xs
xsm
sm
md
lg

วอร์แรนต์ “ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป” ลงสนามเทรดวันที่ 7 มิ.ย.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป” ส่งวอร์แรนต์ลงสนามเทรดวันที่ 7 มิ.ย.นี้ เตรียมลงสนามเทรดวันแรก 7 มิ.ย.นี้ มั่นใจกระแสตอบรับล้นหลาม เนื่องจากธุรกิจอยู่ในช่วง Growth Phase “เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์” คาดรายได้ปี 59 ทะลุ 2 หมื่นล้านบาท เติบโตมากกว่า 15% หลังอัปกำลังการผลิตไก่เพิ่มเป็น 5 แสนตัวต่อวัน รองรับแผนขยายสาขาบุกตลาดต่างจังหวัด ส่งไก่ชำแหละให้สายการบิน และเครือข่ายโมเดิร์นเทรด พร้อมบุกตลาดต่างประเทศเต็มเหนี่ยวทั้งในญี่ปุ่น และยุโรป

นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยถึงใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท TFG ครั้งที่ 1 ที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ว่า ได้รับอนุมัติให้เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเนื่องจากแนวโน้มธุรกิจอยู่ในช่วงของการขยายตัว (Growth Phase)

ทั้งนี้ TFG ได้ออก TFG-W1 เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน จำนวน 509,993,942 หน่วย ในอัตราส่วน 10 หุ้นสามัญเดิมต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย กำหนดราคาใช้สิทธิที่ 2.5 บาทต่อหุ้นอายุ 3 ปี ซึ่งคาดว่าจะได้เงินจากการใช้สิทธิแปลงสภาพประมาณ 1,275 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับแผนการขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะช่วยผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น

“ผมมั่นใจว่าด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และภาพรวมธุรกิจที่กำลังก้าวเข้าสู่ช่วง Growth Phase น่าจะทำให้วอร์แรนต์ที่ออกมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม และช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว” นายเชิดศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เริ่มเพิ่มปริมาณผลิตไก่ต่อเนื่องจาก 360,000 ตัวต่อวัน เป็น 500,000 ตัวต่อวัน ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้สอดรับต่อแผนการขยายสาขา 33 แห่งในต่างจังหวัด การเตรียมส่งไก่ชำแหละให้แก่สายการบิน เครือข่ายโมเดิร์นเทรด เครือข่ายฟูดส์เซอร์วิส และโครงข่ายผู้ผลิตในประเทศ ส่วนการรุกตลาดต่างประเทศได้ทำการขยายกำลังการผลิตเพิ่มที่โรงงานชำแหละไก่ที่จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อรองรับการขยายตัวของการขายส่งออกสู่ต่างประเทศทั้งญี่ปุ่น และยุโรป ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ราคาขายไก่เฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาก นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มกำลังการผลิตโรงงานอาหารสัตว์ที่ อ.กบินทร์บุรี จาก 17,500 ตันต่อเดือน เป็น 35,000 ตันต่อเดือน เมื่อรวมกับการผลิตที่โรงงานสุพรรณบุรี 65,000 ตันต่อเดือน จะรวมเป็น 100,000 ตันต่อเดือน

“มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ในปีนี้จะเติบโตมากกว่า 15% ตามเป้าหมาย จากปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 17,300 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/59 เริ่มพลิกกลับมามีกำไรสุทธิมากถึง 200.8 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขาดทุนสุทธิ 480.2 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากเทิร์นอะราวนด์ที่ชัดเจน” นายเชิดศักดิ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น