จักแฟนชาวต่างชาติได้อย่างไรคะ เขาเป็นใครมาจากไหน
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผึ้งเป็นคนจังหวัดสุรินทร์โดยกำเนิด การศึกษา ผึ้งจบชั้น ม.3 จากโรงเรียนแถวบ้านค่ะ แล้วก็ไม่ได้เรียนต่อเพราะทางบ้านมีฐานะยากจน แต่เราก็เรียนต่อ กศน. ต่อจนจบ ม.6 แต่ยังไม่ได้วุฒิ เพราะตั้งแต่สอบครั้งสุดท้ายเสร็จ ก็รีบกลับไปทำงานเลยจนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีวุฒิ ม.6 เลยค่ะ ก่อนหน้านี้ ผึ้งเคยทำงานที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์บริษัทหนึ่งอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ทำในตำแหน่ง Sales Manager
ที่ผึ้งได้รู้จักกับสติ๊กหรือดิมิทรี (แฟนชาวต่างชาติ) แต่ผึ้งจะชอบเรียกเขาว่าสติ๊ก สติ๊กหรือภาษาอีสานในความหมายผึ้งคือ “จ่อยหลวมหลอด” (หัวเราะ) เพราะเขาผอมมาก Stick แปลว่า พวกกิ่งไม้ พวกไม้เรียวเล็กๆ ค่ะ ผึ้งไปพบเขาผ่านทางเฟซบุ๊กค่ะ เขาเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กของเพื่อนหนูอีกทีหนึ่ง สติ๊กเป็นชาวฝรั่งเศส อายุ 24 ปีค่ะ เขาทำงานให้กับบริษัทที่ฝรั่งเศสและแคนาดาเป็นเว็บมาสเตอร์และเขียนบทความให้เว็บไซต์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตค่ะ (ยิ้ม)
• เจอกันผ่านเฟซบุ๊กเหรอคะ? แล้วแบบนี้เราไปทำความรู้จักหรือมีวิธีมัดใจเขาได้อย่างไรคะ
วิธีการมัดใจสติ๊กก็คือความเป็นตัวตนของเราแบบไม่เสแสร้ง ไม่ค่อยโกรธ ตลก ดูแลใส่ใจซึ่งกันและกัน ให้เกียรติเขา ถึงแม้เขาจะอายุน้อยกว่าเรา แต่ผู้ชายก็ยังอยากเป็นผู้นำอยู่เสมอค่ะ และสติ๊กจะพูดเสมอๆ ว่า "เราเป็นคนใจดี ร่าเริง สวย ฉลาดและทำกับข้าวเก่ง” อันนี้เขาพูดเองนะคะ (หัวเราะ)
• ด้วยวิถีชีวิตที่แตกต่างกันทั้งเรื่องสัญชาติ วัฒนธรรมและภาษา ตอนแรกคิดว่าเขาจะอยู่กับเราได้ไหมคะ จากเริ่มแรกจนถึงปัจจุบันชีวิตคู่เปลี่ยนไปบ้างไหม
จะว่าไป สิ่งที่แตกต่างนี้ทำให้เราต้องปรับตัวเยอะพอสมควร ส่วนตัวผึ้งก็ไม่คิดว่าเขาจะทำได้ถึงขนาดนี้ ตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน เขาก็ปรับเปลี่ยนไปเยอะเลยค่ะ เพราะตอนที่ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่จังหวัดสุรินทร์ สติ๊กเองก็ไม่มีใครเลย นอกจากหนูที่พูดคุยกันเข้าใจ และเราต้องคอยสอนเขาอยู่เสมอว่าสิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนไม่ควรทำ แต่เขาเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่ายนะคะ เจอใครก็จะยกมือไหว้สวัสดีครับเสมอ แม้แต่เจ้าฮีโร่ (น้องหมา) ช่วงแรกสติ๊กยังยกมือไหว้ตลอดเลยค่ะ (หัวเราะ)
• ชีวิตคู่ต้องปรับกันพอสมควร ไม่ทราบว่าเรามีการใช้ชีวิตอย่างไร ช่วยเล่าในแต่ละวันให้ฟังหน่อยค่ะ ว่าเราทำอะไรบ้างตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน
แต่ละวัน ตื่นนอนมาผึ้งก็จัดเตรียมอาหารให้ทุกคนในครอบครัว สายๆ ก็ไปไร่ไปนาบ้าง เข้าสวนผักบ้าง พอเที่ยงๆ ก็จะเข้ามาปลุกสติ๊ก เขาจะนอนตื่นสายเพราะทำงานทั้งคืน เขานอนตี 4-5 ทุกคืน บ่ายๆ เราก็ไปทำนากันต่อ บางวันเหนื่อยก็ทำสวนรอบบ้าน พอตกเย็น แดดร่มลมตก เราก็จะพาน้องหมาขึ้นรถซาเล้งลงไปวิ่งเล่นที่ท้องทุ่งนาเกือบทุกวัน ซื้อขนมให้พวกเขาด้วย บางทีเราก็ไปหาหอยหาปูตามน้ำในทุ่งนาด้วยค่ะ
ที่ผ่านมา เราไม่ค่อยมีปัญหากันเท่าไหร่นะคะ เพราะผึ้งใช้ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว แต่ผึ้งจะพูดภาษาฝรั่งเศสไม่ได้ สติ๊กเองก็พูดไทยไม่ได้ แต่บางคำที่เขาไม่รู้ ผึ้งก็จะคอยสอนเขาค่ะ (ยิ้ม)
• เมื่อได้ใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว อะไรคือความสุขที่เกิดขึ้นในทุกๆ วันคะ
ความสุขในแบบของผึ้ง คือการใช้ชีวิตในแต่ละวัน แต่ละชั่วโมงให้มีความสุข ปล่อยวางเรื่องร้ายๆ คิดและทำในสิ่งดีๆ ทำในสิ่งที่เราชอบ ทำในสิ่งที่เราเป็น และทำในสิ่งที่เรารัก อีกอย่าง เสียงหัวเราะและรอยยิ้มคือสิ่งสำคัญต่อคนรอบข้างด้วยค่ะ เขาเหล่านั้นจะสัมผัสได้เวลาเราสื่อออกมาจากข้างใน (ยิ้ม)
ผึ้งว่าความสุขในแต่ละวันมันต้องเกิดมาจากความรู้สึก ความคิด และการกระทำของเรานะคะ เราสามารถทำเรื่องราวหลายๆ อย่างให้มีความสุขได้ด้วยตัวเราเอง ต้องคิดบวก มองโลกในแง่ดี ให้อภัย ความสุขก็จะเกิดขึ้น จริงๆ ความสุขมีอยู่มากมายรอบตัวเรา เพียงแค่เราก้าวออกไปมองสิ่งรอบข้างอย่างใส่ใจ คิดดีเข้าไว้ แต่ก่อนอื่นต้องยิ้มให้ตัวเองก่อน ใส่ใจตัวเอง เอาชนะใจตัวเองก่อน ถึงจะสามารถมอบความสุขให้คนอื่นๆ ได้
การที่เราจะผ่านเรื่องราวต่างๆ มาได้ มันต้องมีสิ่งที่ทำให้เราอยากผ่านมันไปได้ นั่นก็คือความรัก มองโลกในแง่ดี ปล่อยวาง เชื่อมั่นซึ่งกันและกัน และที่สำคัญคือกำลังใจค่ะ อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตในทุกวันอย่างมีความสุข มองเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย อย่ายึดติดกับวัตถุที่มันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง ชีวิตที่ไม่มีอะไรมาปรุงแต่งมากมายนั่นแหละคือชีวิตที่มีความสุขโดยแท้จริง และผึ้งก็เชื่อและทำแบบนั้นมาโดยตลอดค่ะ (ยิ้ม)
• อยากทราบทัศนคติของผึ้งหน่อยค่ะ ระหว่างชายไทยกับชาวต่างชาติต่างกันอย่างไร ทำไมถึงชอบหนุ่มต่างชาติ
ทัศนคติของหนูระหว่างชายไทยกับชาวต่างชาติที่แตกต่างกันก็คือ เท่าที่หนูได้คบมา หนูรู้สึกว่าชายต่างชาติเขามีความให้เกียรติเรามากกว่าชายไทย ต่างชาติเขาไม่เคยด่าหนู เขาไม่เคยดูถูกหนูในเรื่องต่างๆ เลย ชายไทยบางคนไม่เคยรู้จักเราเลย ไม่เคยเห็นกันมาก่อนเลย กลับพูดจาไม่ดีใส่เรา เพียงเพราะเรามีผิวคล้ำดำ กลับมองเราเป็นคนไม่ดีเสียแล้ว อีกอย่าง หนูคิดว่าชาวต่างชาติเขาขยันทำมาหากินค่ะ เขาจะคิดถึงอนาคตเสมอๆ ว่าวันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ แต่เหนืออื่นใด หนูชอบคนหล่อค่ะ ขาว สูง ผอม (หัวเราะ) นี่คือเหตุผลส่วนหนึ่งที่หนูชอบชายชาวต่างชาติ ไม่ได้ว่าชายไทยทุกคนไม่ดีนะคะ เพราะคนที่ดีก็ยังมี เพียงแค่หนูไม่เคยเจอแค่นั้นเอง
• แบบนี้เคยมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์แรงๆ บ้างไหมคะ เพราะยังมีคนไทยบางส่วนอาจมองหญิงไทยที่คบกับหนุ่มต่างชาติในแง่ลบ
กว่าผึ้งและสติ๊กจะผ่านเรื่องราวต่างๆ มาได้ก็ค่อนข้างหนักเหมือนกันค่ะ เพราะทุกคนย่อมผ่านการถูกมองในแง่ลบ ผ่านคำนินทา ผ่านการถูกใส่ร้ายป้ายสี ผ่านคำพูดไม่ดีที่สร้างผลกระทบทางจิตใจ เป็นเพราะอะไร เราก็ไม่อาจรู้ได้ถึงความรู้สึกนึกคิดของพวกเขา เพราะความคิดและจิตใจเป็นของเขา เราไม่สามารถทำให้คนอื่นคิดเหมือนเราหรือคิดถึงในความเป็นจริงที่เราเป็นได้ คนเราไม่เหมือนกันค่ะ แต่เราก็มีจิตใจที่แน่วแน่ ถึงผ่านจุดนั้นมาได้ โดยใช้การเชื่อใจและให้กำลังใจกัน และผึ้งก็เป็นคนโกรธใครไม่เป็นด้วย ที่สำคัญ เราทั้งสองไม่ได้ใส่ใจคำพูดของคนอื่น เพราะเราจะคิดตลอดว่า คำพูดร้ายๆ ลบๆ ของคนอื่นไม่ได้มีผลกระทบในการดำรงชีวิตของเราค่ะ (ยิ้ม)
อย่างเรื่องที่มีคนชอบมองว่าคนอีสานมักมีแฟนต่างชาติ ผึ้งว่าก็ไม่ทุกคนนะคะ เพราะคนที่เรารู้จัก เขาก็ยังชอบชายไทยอยู่นะ ไม่เห็นเขาคิดอยากได้แฟนชาวต่างชาติเลยค่ะ ตรงนี้น่าจะอยู่ที่ความชอบส่วนบุคคลมากกว่า และที่คนส่วนใหญ่มองว่าจับชาวต่างชาติเพราะหวังรวย อันนี้ขอบอกตามตรงเลยค่ะว่ามีส่วนที่จริงและไม่จริง บางคนฐานะทางบ้านยากจน ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตและความเป็นอยู่ของทุกคนทางบ้านดีขึ้น โดยยอมทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อครอบครัว จะใช้คำว่าหวังรวย ผึ้งว่ามันยังกว้างไปสำหรับพวกเขา น่าจะใช้คำว่าทำให้ฐานะและความเป็นอยู่ทางบ้านดีขึ้น จะดีกว่า
ส่วนอีกกรณีหนึ่งคือเขารักกันจากใจจริงๆ เงินทองไม่เกี่ยว ซึ่งสำหรับผึ้งก็อยู่ในกรณีนี้ค่ะ แต่โชคดีหน่อยที่หนุ่มชาวต่างชาติ ค่าเงินของเขาสูงกว่าไทยเรา เลยทำให้เขามีค่าในสายตาคนอื่นๆ แต่จริงๆ แฟนผึ้งก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนเราทั่วไปเลยนะคะ ชาวต่างชาติก็เหมือนคนไทยแหละค่ะ มีทั้งดีและไม่ดี ปะปนกันไป ก่อนที่จะคิดตัดสินใจใช้ชีวิตกับใคร เราก็ควรคิดให้ดีก่อน ไม่ว่าจะชาติไหนก็ตาม
• สุดท้ายแล้ว เราวางแผนอนาคตไว้อย่างไรบ้าง
ถ้าเรื่องชีวิตคู่ต่อจากนี้ชีวิตคู่เราจะเป็นยังไง ตรงนี้ผึ้งไม่สามารถมองเห็นอนาคตได้ค่ะแต่เราจะใช้ชีวิตและทำทุกๆ วันให้มีความสุข เราจะอยู่กับปัจจุบัน วันนี้ยังมีเรา เรายังมีกันและกันแค่นั้นพอค่ะ ส่วนเรื่องอื่นก็ยังไม่ได้วางแผนอะไร เพราะทุกวันนี้ เราภูมิใจในตัวเราแล้วตั้งแต่เกิดมา ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ได้ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ ได้ทำสิ่งที่ผ่านมาอย่างเต็มที่ก็พอ (ยิ้ม)
เรื่อง : วรัญญา งามขำ และ นงนุช พุดขาว
ภาพ : เฟซบุ๊ก Jessica Difford
“ผึ้ง-สุภาวดี ไลลานี บูเตอเลอซ์” สาวเลือดอีสานที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์กับแฟนหนุ่มชาวฝรั่งเศส วัย 24 ปี ดิมิทรี ปาสกาล เจอราส์ อองรี บูเตอเลอซ์ นำเสนอตัวเองบนพื้นที่โซเชียล พร้อมกับลุคแบบบ้านๆ ติดดินและดูมีความสุขสนุกสนาน และนั่นก็ทำให้มีคนเข้ามาติดตามวิถีชีวิตของเธอด้วยความชื่นชอบ เป็นคู่รักอีกคู่ที่ดูน่ารักและเป็นที่รักของคนบนโลกออนไลน์...
• มีคนติดตามจำนวนไม่น้อยทางเฟซบุ๊ก เพราะคนส่วนใหญ่ชื่นชอบเรากับแฟนชาวต่างชาติ ด้วยลุคที่ดูติดดิน ตรงนี้เรารู้สึกอย่างไรบ้างคะ
ความรู้สึกตอนแรกที่เรื่องราวของเราทั้งสองคนได้เป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์ก็รู้สึกแปลกใจมากเลยนะคะ ไม่คิดว่ามันจะไปไกลขนาดนี้ (ยิ้ม)
เราสองคนใช้ชีวิตแบบบ้านๆ จริงๆ ค่ะ และเรื่องราวที่สื่อออกมาแต่ละวัน มันคือเรื่องราวจริงที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ส่วนก่อนหน้านี้ไม่ได้วางแผนอะไรแบบจริงจังเลยนะคะว่าอยากให้ชีวิตออกมายังไง เพราะหนูเป็นคนง่ายๆ สบายๆ กับชีวิต ไม่ชอบคิดอะไรมาก อีกอย่าง หนูมีในสิ่งที่หนูคิดว่าชีวิตหนูควรมีแล้ว จึงไม่ได้วางแผนอะไรมากค่ะ แค่ทำทุกๆ วันให้มีความสุขในแบบที่เราเป็นก็พอ
ส่วนตัวแล้ว ผึ้งชอบชีวิตแบบบ้านๆ ติดดินมากนะคะ รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่เป็นตัวตน ผึ้งชอบธรรมชาติ ชอบความเรียบง่าย ส่วนการใช้ชีวิตแบบสาวในเมือง ผึ้งก็สามารถทำได้นะคะ เพราะงานที่ผึ้งทำ เขาให้อิสระไม่เคยจ้องจับผิด แค่ถึงเวลาที่มีงานต้องทำให้เต็มที่สมกับที่เขาไว้วางใจเรา ผึ้งถือว่าตัวเองโชคดีมากนะคะที่ได้เข้ามาทำงานกับบริษัทนี้เพราะทุกคนน่ารักมาก และได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้นด้วยค่ะ
• คือเราดูเป็นคนจริงใจในการแสดงออกมาก ไม่ห่วงสวยเลย คิดว่าเพราะตรงนี้ใช่ไหมเลยทำให้คนชื่นชอบ
ผึ้งเป็นคนตลก เฮฮา ร่าเริง เสียงดัง ชัดเจน โกรธยาก หรืออาจจะไม่เคยโกรธเลย ใจดี หลุดโลก (หัวเราะ) อีกอย่าง ผึ้งเป็นคนกล้าแสดงออกมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนเลยค่ะ ผึ้งจะเป็นนักแสดงของโรงเรียนและเป็นยอดนักพูด รวมทั้งเป็นประธานนักเรียนด้วยค่ะ ทำอะไรจะไม่เคยห่วงสวยเลย เพราะเวลาทำอะไรก็ตาม ผึ้งจะทุ่มเทให้กับสิ่งนั้นเต็มที่เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีออกมา (ยิ้ม)
• แล้วไม่ทราบไปเริ่มรู้จักแฟนชาวต่างชาติได้อย่างไรคะ เขาเป็นใครมาจากไหน
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผึ้งเป็นคนจังหวัดสุรินทร์โดยกำเนิด การศึกษา ผึ้งจบชั้น ม.3 จากโรงเรียนแถวบ้านค่ะ แล้วก็ไม่ได้เรียนต่อเพราะทางบ้านมีฐานะยากจน แต่เราก็เรียนต่อ กศน. ต่อจนจบ ม.6 แต่ยังไม่ได้วุฒิ เพราะตั้งแต่สอบครั้งสุดท้ายเสร็จ ก็รีบกลับไปทำงานเลยจนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีวุฒิ ม.6 เลยค่ะ ก่อนหน้านี้ ผึ้งเคยทำงานที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์บริษัทหนึ่งอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ทำในตำแหน่ง Sales Manager
ที่ผึ้งได้รู้จักกับสติ๊กหรือดิมิทรี (แฟนชาวต่างชาติ) แต่ผึ้งจะชอบเรียกเขาว่าสติ๊ก สติ๊กหรือภาษาอีสานในความหมายผึ้งคือ “จ่อยหลวมหลอด” (หัวเราะ) เพราะเขาผอมมาก Stick แปลว่า พวกกิ่งไม้ พวกไม้เรียวเล็กๆ ค่ะ ผึ้งไปพบเขาผ่านทางเฟซบุ๊กค่ะ เขาเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กของเพื่อนหนูอีกทีหนึ่ง สติ๊กเป็นชาวฝรั่งเศส อายุ 24 ปีค่ะ เขาทำงานให้กับบริษัทที่ฝรั่งเศสและแคนาดาเป็นเว็บมาสเตอร์และเขียนบทความให้เว็บไซต์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตค่ะ (ยิ้ม)
• เจอกันผ่านเฟซบุ๊กเหรอคะ? แล้วแบบนี้เราไปทำความรู้จักหรือมีวิธีมัดใจเขาได้อย่างไรคะ
วิธีการมัดใจสติ๊กก็คือความเป็นตัวตนของเราแบบไม่เสแสร้ง ไม่ค่อยโกรธ ตลก ดูแลใส่ใจซึ่งกันและกัน ให้เกียรติเขา ถึงแม้เขาจะอายุน้อยกว่าเรา แต่ผู้ชายก็ยังอยากเป็นผู้นำอยู่เสมอค่ะ และสติ๊กจะพูดเสมอๆ ว่า "เราเป็นคนใจดี ร่าเริง สวย ฉลาดและทำกับข้าวเก่ง” อันนี้เขาพูดเองนะคะ (หัวเราะ)
• ด้วยวิถีชีวิตที่แตกต่างกันทั้งเรื่องสัญชาติ วัฒนธรรมและภาษา ตอนแรกคิดว่าเขาจะอยู่กับเราได้ไหมคะ จากเริ่มแรกจนถึงปัจจุบันชีวิตคู่เปลี่ยนไปบ้างไหม
จะว่าไป สิ่งที่แตกต่างนี้ทำให้เราต้องปรับตัวเยอะพอสมควร ส่วนตัวผึ้งก็ไม่คิดว่าเขาจะทำได้ถึงขนาดนี้ ตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน เขาก็ปรับเปลี่ยนไปเยอะเลยค่ะ เพราะตอนที่ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่จังหวัดสุรินทร์ สติ๊กเองก็ไม่มีใครเลย นอกจากหนูที่พูดคุยกันเข้าใจ และเราต้องคอยสอนเขาอยู่เสมอว่าสิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนไม่ควรทำ แต่เขาเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่ายนะคะ เจอใครก็จะยกมือไหว้สวัสดีครับเสมอ แม้แต่เจ้าฮีโร่ (น้องหมา) ช่วงแรกสติ๊กยังยกมือไหว้ตลอดเลยค่ะ (หัวเราะ)
• ชีวิตคู่ต้องปรับกันพอสมควร ไม่ทราบว่าเรามีการใช้ชีวิตอย่างไร ช่วยเล่าในแต่ละวันให้ฟังหน่อยค่ะ ว่าเราทำอะไรบ้างตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน
แต่ละวัน ตื่นนอนมาผึ้งก็จัดเตรียมอาหารให้ทุกคนในครอบครัว สายๆ ก็ไปไร่ไปนาบ้าง เข้าสวนผักบ้าง พอเที่ยงๆ ก็จะเข้ามาปลุกสติ๊ก เขาจะนอนตื่นสายเพราะทำงานทั้งคืน เขานอนตี 4-5 ทุกคืน บ่ายๆ เราก็ไปทำนากันต่อ บางวันเหนื่อยก็ทำสวนรอบบ้าน พอตกเย็น แดดร่มลมตก เราก็จะพาน้องหมาขึ้นรถซาเล้งลงไปวิ่งเล่นที่ท้องทุ่งนาเกือบทุกวัน ซื้อขนมให้พวกเขาด้วย บางทีเราก็ไปหาหอยหาปูตามน้ำในทุ่งนาด้วยค่ะ
ที่ผ่านมา เราไม่ค่อยมีปัญหากันเท่าไหร่นะคะ เพราะผึ้งใช้ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว แต่ผึ้งจะพูดภาษาฝรั่งเศสไม่ได้ สติ๊กเองก็พูดไทยไม่ได้ แต่บางคำที่เขาไม่รู้ ผึ้งก็จะคอยสอนเขาค่ะ (ยิ้ม)
• เมื่อได้ใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว อะไรคือความสุขที่เกิดขึ้นในทุกๆ วันคะ
ความสุขในแบบของผึ้ง คือการใช้ชีวิตในแต่ละวัน แต่ละชั่วโมงให้มีความสุข ปล่อยวางเรื่องร้ายๆ คิดและทำในสิ่งดีๆ ทำในสิ่งที่เราชอบ ทำในสิ่งที่เราเป็น และทำในสิ่งที่เรารัก อีกอย่าง เสียงหัวเราะและรอยยิ้มคือสิ่งสำคัญต่อคนรอบข้างด้วยค่ะ เขาเหล่านั้นจะสัมผัสได้เวลาเราสื่อออกมาจากข้างใน (ยิ้ม)
ผึ้งว่าความสุขในแต่ละวันมันต้องเกิดมาจากความรู้สึก ความคิด และการกระทำของเรานะคะ เราสามารถทำเรื่องราวหลายๆ อย่างให้มีความสุขได้ด้วยตัวเราเอง ต้องคิดบวก มองโลกในแง่ดี ให้อภัย ความสุขก็จะเกิดขึ้น จริงๆ ความสุขมีอยู่มากมายรอบตัวเรา เพียงแค่เราก้าวออกไปมองสิ่งรอบข้างอย่างใส่ใจ คิดดีเข้าไว้ แต่ก่อนอื่นต้องยิ้มให้ตัวเองก่อน ใส่ใจตัวเอง เอาชนะใจตัวเองก่อน ถึงจะสามารถมอบความสุขให้คนอื่นๆ ได้
การที่เราจะผ่านเรื่องราวต่างๆ มาได้ มันต้องมีสิ่งที่ทำให้เราอยากผ่านมันไปได้ นั่นก็คือความรัก มองโลกในแง่ดี ปล่อยวาง เชื่อมั่นซึ่งกันและกัน และที่สำคัญคือกำลังใจค่ะ อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตในทุกวันอย่างมีความสุข มองเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย อย่ายึดติดกับวัตถุที่มันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง ชีวิตที่ไม่มีอะไรมาปรุงแต่งมากมายนั่นแหละคือชีวิตที่มีความสุขโดยแท้จริง และผึ้งก็เชื่อและทำแบบนั้นมาโดยตลอดค่ะ (ยิ้ม)
• อยากทราบทัศนคติของผึ้งหน่อยค่ะ ระหว่างชายไทยกับชาวต่างชาติต่างกันอย่างไร ทำไมถึงชอบหนุ่มต่างชาติ
ทัศนคติของหนูระหว่างชายไทยกับชาวต่างชาติที่แตกต่างกันก็คือ เท่าที่หนูได้คบมา หนูรู้สึกว่าชายต่างชาติเขามีความให้เกียรติเรามากกว่าชายไทย ต่างชาติเขาไม่เคยด่าหนู เขาไม่เคยดูถูกหนูในเรื่องต่างๆ เลย ชายไทยบางคนไม่เคยรู้จักเราเลย ไม่เคยเห็นกันมาก่อนเลย กลับพูดจาไม่ดีใส่เรา เพียงเพราะเรามีผิวคล้ำดำ กลับมองเราเป็นคนไม่ดีเสียแล้ว อีกอย่าง หนูคิดว่าชาวต่างชาติเขาขยันทำมาหากินค่ะ เขาจะคิดถึงอนาคตเสมอๆ ว่าวันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ แต่เหนืออื่นใด หนูชอบคนหล่อค่ะ ขาว สูง ผอม (หัวเราะ) นี่คือเหตุผลส่วนหนึ่งที่หนูชอบชายชาวต่างชาติ ไม่ได้ว่าชายไทยทุกคนไม่ดีนะคะ เพราะคนที่ดีก็ยังมี เพียงแค่หนูไม่เคยเจอแค่นั้นเอง
• แบบนี้เคยมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์แรงๆ บ้างไหมคะ เพราะยังมีคนไทยบางส่วนอาจมองหญิงไทยที่คบกับหนุ่มต่างชาติในแง่ลบ
กว่าผึ้งและสติ๊กจะผ่านเรื่องราวต่างๆ มาได้ก็ค่อนข้างหนักเหมือนกันค่ะ เพราะทุกคนย่อมผ่านการถูกมองในแง่ลบ ผ่านคำนินทา ผ่านการถูกใส่ร้ายป้ายสี ผ่านคำพูดไม่ดีที่สร้างผลกระทบทางจิตใจ เป็นเพราะอะไร เราก็ไม่อาจรู้ได้ถึงความรู้สึกนึกคิดของพวกเขา เพราะความคิดและจิตใจเป็นของเขา เราไม่สามารถทำให้คนอื่นคิดเหมือนเราหรือคิดถึงในความเป็นจริงที่เราเป็นได้ คนเราไม่เหมือนกันค่ะ แต่เราก็มีจิตใจที่แน่วแน่ ถึงผ่านจุดนั้นมาได้ โดยใช้การเชื่อใจและให้กำลังใจกัน และผึ้งก็เป็นคนโกรธใครไม่เป็นด้วย ที่สำคัญ เราทั้งสองไม่ได้ใส่ใจคำพูดของคนอื่น เพราะเราจะคิดตลอดว่า คำพูดร้ายๆ ลบๆ ของคนอื่นไม่ได้มีผลกระทบในการดำรงชีวิตของเราค่ะ (ยิ้ม)
อย่างเรื่องที่มีคนชอบมองว่าคนอีสานมักมีแฟนต่างชาติ ผึ้งว่าก็ไม่ทุกคนนะคะ เพราะคนที่เรารู้จัก เขาก็ยังชอบชายไทยอยู่นะ ไม่เห็นเขาคิดอยากได้แฟนชาวต่างชาติเลยค่ะ ตรงนี้น่าจะอยู่ที่ความชอบส่วนบุคคลมากกว่า และที่คนส่วนใหญ่มองว่าจับชาวต่างชาติเพราะหวังรวย อันนี้ขอบอกตามตรงเลยค่ะว่ามีส่วนที่จริงและไม่จริง บางคนฐานะทางบ้านยากจน ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตและความเป็นอยู่ของทุกคนทางบ้านดีขึ้น โดยยอมทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อครอบครัว จะใช้คำว่าหวังรวย ผึ้งว่ามันยังกว้างไปสำหรับพวกเขา น่าจะใช้คำว่าทำให้ฐานะและความเป็นอยู่ทางบ้านดีขึ้น จะดีกว่า
ส่วนอีกกรณีหนึ่งคือเขารักกันจากใจจริงๆ เงินทองไม่เกี่ยว ซึ่งสำหรับผึ้งก็อยู่ในกรณีนี้ค่ะ แต่โชคดีหน่อยที่หนุ่มชาวต่างชาติ ค่าเงินของเขาสูงกว่าไทยเรา เลยทำให้เขามีค่าในสายตาคนอื่นๆ แต่จริงๆ แฟนผึ้งก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนเราทั่วไปเลยนะคะ ชาวต่างชาติก็เหมือนคนไทยแหละค่ะ มีทั้งดีและไม่ดี ปะปนกันไป ก่อนที่จะคิดตัดสินใจใช้ชีวิตกับใคร เราก็ควรคิดให้ดีก่อน ไม่ว่าจะชาติไหนก็ตาม
• สุดท้ายแล้ว เราวางแผนอนาคตไว้อย่างไรบ้าง
ถ้าเรื่องชีวิตคู่ต่อจากนี้ชีวิตคู่เราจะเป็นยังไง ตรงนี้ผึ้งไม่สามารถมองเห็นอนาคตได้ค่ะแต่เราจะใช้ชีวิตและทำทุกๆ วันให้มีความสุข เราจะอยู่กับปัจจุบัน วันนี้ยังมีเรา เรายังมีกันและกันแค่นั้นพอค่ะ ส่วนเรื่องอื่นก็ยังไม่ได้วางแผนอะไร เพราะทุกวันนี้ เราภูมิใจในตัวเราแล้วตั้งแต่เกิดมา ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ได้ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ ได้ทำสิ่งที่ผ่านมาอย่างเต็มที่ก็พอ (ยิ้ม)
เรื่อง : วรัญญา งามขำ และ นงนุช พุดขาว
ภาพ : เฟซบุ๊ก Jessica Difford