MGR Online - ผู้กำกับการตำรวจจราจรจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงกรณีจับปรับชาวต่างชาติถอดเสื้อเล่นน้ำ เหตุเกิดเมื่อเช้าในพิธีเปิดงานสงกรานต์เชียงใหม่ 720 ปี มีรัฐมนตรีและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พบชายชาวแคนาดาฉายเดี่ยวนุ่งกางเกงผ้าร่มตัวเดียวอยู่ในงาน มีแม่หญิงขี่รถถีบกางจ้องครึ่งร้อย ย้ำไม่เหมาะสม ยันไม่ทำเกินกว่าเหตุ ผู้ต้องหาเข้าใจดี ย้ำตามระเบียบห้ามถอดเสื้ออยู่แล้ว
วันนี้ (13 เม.ย.) พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้กำกับการตำรวจจราจรจังหวัดเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์กับทาง MGR Online ผู้จัดการออนไลน์ ถึงกรณีที่มีการเปรียบเทียบปรับชาวต่างชาติรายหนึ่ง ที่เล่นน้ำสงกรานต์โดยการถอดเสื้อเหลือเพียงกางเกงขาสั้นสีดำตัวเดียว กระทั่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า ในปีนี้ทางจังหวัดเชียงใหม่ออกประกาศที่จะรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีสงกรานต์จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 720 ปีแห่งการก่อตั้งเมือง โดยมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ และทางโปสเตอร์ หนึ่งในนั้นคือ การแต่งกายสุภาพ เนื่องจากปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวแล้วถอดเสื้อ คนไทยก็เลียนแบบชาวต่างชาติจำนวนมาก
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีพิธีเปิดงาน “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ : สมโภช 60 รอบนักษัตร 720 ปี เมืองเชียงใหม่ สุขก๋าย เย็นใจ๋ ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์” ที่บริเวณลานประตูท่าแพ โดยมี นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ได้ทำพิธีเปิดงาน และมีการแสดงแม่ญิงขี่รถถีบกางจ้อง ซึ่งมีสุภาพสตรีจำนวนมาก
ปรากฏว่า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรายหนึ่ง ทราบภายหลังว่าเป็นชาวแคนาดา ได้เดินเข้ามาโดยถอดเสื้อผ้า ใส่กางเกงผ้าร่มขาสั้นสีดำเพียงตัวเดียว แต่งกายไม่รัดกุม ต่อหน้ารัฐมนตรีท่องเที่ยว ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งตนยืนอยู่ตรงนั้นด้วย เห็นว่าไม่เหมาะสม จึงสนทนาเป็นภาษาอังกฤษกับเขา โดยได้อธิบายว่าสงกรานต์แต่งกายแบบนี้ไม่ได้ ซึ่งเขาก็ยินยอม เข้าใจ และไม่มีปัญหา และไปดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามอำนาจในข้อหากระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยการถอดเสื้อเปลื้องผ้า แต่ไม่ใช่ข้อหาอนาจาร
“เมื่อมีการจับเปรียบเทียบปรับ พบว่า ที่มาเล่นสงกรานต์จะไม่มีการถอดเสื้อเลย จะมีชาวต่างชาติที่หลังจากมีการจับปรับแล้ว หลังจากนั้น เมื่อเราเจอนักท่องเที่ยวก็จะแนะนำให้เขาใส่เสื้อ บางคนก็ไม่รู้มาก่อนก็แนะนำ เนื่องจากมีชาวต่างชาติเยอะ ไม่สามารถจับเปรียบเทียบปรับได้ทั้งหมด เพราะต้องพาตัวไปโรงพัก รถก็ติด ก็เป็นปัญหา แต่ตอนเช้ามันอยู่ในงานพิธีเปิด ผู้หญิงเยอะด้วย แล้วก็ไม่เหมาะสม เราก็เปรียบเทียบในอัตราไม่เยอะ ปรับไม่เกินห้าร้อยบาท ปรับไปร้อยหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่าผมทำดีที่สุด อย่างน้อยหลังจากที่ปรับไปแล้ว คนไทยที่รู้ในโซเชียล เขาก็จะไม่ถอดเสื้อของเขาเลย จากปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเล่นน้ำที่คูเมือง หรือตามจุดที่มีดนตรี การแสดง เขาจะถอดเสื้อ แต่ปีนี้คนไทยไม่ถอดเสื้อเลย เพราะเชียงใหม่ครบรอบ 720 ปี ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม เราก็พยายามที่จะรักษาและทำตามหน้าที่ของเรา” พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ในช่วงที่เกิดเหตุ การแต่งกายของนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นในลักษณะการเปิดเผยร่างกายอย่างไร พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวใส่กางเกงผ้าร่ม ถอดเสื้อกลางพิธีเปิด กลางลานท่าแพ อยู่ในพิธีเปิดสงกรานต์เชียงใหม่ มีแม่หญิงขี่รถถีบกางจ้องประมาณ 50 คน แล้วมีผู้ชายถอดเสื้อ ใส่กางเกงผ้าร่มไม่เหมาะสม ไม่ใช่ว่าเขาไปทำอนาจาร หรือสำเร็จความใคร่ทางเพศด้วยตัวเอง แต่ตนเห็นว่าไม่เหมาะ ผู้เข้าร่วมงานใส่สูท แต่งตัวอย่างดี แต่นักท่องเที่ยวคนนี้ถอดเสื้อมา นุ่งกางเกงผ้าร่ม
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีการประชาสัมพันธ์ต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือไม่ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีการประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่ลงมาจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ก็มีโปสเตอร์แจกข้อปฏิบัติควรทำและไม่ควรทำเป็นภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะการถอดเสื้อและใส่เสื้อปรากฎให้เห็นเด่นชัด
เมื่อถามว่า กระแสโซเชียลมีเดียวิจารณ์ว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เพราะแค่ถอดเสื้อเล่นน้ำ เนื่องจากอากาศร้อนจะอธิบายตรงนี้อย่างไร พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่เฉลิมฉลอง 720 ปี ถ้าชาวต่างชาติถอดเสื้อทั้งหมด เห็นคนหนึ่งไม่เป็นไรก็ถอดเสื้อเป็นร้อยคน คนไทยก็เห็นแล้วมองว่า ฝรั่งถอดได้ คนไทยก็ต้องถอดได้ คนไทยเขาก็อยากโชว์เหมือนกัน เมื่อคนไทยเห็นว่าตำรวจดำเนินการจับปรับ คนไทยเขาก็ไม่ทำ ชาวต่างชาติก็ไม่ทำ ตรงนี้ต้องมองไปอีกแง่หนึ่งว่า เราไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ ปรับร้อยเดียวเขาโอเค เขาเข้าใจเพราะเขาก็ไม่รู้ เราก็บอกเขา และการปรับตนก็พาเขาไปที่สถานีตำรวจเอง และให้เสียค่าปรับด้วยตัวเอง เพราะว่าตนอยู่ในที่เกิดเหตุ
พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ยังกล่าวถึงกรณีป้ายรณรงค์ง่วงไม่ขับ ที่มีเสียงวิจารณ์ในโซเชียล ว่าไม่เหมาะสม ว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยว เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 720 ปี มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปางช้าง ดอยอินทนนท์ ดอยสุเทพ ประเพณีต่าง ๆ และคำขวัญรณรงค์ปีนี้ คือ “สงกรานต์ปลอดภัย ส่งเสริมววัฒนธรรมไทย สร้างวินัยจราจร” ถ้าเอารูปภาพที่เป็นรถชนพังเสียหาย รูปคนตาย หรือรูปขวดเหล้าเพื่อรณรงค์เรื่องลดอุบัติเหตุ มาเที่ยวเชียงใหม่แล้วเจอรูปภาพลักษณะอย่างนั้นก็ไม่น่าเที่ยว
ทางกลุ่มงานจราจรเชียงใหม่ก็เลยเปลี่ยนในคอนเซ็ปต์ที่ว่าง่วงไม่ขับ รักษาวัฒนธรรมไทย สร้างวินัยจราจร เป็นรูปวัฒนธรรมที่ดีงามและเฉลิมฉลอง 720 ปีเชียงใหม่ด้วย ภาพที่ออกมาจึงเป็นลักษณะผู้หลักผู้ใหญ่ จุดประสงค์เราดีแต่ก็ถูกมองว่าไม่ดี ทั้งๆ ที่ประเพณีโบราณของเชียงใหม่เป็นอย่างนั้น ทำไมต้องมีตำรวจ ก็เพราะเป็นเรื่องของวินัย แต่โลกโซเชียลก็มองไปอีกอย่าง ตนเห็นว่าตนทำดีที่สุด
“อย่างวันนี้ไปจับปรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ถามว่าทำไมต้องจับ มาเป็นตำรวจแบบผม แล้วต่อหน้าพิธีเปิดแม่ญิงกลางจ้อง แล้วรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด จะเดินชนอยู่แล้ว ก็ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงโทษน้อยที่สุด ผมเห็นว่าไม่เสียหาย เป็นการเริ่มต้นให้พอโลกโซเชียลได้รู้ แล้วคนเชียงใหม่ คนไทยเขาใส่เสื้อกันหมดเลย เวทีการแสดงภาพถอดเสื้อไม่มีเลย รูปที่ออกมาเป็นรูปปีก่อนบ้างเอามายำ ผมอยู่หน้างาน คนถอดเสื้อน้อยมาก เป็นการปรามไม่ให้คนอนาจารหรือไม่เหมาะสม” พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ กล่าว