เพียงเห็นตัวการ์ตูนพร้อมกับคำประกอบ หลายคนก็อาจจะแบบ “เอ๊ะๆๆ” คุ้นๆ นะ เรื่องราวแบบนี้ หรือไม่หลายๆ คนก็อาจจะบอกว่า อ้าว นี่มันชีวิตเราชัดๆ เลย...ไม่ประหลาดแต่อย่างใด ถ้าคุณจะรู้สึกเช่นนั้น เพราะ “จอมยุทธ์น้อย” และ “วณิพกน้อย” เกิดขึ้นมาในโลกแห่งสติกเกอร์ไลน์เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของเราๆ ท่านๆ ผู้หาเช้ากินค่ำ อาจเจ็บปวดแต่ก็เข้าใจ และไม่ฟูมฟายแต่มีอารมณ์ขัน...
“สิ้นเดือนเหมือนจะสิ้นใจ” หรือ "เช้ากินไข่ทอด เย็นกินทอดไข่" และอีกหลากหลายถ้อยคำที่ตอกย้ำสัจธรรมแห่งความเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือคนทำงานออฟฟิศทั่วไปที่ต้องผจญชีวิตแบบลุ่มๆ ดอนๆ สุขๆ ทุกข์ๆ ในขณะเดียวกัน เหมือนอย่างสองตัวละคร “วณิพกน้อย” และ “จอมยุทธ์น้อย” สติกเกอร์ไลน์ที่สองหนุ่มพนักงานออฟฟิศ “โป้ง” กับ “ยอด” ร่วมด้วยช่วยกันสรรสร้างขึ้นมา เพื่ออุดมการณ์ “อยู่ร่วมอย่างฮาๆ กับชีวิตที่ฮาบ้างไม่ฮาบ้าง” ในแต่ละวันแต่ละเดือน...ตามประสามนุษย์เงินเดือน...
ขอถามถึงที่มาที่ไปของคุณทั้งสองผู้ให้กำเนิดวณิพกน้อยและจอมยุทธ์น้อยครับว่าทำอะไรอยู่ที่ไหน
คือพวกเราก็ทำงานเขียนการ์ตูนหนังสือพิมพ์ผู้จัดการในเซกชันผู้จัดกวน ในเซกชันที่ 2 การ์ตูนช่อง (ยิ้ม) งานออกแบบ งานรีทัชพวกภาพประกอบอยู่แล้ว พอเขาเปิดให้ทำให้ครีเอตงาน หลายๆ คนก็แนะนำให้ลอง ก็เลยเกิดสติกเกอร์ไลน์ตัวนี้ขึ้นมา ทำเอาสนุกๆ ครับ
แล้วในส่วนของไอเดีย มีต้นทางความคิดมาอย่างไรบ้าง
มันมาจากการที่เราสนุกในการคิดและการเขียนภาพครับ เพราะงานประจำที่ทำ ก็จะเกี่ยวกับเศรษฐกิจ การเมือง ซึ่งมันก็จะเป็นอีกระดับหนึ่ง แต่ในส่วนของสติกเกอร์ไลน์รูปจอมยุทธ์กับวณิพกน้อย จะเป็นเรื่องของชีวิตคน คือคิดว่ามันจะใกล้ชิดกับคนมากกว่าเป็นรูปสัตว์ เพราะเนื้อหาที่เราอยากจะทำต้องการให้มันเกี่ยวข้องกับชีวิตคน ชีวิตคนทำงาน เงินแต่ละเดือนชนเดือนใช่ไหม พอถึงใกล้สิ้นเดือนเรากินบะหมี่สำเร็จรูปกันใช่ไหม อย่างนี้เป็นต้น (หัวเราะ) ชีวิตคนมันไม่ได้กุ๊กกิ๊กเหมือนตัวการ์ตูน ก็เลยอยากจะทำให้เข้าถึงคนมากกว่า
รวมไปถึงเข้าใจชีวิตเราจริงๆ ด้วยใช่ไหม
(หัวเราะ) ก็อย่างตัวละครจอมยุทธ์ เราก็ได้ไอเดียมาจากที่เราเรียกแฟนเราว่า "จอมมาร" คือทั่วไปพล็อตเรื่องหนังจีนเกือบจะทุกเรื่อง พระเอกจะติ๋มๆ เนิร์ดๆ ชอบโดนกลั่นแกล้ง แล้วก็ไปเจออาจารย์ดี ได้คัมภีร์ดี มาฝึกจนเป็นจอมยุทธ์ใช่ไหม นางเอกก็จะเป็นพวกลูกสาวของตัวโกง เราก็เห็นเป็นประจำ ก็เลยเอามาทำ คิดว่ามันน่าจะสนุกดี
ส่วนวณิพกน้อยคือเรามองว่าขอทาน เขาไม่ใช่ผู้ไม่มีโอกาส แต่เรามองว่าเป็นอาชีพหนึ่ง แล้วเป็นอาชีพที่แทนคน หมายความว่าทุกวันนี้ ล่าสุดเขาบอกว่าคนไทยที่มีมรดกเกิน 50 ล้านบาท ทั้งประเทศมีอยู่แค่ 60,000 คน แสดงว่าพวกที่เหลือเป็น 10 ล้านๆ ก็คือคนอย่างเราๆ อาจจะดีกว่าเราหน่อยหรือแย่กว่าเราหน่อย ก็จะรวมอยู่ในกลุ่มนี้
นอกจากจะเข้าถึงแล้วยังมองว่ามันสะท้อนภาพรวมของสังคมได้ด้วย อย่างนั้นใช่ไหม
ใช่ครับ เพราะบ้านเรา คนชั้นล่างจนถึงคนชนชั้นระดับกลาง ค่อนข้างเยอะกว่าคนชนชั้นบน แล้วเราก็จะใช้ชีวิตกันอย่างนี้ เราก็เห็นกันประจำทุกคน (ยิ้ม) คนหาเช้ากินค่ำก็ไม่ต่างกัน เพราะว่าจริงๆ หมุนบัตรเครดิต กินมาม่า ตั้งแต่กลางเดือน ใช้หนี้
หรืออันที่ชอบที่สุดก็คือ “มือปราบเพื่อน” ที่เขียนยืมเงินไว้ที่มือ เรารู้สึกว่ามันสนุก หยิบเอาอะไรที่คุ้นชินชีวิตจริงตรงนั้นมาใช้ เราก็เข้าใจผลกระทบที่ได้รับเหมือนกันหมด ส่วนใหญ่มันก็จะมีผลกระทบ เวลาที่อะไรมันโดน คือเอาหินปาไป มันต้องโดนหัวใครสักชีวิตล่ะ (หัวเราะ)
ภาพทั้งหมด ดูแล้วก็น่ารักดีนะ ตลกด้วย
คือเป็นความตั้งใจของเราเลยครับที่อยากให้มันดูน่ารักๆ หน่อย (ยิ้ม) เพราะถ้าเอาอย่างไอ้พวกโหดๆ ใส่เข้าไป คนก็คงไม่อยากใช้เท่าไหร่ แต่จริงๆ บางอารมณ์มันก็โหดนะ แต่ดูภาพที่ออกมามันสื่อให้เบาลง อย่างตัวที่บอกว่า 'กู๊ดไนต์' แต่ตัวเองไปนอนในกล่อง แบบพวกโฮมเลส พวกไม่มีบ้าน ต้องนอนตามกล่องในเมืองนอก พอถึงเวลาก็ปูผ้า ชีวิตก็น่าจะมีความสุขดี ไม่ต้องมาแคร์สังคม คือถ้ามองในมุมเขา เขาก็คงคิดว่าทำไมเราต้องมาเหนื่อย มาทำอะไรทุกวัน ก็มีที่นอนเท่ากันหนึ่งตัวคน มีข้าวกิน
ท้ายที่สุด เราต้องการสื่ออะไรหรือเปล่าผ่านสติกเกอร์ไลน์ จอมยุทธ์น้อย และวณิพกน้อย
คือวิธีการคิดของเรา ก็จะคิดออกมาเป็นเรื่องก่อนว่าอะไรมันน่าจะใกล้ตัวที่สุด ที่เราเห็นๆ กันเป็นประจำ ก็คนทั่วๆ ไป คนทำงาน ชาวบ้าน นั่งกินมาม่าสิ้นเดือน เวลากินก็นึกซะว่ากินราเมงโออิชิ คล้ายๆ มุกการ์ตูนขายหัวเราะที่แขวนปลาแล้วกินข้าวเปล่า ไม่เหมือนอย่างวัยรุ่น วัยรุ่นเขาก็จะอีกแบบหนึ่ง เราเป็นตัวแทนของอารมณ์แต่ละอารมณ์มากกว่า
เราก็อยากให้คิดว่าชีวิตมันก็อย่างนั้น เป็นไปของมันอย่างนี้ อย่าไปทุกข์ระทมห่มโศกอะไรกับมัน อยากให้ดำเนินแบบมองโลกในแง่บวก อย่างชีวิตของวณิพกขอทานในสติกเกอร์ไลน์ของเรา มันมีพล็อตมาจากความรักต่างฐานะด้วยนิดหน่อย ก็สไตล์ละครไทยที่เราเห็น ประเภทหลงรักคุณหนู คือในละครตอนจบ พระเอกมักจะได้ดีทุกคนใช่ไหม แต่ชีวิตจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น ชีวิตจริงมันยาก (หัวเราะ)
ฟังว่าจะมีโปรเจกต์ต่อๆ ไปด้วยใช่ไหม คนครีเอตแบบพวกคุณมีแผนอะไรในใจไว้หรือยัง
ครั้งหน้า ตัวละครอาจจะไม่ใช่เป็นคนแล้ว อาจจะเป็นอะไรที่ไม่มีในโลกนี้ (หัวเราะ) เพราะว่าที่เราเห็นๆ กันมาในไลน์สัตว์ถูกเอามาใช้แทบจะทุกสายพันธุ์ ถ้าเราทำอีก ก็คงจะเป็นสัตว์ประหลาดแทน หรือไม่ก็มนุษย์ต่างดาว คือทำในมุมมองประมาณว่าถ้ามนุษย์ต่างดาวมีจริง เขาจะมองคนบนโลกอย่างไร หรืออะมีบ้ามองคนเป็นอย่างไร (หัวเราะ)
***ใครอยากซื้อหาหรือสนใจในสติกเกอร์ที่ไม่เพียงเป็นแค่แคปชันสื่อผ่านอารมณ์ธรรมดาๆ ก็คลิกเข้าไปที่ Line Store ค้นหาคำว่า “Little Kungfu” , “Little Cute Beggar” แล้วก็โหลดได้เลย แล้วคุณจะรู้ถึงอารมณ์ขันแสบๆ อย่างคำบอกเล่านี้***
คลิกเพื่อโหลดสติกเกอร์ LINE Little Kungfu >> https://store.line.me/stickershop/product/1038984/en
คลิกเพื่อโหลดสติกเกอร์ LINE Little Cute Beggar >> https://store.line.me/stickershop/product/1122509/en
“สิ้นเดือนเหมือนจะสิ้นใจ” หรือ "เช้ากินไข่ทอด เย็นกินทอดไข่" และอีกหลากหลายถ้อยคำที่ตอกย้ำสัจธรรมแห่งความเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือคนทำงานออฟฟิศทั่วไปที่ต้องผจญชีวิตแบบลุ่มๆ ดอนๆ สุขๆ ทุกข์ๆ ในขณะเดียวกัน เหมือนอย่างสองตัวละคร “วณิพกน้อย” และ “จอมยุทธ์น้อย” สติกเกอร์ไลน์ที่สองหนุ่มพนักงานออฟฟิศ “โป้ง” กับ “ยอด” ร่วมด้วยช่วยกันสรรสร้างขึ้นมา เพื่ออุดมการณ์ “อยู่ร่วมอย่างฮาๆ กับชีวิตที่ฮาบ้างไม่ฮาบ้าง” ในแต่ละวันแต่ละเดือน...ตามประสามนุษย์เงินเดือน...
ขอถามถึงที่มาที่ไปของคุณทั้งสองผู้ให้กำเนิดวณิพกน้อยและจอมยุทธ์น้อยครับว่าทำอะไรอยู่ที่ไหน
คือพวกเราก็ทำงานเขียนการ์ตูนหนังสือพิมพ์ผู้จัดการในเซกชันผู้จัดกวน ในเซกชันที่ 2 การ์ตูนช่อง (ยิ้ม) งานออกแบบ งานรีทัชพวกภาพประกอบอยู่แล้ว พอเขาเปิดให้ทำให้ครีเอตงาน หลายๆ คนก็แนะนำให้ลอง ก็เลยเกิดสติกเกอร์ไลน์ตัวนี้ขึ้นมา ทำเอาสนุกๆ ครับ
แล้วในส่วนของไอเดีย มีต้นทางความคิดมาอย่างไรบ้าง
มันมาจากการที่เราสนุกในการคิดและการเขียนภาพครับ เพราะงานประจำที่ทำ ก็จะเกี่ยวกับเศรษฐกิจ การเมือง ซึ่งมันก็จะเป็นอีกระดับหนึ่ง แต่ในส่วนของสติกเกอร์ไลน์รูปจอมยุทธ์กับวณิพกน้อย จะเป็นเรื่องของชีวิตคน คือคิดว่ามันจะใกล้ชิดกับคนมากกว่าเป็นรูปสัตว์ เพราะเนื้อหาที่เราอยากจะทำต้องการให้มันเกี่ยวข้องกับชีวิตคน ชีวิตคนทำงาน เงินแต่ละเดือนชนเดือนใช่ไหม พอถึงใกล้สิ้นเดือนเรากินบะหมี่สำเร็จรูปกันใช่ไหม อย่างนี้เป็นต้น (หัวเราะ) ชีวิตคนมันไม่ได้กุ๊กกิ๊กเหมือนตัวการ์ตูน ก็เลยอยากจะทำให้เข้าถึงคนมากกว่า
รวมไปถึงเข้าใจชีวิตเราจริงๆ ด้วยใช่ไหม
(หัวเราะ) ก็อย่างตัวละครจอมยุทธ์ เราก็ได้ไอเดียมาจากที่เราเรียกแฟนเราว่า "จอมมาร" คือทั่วไปพล็อตเรื่องหนังจีนเกือบจะทุกเรื่อง พระเอกจะติ๋มๆ เนิร์ดๆ ชอบโดนกลั่นแกล้ง แล้วก็ไปเจออาจารย์ดี ได้คัมภีร์ดี มาฝึกจนเป็นจอมยุทธ์ใช่ไหม นางเอกก็จะเป็นพวกลูกสาวของตัวโกง เราก็เห็นเป็นประจำ ก็เลยเอามาทำ คิดว่ามันน่าจะสนุกดี
ส่วนวณิพกน้อยคือเรามองว่าขอทาน เขาไม่ใช่ผู้ไม่มีโอกาส แต่เรามองว่าเป็นอาชีพหนึ่ง แล้วเป็นอาชีพที่แทนคน หมายความว่าทุกวันนี้ ล่าสุดเขาบอกว่าคนไทยที่มีมรดกเกิน 50 ล้านบาท ทั้งประเทศมีอยู่แค่ 60,000 คน แสดงว่าพวกที่เหลือเป็น 10 ล้านๆ ก็คือคนอย่างเราๆ อาจจะดีกว่าเราหน่อยหรือแย่กว่าเราหน่อย ก็จะรวมอยู่ในกลุ่มนี้
นอกจากจะเข้าถึงแล้วยังมองว่ามันสะท้อนภาพรวมของสังคมได้ด้วย อย่างนั้นใช่ไหม
ใช่ครับ เพราะบ้านเรา คนชั้นล่างจนถึงคนชนชั้นระดับกลาง ค่อนข้างเยอะกว่าคนชนชั้นบน แล้วเราก็จะใช้ชีวิตกันอย่างนี้ เราก็เห็นกันประจำทุกคน (ยิ้ม) คนหาเช้ากินค่ำก็ไม่ต่างกัน เพราะว่าจริงๆ หมุนบัตรเครดิต กินมาม่า ตั้งแต่กลางเดือน ใช้หนี้
หรืออันที่ชอบที่สุดก็คือ “มือปราบเพื่อน” ที่เขียนยืมเงินไว้ที่มือ เรารู้สึกว่ามันสนุก หยิบเอาอะไรที่คุ้นชินชีวิตจริงตรงนั้นมาใช้ เราก็เข้าใจผลกระทบที่ได้รับเหมือนกันหมด ส่วนใหญ่มันก็จะมีผลกระทบ เวลาที่อะไรมันโดน คือเอาหินปาไป มันต้องโดนหัวใครสักชีวิตล่ะ (หัวเราะ)
ภาพทั้งหมด ดูแล้วก็น่ารักดีนะ ตลกด้วย
คือเป็นความตั้งใจของเราเลยครับที่อยากให้มันดูน่ารักๆ หน่อย (ยิ้ม) เพราะถ้าเอาอย่างไอ้พวกโหดๆ ใส่เข้าไป คนก็คงไม่อยากใช้เท่าไหร่ แต่จริงๆ บางอารมณ์มันก็โหดนะ แต่ดูภาพที่ออกมามันสื่อให้เบาลง อย่างตัวที่บอกว่า 'กู๊ดไนต์' แต่ตัวเองไปนอนในกล่อง แบบพวกโฮมเลส พวกไม่มีบ้าน ต้องนอนตามกล่องในเมืองนอก พอถึงเวลาก็ปูผ้า ชีวิตก็น่าจะมีความสุขดี ไม่ต้องมาแคร์สังคม คือถ้ามองในมุมเขา เขาก็คงคิดว่าทำไมเราต้องมาเหนื่อย มาทำอะไรทุกวัน ก็มีที่นอนเท่ากันหนึ่งตัวคน มีข้าวกิน
ท้ายที่สุด เราต้องการสื่ออะไรหรือเปล่าผ่านสติกเกอร์ไลน์ จอมยุทธ์น้อย และวณิพกน้อย
คือวิธีการคิดของเรา ก็จะคิดออกมาเป็นเรื่องก่อนว่าอะไรมันน่าจะใกล้ตัวที่สุด ที่เราเห็นๆ กันเป็นประจำ ก็คนทั่วๆ ไป คนทำงาน ชาวบ้าน นั่งกินมาม่าสิ้นเดือน เวลากินก็นึกซะว่ากินราเมงโออิชิ คล้ายๆ มุกการ์ตูนขายหัวเราะที่แขวนปลาแล้วกินข้าวเปล่า ไม่เหมือนอย่างวัยรุ่น วัยรุ่นเขาก็จะอีกแบบหนึ่ง เราเป็นตัวแทนของอารมณ์แต่ละอารมณ์มากกว่า
เราก็อยากให้คิดว่าชีวิตมันก็อย่างนั้น เป็นไปของมันอย่างนี้ อย่าไปทุกข์ระทมห่มโศกอะไรกับมัน อยากให้ดำเนินแบบมองโลกในแง่บวก อย่างชีวิตของวณิพกขอทานในสติกเกอร์ไลน์ของเรา มันมีพล็อตมาจากความรักต่างฐานะด้วยนิดหน่อย ก็สไตล์ละครไทยที่เราเห็น ประเภทหลงรักคุณหนู คือในละครตอนจบ พระเอกมักจะได้ดีทุกคนใช่ไหม แต่ชีวิตจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น ชีวิตจริงมันยาก (หัวเราะ)
ฟังว่าจะมีโปรเจกต์ต่อๆ ไปด้วยใช่ไหม คนครีเอตแบบพวกคุณมีแผนอะไรในใจไว้หรือยัง
ครั้งหน้า ตัวละครอาจจะไม่ใช่เป็นคนแล้ว อาจจะเป็นอะไรที่ไม่มีในโลกนี้ (หัวเราะ) เพราะว่าที่เราเห็นๆ กันมาในไลน์สัตว์ถูกเอามาใช้แทบจะทุกสายพันธุ์ ถ้าเราทำอีก ก็คงจะเป็นสัตว์ประหลาดแทน หรือไม่ก็มนุษย์ต่างดาว คือทำในมุมมองประมาณว่าถ้ามนุษย์ต่างดาวมีจริง เขาจะมองคนบนโลกอย่างไร หรืออะมีบ้ามองคนเป็นอย่างไร (หัวเราะ)
***ใครอยากซื้อหาหรือสนใจในสติกเกอร์ที่ไม่เพียงเป็นแค่แคปชันสื่อผ่านอารมณ์ธรรมดาๆ ก็คลิกเข้าไปที่ Line Store ค้นหาคำว่า “Little Kungfu” , “Little Cute Beggar” แล้วก็โหลดได้เลย แล้วคุณจะรู้ถึงอารมณ์ขันแสบๆ อย่างคำบอกเล่านี้***
คลิกเพื่อโหลดสติกเกอร์ LINE Little Kungfu >> https://store.line.me/stickershop/product/1038984/en
คลิกเพื่อโหลดสติกเกอร์ LINE Little Cute Beggar >> https://store.line.me/stickershop/product/1122509/en