xs
xsm
sm
md
lg

สะเทือนใจ! เรียงความลูกหมอ แม่รถชนตาย-เสียพ่อติดเชื้อในกระแสเลือด ไม่มีเงินเรียนหนังสือต้องออกมาขายขนมกับย่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


MGR Online - ลูกสาวหมอ เสียแม่จากอุบัติเหตุตั้งแต่อายุ 5 เดือน ก่อนเสียพ่อที่เรียนจบแพทย์จุฬาฯ รักษาคนไข้จนติดเชื้อในกระแสเลือด สุดท้ายไม่มีทางเลือกต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่จบ ม.3 ออกมาขายขนมกับคุณย่าที่ปัจจุบันวัยใกล้ 80 จน สนง.สาธารณสุขปราจีนบุรี ต้องออกจดหมายเวียนให้ร่วมกันช่วยเหลือ

วันนี้ (18 ก.พ.) เฟซบู๊ก Ittaporn Kanacharoen ของ พลอากาศตรีนายแพทย์อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา โพสต์ภาพจดหมายทางราชการฉบับหนึ่งของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรีเรื่อง "ขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวนายแพทย์กฤษฎา วงศ์ดีเลิศ" ลงวันที่ 12 ก.พ. 2559 พร้อมกับโพสต์ข้อความเล่าถึงชะตากรรมของครอบครัวของ นพ.กฤษดา วงศ์ดีเลิศ อดีตแพทย์ รพ.กบินทร์บุรี แพทย์จากจุฬารุ่นที่ 42 ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตเนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด ทิ้งแม่วัยเกือบ 80 และลูกสาวซึ่งมีอาการลมชักไว้หนึ่งคน แต่กลับไม่ได้เรียนหนังสือเพราะไม่มีเงิน

"18 กพ.59 จดหมายเวียนที่ผมอ่านแล้วสะเทือนใจที่สุดในรอบปีจากสำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรีครับ เหตุการณ์เกิดขึ้นกับครอบครัวของ คุณหมอกฤษดา วงศ์ดีเลิศ อดีตแพทย์ รพ.กบินทร์บุรี จบแพทย์จากจุฬารุ่นที่ 42

จนต้องไปค้นเรียงความของลูกสาวคนเดียวที่เหลืออยู่ (เป็นโรคลมชัก และไม่ได้เรียนหนังสือแล้วตอนนี้เพราะไม่มีเงิน) ซึ่งชนะการประกวดเรียงความในวันแม่..ปี 2555 (4ปีก่อน)มาอ่าน จากเพจ คุณครูน๊อต

ผมได้ตรวจสอบเอกสารนี้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรีที่ โทรศัพท์ 037 211 626 ต่อ 108 แล้วครับ จะนำเรื่องนี้ปรึกษากรรมการแพทยสภาต่อไป ขอส่งให้ผู้บังคับบัญชา เพื่อนๆ พี่น้องใน กระทรวงสาธารณสุข และ สถาบันที่จบมา พิจารณาช่วยลูกหมอ กำพร้า ท่านนี้ด้วยตามสมควรด้วยนะครับ และอาจต้องมีมาตรการต่อไปในอนาคตสำหรับกรณีเหตุการณ์เช่นนี้..ขอบคุณครับ
--------------------------------------------------------

ชนะเลิศเรียงความวันแม่ ของ เด็กหญิงอารดา วงษ์ดีเลิศ ม.1/1
โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใหม่ท่าพาณิชย์) ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
--------------------------------------------------------

ชีวิตของลูกกำพร้า

สวัสดีท่านผู้ปกครอง และคุณครูที่เคารพรักทุกท่าน หนูชื่อ เด็กหญิงอารดา วงษ์ดีเลิศ ขณะนี้หนูกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 หนูอยากเล่าชีวิตของหนูให้ทุกท่าน และเพื่อนทุกคนได้รับรู้ว่าชีวิตที่ขาดทั้งพ่อและแม่เป็นอย่างไร แต่ยังโชคดีที่หนูมีคุณย่าเลี้ยงหนูมาแทนคุณพ่อและคุณแม่ได้อย่างดีที่สุด

คุณพ่อของหนูชื่อ นายแพทย์กฤษดา วงษ์ดีเลิศ เรียนจบจากคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เข้ารับราชการทำงานมาหลายจังหวัด ครั้งล่าสุดย้ายมาเป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ จังหวัดปราจีนบุรี ในปี พ.ศ. 2544 ส่วนแม่ของหนูชื่อ คุณแม่อารมณ์ วงษ์ดีเลิศ มีกิจการเปิดร้านเสริมสวยอยู่ที่กรุงเทพฯ หนูเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว คุณพ่อและคุณแม่ของหนูก็เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว เมื่อทุกท่านฟังแล้วชีวิตของหนูน่าจะสมบูรณ์พร้อม แต่ความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน คุณย่าเล่าให้หนูฟังว่าหนูกับญาติของแม่เดินทางไปทำธุระที่ต่างจังหวัด รถเกิดอุบัติเหตุ ทุกคนในรถเสียชีวิตพร้อมกันหมด เหลือเพียงหนูซึ่งมีอายุได้เพียง 5 เดือน รอดชีวิต หนูยังมีความโชคดีอยู่บ้าง ที่คุณพ่อไม่ได้เดินทางไปด้วย คุณพ่อของหนูเป็นแพทย์ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต เคารพในจรรยาบรรณแพทย์อย่างเคร่งครัด มีจิตใจดี หลายครั้งที่รักษาคนไข้ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

คุณพ่อกับคุณย่าเลี้ยงหนูมาด้วยความรักและความเมตตา ไม่ทำให้หนูรู้สึกว่าขาดแม่ แต่ชะตาฟ้าลิขิตเล่นตลกกับครอบครัวหนู เมื่อหนูอายุได้ประมาณ 2 ขวบ คุณย่าเล่าว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับครอบครัวของหนูอีก วันหนึ่งคุณพ่อรักษาคนไข้ที่มีอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต ด้วยความเป็นห่วงคนไข้ ขณะที่พ่อกำลังปั๊มหัวใจให้คนไข้ คุณพ่อไม่ได้ใส่ผ้าปิดปาก ปรากฏว่าคนไข้ได้อาเจียนใส่คุณพ่อทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ทางปาก คุณพ่อไม่ได้คำนึงความปลอดภัยของตนเอง จึงไม่ได้ทานยาเพื่อป้องกัน ต่อมาไม่นานคุณพ่อก็เริ่มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายแล้วลามไปที่สมองอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดก็เสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 30 กว่าปี เท่านั้น ซึ่งขณะนั้นหนูเองก็ยังจำหน้าพ่อไม่ได้ เพราะหนูก็มีอายุเพียง 2 ขวบ เท่านั้น

หนูไม่เข้าใจว่าครอบครัวของหนูทำเวรกรรมอะไรไว้ ถึงต้องประสบชะตากรรมเช่นนี้

ปัจจุบันนี้หนูมีเพียงคุณย่าที่มีอายุถึง 75 ปี ส่งเสียเลี้ยงดูให้หนูได้เรียนหนังสือ โดยมีอาชีพขายขนมเล็กๆ น้อยๆ เพื่อ
ประทังให้สองชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ หนูสงสารคุณย่ามาก สิ่งที่หนูทำได้ดีที่สุดในเวลานี้คือ ตั้งใจเรียนหนังสือ เป็นเด็กดี ช่วยเหลือคุณย่าทุกอย่างเท่าที่เด็กอายุขนาดหนูพึงจะทำได้ ขณะนี้หนูอาศัยอยู่ที่บ้านของคนอื่นที่เขาให้ความ
เมตตา โดยที่ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกันเลย

ทุกเย็นหนูกับย่าจะมาช่วยกันขายขนมบนทางเท้า ฝั่งตรงข้ามโรงเรียน
ทุกวัน ต้องพยายามขายให้หมดไม่หมดก็ขาดทุน เพราะครอบครัวของหนูมีเงินน้อยมากแค่หมุนขายของไปวัน ๆ เท่านั้น

หลายครั้งมีผู้ใจบุญมาช่วยซื้อขนมจนหมด ทุกวันนี้หนูได้รับความเมตตาจากโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใหม่ท่าพาณิชย์) แห่งนี้เป็นอย่างมาก ครูทุกคนให้ความเอ็นดู หนูได้รับทุนการศึกษา ได้รับประทานอาหารกลางวันฟรี รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ โรงเรียนจ่ายให้หนูหมด แต่หนูไม่รู้ว่าเมื่อหนูจบการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้แล้วชีวิตหนูจะเป็นอย่างไรต่อไป

หนูคิดแต่เพียงว่าการศึกษาและความรู้เท่านั้นที่หนูจะสามารถนำไปแลกกับการทำงานในอนาคตได้

ท่านทั้งหลาย และเพื่อนๆ ที่อยู่ในที่ประชุมแห่งนี้ หลายคนมีครอบครัวที่อบอุ่นและมีความพร้อมในการเรียน

หนูอยากจะบอกทุกคนว่า เมื่อมีโอกาสแล้ว ขอให้ตั้งใจเรียนหนังสือ และรักคุณพ่อ คุณแม่ให้มาก ๆ

อย่าให้เหมือนกับหนูที่ไม่มีคุณพ่อคุณแม่ให้รัก

แต่หนูมีคุณย่าที่ประเสริฐที่สุด ที่ไม่เคยทอดทิ้งหนูเลย เราสองคน
ทุกข์สุขมาด้วยกัน

หนูสัญญาว่าหนูจะดูแลคุณย่าแทนคุณพ่อหนูอย่างดีที่สุดที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างหนูจะทำได้

ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่อดทนฟังประวัติชีวิตของหนู สวัสดีค่ะ

เด็กหญิงอารดา วงษ์ดีเลิศ"


ล่าสุดทางทีมข่าว MGR Online ได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานพัฒนาบุคลากร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ก็ยืนยันว่าปัจจุบันเด็กหญิงอารดาซึ่งปัจจุบันเรียนจบชั้น ม.3 ยังรับจ้างทั่วไป ซักผ้า รวมถึงขายขนมกับคุณย่าวัยใกล้ 80 และยังไม่ได้เรียนต่อแต่อย่างใด เนื่องจากขาดทุนทรัพย์

ทั้งนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ได้ขอความอนุเคราะห์จากผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือครอบครัวนายแพทย์กฤษฎา วงศ์ดีเลิศ ได้โดยตรงผ่านทางบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาประจันตคาม ชื่อบัญชี กองทุนสวัสดิการ เพื่อ น.ส.อารดา วงศ์ดีเลิศ เลขที่บัญชี 020067477915

18 กพ.59 จดหมายเวียนที่ผมอ่านแล้วสะเทือนใจที่สุดในรอบปีจากสำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรีครับ เหตุการณ์เกิดขึ้นกับคร...

Posted by Ittaporn Kanacharoen on Wednesday, February 17, 2016



กำลังโหลดความคิดเห็น