สร้างความตกตะลึงพรึงเพริดให้กับลูกเพจอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อเจ้าของเพจชื่อดัง “คนอะไรเป็นแฟนหมี” ประกาศผ่านสเตตัสล่าสุดในเฟซบุ๊กแฟนเพจว่าตนเองได้เลิกรากับแฟนสาวผู้เป็นที่มาของเรื่องราวต่างๆ ที่แฟนเพจคุ้นเคย ด้านลูกเพจต่างพากันแสดงความเศร้าโศกเสียใจ บางรายถึงกับไม่เชื่อสิ่งที่ตาเห็นกันไปโน่นเลย
รุ่งเช้าของวันนี้ 11 เมษายน 2558 ประชาชนโซเชียลผู้เป็นแฟนๆ ของเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง ต่างพากันกดไลค์ด้วยความเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก กับสเตตัสของของเจ้าของแฟนเพจเฟซบุ๊ก “คนอะไรเป็นแฟนหมี” ที่ตื่นมาโพสต์สเตตัสตั้งแต่เช้าตรู่ ราวกับครุ่นคิดมาอย่างดีแล้ว และช่วงเช้าน่าจะเป็นช่วงเวลาที่สงบที่สุด สำหรับการบอกกล่าวถึงที่สำคัญที่สุด แต่ก็น่าตกใจที่สุดเช่นกัน
ในเนื้อความของสเตตัสดังกล่าวนั้น ระบุว่า...
“ต้องขอโทษทุกคนที่ทำให้ผิดหวังด้วยนะครับ -w-
ตอนนี้ผมได้เลิกกับน้องหมีแล้ว เนื่องจากความคิดหลาย ๆ อย่างเราไม่ตรงกันมาก -*-
หลังจากที่พยายามปรับความเข้าใจมานานแต่บางเรื่องเราก็ไม่เข้าใจกันซะที -w-
ต้องขอขอบคุณทุกคนที่คอยเชียร์ด้วยนะครับ -/\-“
ทั้งนี้ ยังมีข้อความเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย บอกว่า ต่อแต่นี้ไป เรื่องราวที่แชร์บนเพจก็จะยังคงมีอยู่ต่อไป แต่เนื้อหาจะมาจากเรื่องราวของบรรดาแฟนเพจเป็นหลัก ไม่ได้มาจาก “น้องหมี” อย่างที่เคยเป็นเช่นก่อนแล้ว
ดังที่ลูกเพจคงรู้กันอย่างถ้วนหน้าว่า ที่ผ่านมา เนื้อหาเรื่องราวพร้อมภาพประกอบที่เพจ “คนอะไรเป็นแฟนหมี” นำมาแชร์นั้น ส่วนใหญ่มีแรงบันดาลใจหรือประกายความคิดมาจากความสัมพันธ์ระหว่าง “ชายเจ้าของเพจ” กับ “แฟน” ซึ่งก็คือ “น้องหมี” หญิงสาวผู้เป็นดั่งลมใต้ปีก ให้เกิดมีเรื่องราวหลากหลายมาแชร์
ด้วยเทคนิควาดรูปที่มีลายเส้นสบายตา ผสมผสานกับมุกตลกที่โดนใจ ผ่านเรื่องราวของคู่รักธรรมดาๆ คู่หนึ่งซึ่งใช้ชีวิตประจำวันกันตามปกติ เฉกเช่นเดียวกับคู่รักอื่นทั่วๆ ไป จนกระทั่งได้รับความนิยม เพราะมุกแต่ละมุกนั้นดันไปสะกิดต่อมความใช่!!! ของหนุ่มสาวหลายคน ส่งผลให้เพจได้รับความนิยม
ผู้จัดการออนไลน์ เซ็กชั่นสัมภาษณ์พิเศษ เคยได้เปิดตัวเปิดใจเจ้าของเพจ “บอม-กษิดิศ ประสิทธิ์” ซึ่งเป็นนักศึกษาปี 4 ราชภัฎสวนดุสิต เขาได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของตัวละครยอดนิยมขวัญใจมหาชน อย่าง “น้องหมี” เอาไว้ว่า
“เพื่อนแฟนผมเขาชอบว่าแฟนผมเป็นหมี เพราะตอนปี 1 ตัวเขาจะอ้วนๆ ป้อมๆ เหมือนหมี ผมเลยเรียกตามเพื่อนเขา เหมือนเป็นฉายาของเขาครับ ก่อนจะเป็นหมี เป็นอย่างอื่นมาก่อนนะครับ มีแมวน้ำ มีเต่านะที่เพื่อนเขาชอบเรียก แต่ที่มาจบที่หมี เพราะว่าทวิตเตอร์เขาตั้งชื่อว่าคนอะไรเป็นหมี ผมเลยได้ที่มาจากตรงนั้น ถามว่าเขาโอเคไหมที่ผมเรียกว่าหมี เขาก็โอเคนะครับ ไม่ได้ว่าอะไร เขาบอกว่าก็น่ารักดี” (หัวเราะ)
“คนอะไรเป็นแฟนหมี” นับแต่เปิดตัวมาจนถึงทุกวันนี้ มีแฟนเพจกดไลค์และติดตามไปแล้วล้านกว่า ขณะเดียวกันก็มีการรวมผลงานตีพิมพ์เป็นหนังสือพ็อกเกตบุ๊กชื่อเดียวกับชื่อเพจ อีกทั้งยังต่อยอดเป็นสติ๊กเกอร์ไลน์ ทำเสื้อขาย รวมไปจนถึงงานโฆษณาบ้าง นี่นับเป็นความสำเร็จอย่างปฏิเสธไม่ได้ของการใช้สื่อร่วมสมัย และอาศัยเรื่องราวใกล้ตัวเป็นวัตถุดิบในการนำเสนอ
ในคราวที่ให้สัมภาษณ์แก่เว็บไซต์ผู้จัดการ “บอม-กษิดิศ” ได้กล่าวไว้ถึงความรักว่า
“ส่วนตัวผมเองยังไม่รู้เลยว่าจะอยู่กับเขานานขนาดไหน แต่ผมบอกรักเขาไปแล้ว ผมก็ต้องดูแลกันให้ดี จำวันแรกที่ผมบอกรักเขา ผมก็จะนึกแล้วทำให้เหมือนวันแรก ตอนที่ไปจีบเขา ผมเป็นเทวดา ผมก็ต้องเป็นเทวดาตลอด จะให้เป็นคนธรรมดาไม่ได้”
ด้วยแนวทางความคิด และด้วยผลงานที่น่าประทับใจ เมื่อมีการ “แถลงอย่างเป็นทางการ” ถึงความรักที่จบลง จึงกลายเป็นที่มาของความเสียใจของบรรดาลูกเพจที่ติดตาม และนี่ก็คือ ตัวอย่างแห่งความเห็นที่ลูกเพจพากันไปคอมเมนต์ไว้ใต้สเตตัสดังกล่าว
เรื่องราวของ “คนอะไรเป็นแฟนหมี” จึงนับเป็นเรื่องเศร้ารับสงกรานต์ ด้วยประการฉะนี้ อย่างไรก็ดี ก็มีเสียงแซวจากเพจบางเพจ ดังตัวอย่างข้างล่างนี้
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร โลกแห่งรักของสองเราอาจจบลง แต่ทางชีวิตของทั้งคู่ยังคงยาวไกล เราเองก็ขอเป็นกำลังให้ทั้งสองได้ก้าวผ่านคืนวันยากๆ นี้ไปได้
รักเราอาจจบลง แต่ความทรงจำยังคงจริงอยู่เสมอ
สู้ๆ วัยรุ่น!
รุ่งเช้าของวันนี้ 11 เมษายน 2558 ประชาชนโซเชียลผู้เป็นแฟนๆ ของเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง ต่างพากันกดไลค์ด้วยความเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก กับสเตตัสของของเจ้าของแฟนเพจเฟซบุ๊ก “คนอะไรเป็นแฟนหมี” ที่ตื่นมาโพสต์สเตตัสตั้งแต่เช้าตรู่ ราวกับครุ่นคิดมาอย่างดีแล้ว และช่วงเช้าน่าจะเป็นช่วงเวลาที่สงบที่สุด สำหรับการบอกกล่าวถึงที่สำคัญที่สุด แต่ก็น่าตกใจที่สุดเช่นกัน
ในเนื้อความของสเตตัสดังกล่าวนั้น ระบุว่า...
“ต้องขอโทษทุกคนที่ทำให้ผิดหวังด้วยนะครับ -w-
ตอนนี้ผมได้เลิกกับน้องหมีแล้ว เนื่องจากความคิดหลาย ๆ อย่างเราไม่ตรงกันมาก -*-
หลังจากที่พยายามปรับความเข้าใจมานานแต่บางเรื่องเราก็ไม่เข้าใจกันซะที -w-
ต้องขอขอบคุณทุกคนที่คอยเชียร์ด้วยนะครับ -/\-“
ทั้งนี้ ยังมีข้อความเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย บอกว่า ต่อแต่นี้ไป เรื่องราวที่แชร์บนเพจก็จะยังคงมีอยู่ต่อไป แต่เนื้อหาจะมาจากเรื่องราวของบรรดาแฟนเพจเป็นหลัก ไม่ได้มาจาก “น้องหมี” อย่างที่เคยเป็นเช่นก่อนแล้ว
ดังที่ลูกเพจคงรู้กันอย่างถ้วนหน้าว่า ที่ผ่านมา เนื้อหาเรื่องราวพร้อมภาพประกอบที่เพจ “คนอะไรเป็นแฟนหมี” นำมาแชร์นั้น ส่วนใหญ่มีแรงบันดาลใจหรือประกายความคิดมาจากความสัมพันธ์ระหว่าง “ชายเจ้าของเพจ” กับ “แฟน” ซึ่งก็คือ “น้องหมี” หญิงสาวผู้เป็นดั่งลมใต้ปีก ให้เกิดมีเรื่องราวหลากหลายมาแชร์
ด้วยเทคนิควาดรูปที่มีลายเส้นสบายตา ผสมผสานกับมุกตลกที่โดนใจ ผ่านเรื่องราวของคู่รักธรรมดาๆ คู่หนึ่งซึ่งใช้ชีวิตประจำวันกันตามปกติ เฉกเช่นเดียวกับคู่รักอื่นทั่วๆ ไป จนกระทั่งได้รับความนิยม เพราะมุกแต่ละมุกนั้นดันไปสะกิดต่อมความใช่!!! ของหนุ่มสาวหลายคน ส่งผลให้เพจได้รับความนิยม
ผู้จัดการออนไลน์ เซ็กชั่นสัมภาษณ์พิเศษ เคยได้เปิดตัวเปิดใจเจ้าของเพจ “บอม-กษิดิศ ประสิทธิ์” ซึ่งเป็นนักศึกษาปี 4 ราชภัฎสวนดุสิต เขาได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของตัวละครยอดนิยมขวัญใจมหาชน อย่าง “น้องหมี” เอาไว้ว่า
“เพื่อนแฟนผมเขาชอบว่าแฟนผมเป็นหมี เพราะตอนปี 1 ตัวเขาจะอ้วนๆ ป้อมๆ เหมือนหมี ผมเลยเรียกตามเพื่อนเขา เหมือนเป็นฉายาของเขาครับ ก่อนจะเป็นหมี เป็นอย่างอื่นมาก่อนนะครับ มีแมวน้ำ มีเต่านะที่เพื่อนเขาชอบเรียก แต่ที่มาจบที่หมี เพราะว่าทวิตเตอร์เขาตั้งชื่อว่าคนอะไรเป็นหมี ผมเลยได้ที่มาจากตรงนั้น ถามว่าเขาโอเคไหมที่ผมเรียกว่าหมี เขาก็โอเคนะครับ ไม่ได้ว่าอะไร เขาบอกว่าก็น่ารักดี” (หัวเราะ)
“คนอะไรเป็นแฟนหมี” นับแต่เปิดตัวมาจนถึงทุกวันนี้ มีแฟนเพจกดไลค์และติดตามไปแล้วล้านกว่า ขณะเดียวกันก็มีการรวมผลงานตีพิมพ์เป็นหนังสือพ็อกเกตบุ๊กชื่อเดียวกับชื่อเพจ อีกทั้งยังต่อยอดเป็นสติ๊กเกอร์ไลน์ ทำเสื้อขาย รวมไปจนถึงงานโฆษณาบ้าง นี่นับเป็นความสำเร็จอย่างปฏิเสธไม่ได้ของการใช้สื่อร่วมสมัย และอาศัยเรื่องราวใกล้ตัวเป็นวัตถุดิบในการนำเสนอ
ในคราวที่ให้สัมภาษณ์แก่เว็บไซต์ผู้จัดการ “บอม-กษิดิศ” ได้กล่าวไว้ถึงความรักว่า
“ส่วนตัวผมเองยังไม่รู้เลยว่าจะอยู่กับเขานานขนาดไหน แต่ผมบอกรักเขาไปแล้ว ผมก็ต้องดูแลกันให้ดี จำวันแรกที่ผมบอกรักเขา ผมก็จะนึกแล้วทำให้เหมือนวันแรก ตอนที่ไปจีบเขา ผมเป็นเทวดา ผมก็ต้องเป็นเทวดาตลอด จะให้เป็นคนธรรมดาไม่ได้”
ด้วยแนวทางความคิด และด้วยผลงานที่น่าประทับใจ เมื่อมีการ “แถลงอย่างเป็นทางการ” ถึงความรักที่จบลง จึงกลายเป็นที่มาของความเสียใจของบรรดาลูกเพจที่ติดตาม และนี่ก็คือ ตัวอย่างแห่งความเห็นที่ลูกเพจพากันไปคอมเมนต์ไว้ใต้สเตตัสดังกล่าว
เรื่องราวของ “คนอะไรเป็นแฟนหมี” จึงนับเป็นเรื่องเศร้ารับสงกรานต์ ด้วยประการฉะนี้ อย่างไรก็ดี ก็มีเสียงแซวจากเพจบางเพจ ดังตัวอย่างข้างล่างนี้
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร โลกแห่งรักของสองเราอาจจบลง แต่ทางชีวิตของทั้งคู่ยังคงยาวไกล เราเองก็ขอเป็นกำลังให้ทั้งสองได้ก้าวผ่านคืนวันยากๆ นี้ไปได้
รักเราอาจจบลง แต่ความทรงจำยังคงจริงอยู่เสมอ
สู้ๆ วัยรุ่น!